Tag Archives: บทความคริสเตียน

คำอธิษฐาน : ภาวนาบัญญัติ

♥  ยชว.1:8 … อย่าให้หนังสือธรรมบัญญัตินี้ห่างจากปากของเจ้า แต่จงตรึกตรองตามนั้นทั้งกลางวันและกลางคืน เพื่อเจ้าจะได้ระวังที่จะทำตามข้อความทุกประการที่เขียนไว้นั้น แล้วเจ้าจะมีความเจริญและประสบความสำเร็จ ♥  “ข้าแต่พระเจ้า…. ข้าพระองค์จะระลึกถึงถ้อยคำตรัสและบัญญัติของพระองค์ ภาวนาภายในทั้งกลางวัน กลางคืน จนกว่าจะเกิดผลดีในชีวิต ขอทรงสำแดงความล้ำลึกและกระจ่างแจ้ง ถึงบัญญัติเหล่านั้น เพื่อจะสามารถก้าวถูกทาง ขอโปรดสำแดงซึ่งน้ำพระทัยเพื่อ วิถีชีวิตจะอยู่ในน้ำพระทัยของพระองค์ ขอพระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานภายในร่วมกับข้าพระองค์ เพื่อจะเห็นฤทธิเดชแห่งสัจจะของบัญญัติพระองค์ อธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์ เอเมน” ♥ ♥ ♥ 110714

คำอธิษฐาน : ขอแผ่นดินสวรรค์มาตั้งอยู่

มธ.6:10 … ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามน้ำพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นเช่นไรก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก “ข้าแต่พระเจ้า … ขอแผ่นดินพระองค์มาตั้งอยู่บนแผ่นดินโลกในครัวเรือน ในที่ทำงาน ในทุกที่ที่ย่างเท้าไป … ขอความงดงามและความสงบสุขก่อเกิดขึ้นภายใน จนสามารถมองเห็นความงดงามของพระองค์ และนับพระพรแห่งการทรงสร้างของพระองค์ในชีวิตได้… ขอโปรดเคียงข้างในทุกย่างก้าว … ขอใส่ใจแห่งการสรรเสริญ ริมฝีปากแห่งการอวยพร มือแห่งการนมัสการ และหัวเข่าแห่งการร้องทูล ถ้อยคำแห่งการสรรเสริญ เยินยอ นามของพระเยซู อธิษฐานในนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน” ♥ ♥ ♥ 100714

คำอธิษฐาน : ขอการปกป้องจากสิ่งชั่วร้าย

“ข้าแต่พระเจ้า… ขอพระสิริของพระองค์และความรักแห่งกางเขน ปกคลุมผืนแผ่นดินโลก ขอทรงปกป้องข้าพระองค์ทั้งหลายจากคนร้าย สัตว์ร้าย สถานการณ์ร้าย โรคร้าย สิ่งชั่วร้ายทั้งปวง ขอเหวี่ยงให้ไกลห่างดั่งตะวันตกกับ ตะวันออก ขอปกป้องร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณ ความคิด ครอบครัว บุคคลที่รัก วัตถุที่ถือครอง การเงิน การงาน คริสตจักร ขอพระสิริของพระองค์ครอบครอง โดยนามพระเยซูคริสต์ เอเมน” ♥ ♥ ♥   090714

สวรรค์ : ทำสิ่งเดียวกับพระเยซู

ชายคนหนึ่งนั่งอยู่ที่เก้าอี้ตัวข้างหน้าข้าพเจ้า ก้มหน้าอย่างสงบ มือประสานกัน เวลาผ่านไปนานแล้วนานเล่า  เขายังคงนั่งนิ่งอยู่ในท่าเดิมนั้น แน่นอนทันทีที่มองเห็นก็รู้ว่า “เขากำลังอธิษฐานอยู่”… เวลาผ่านไปแสนเนิ่นนาน อย่างเงียบๆ ข้าพเจ้ายังคงเรียกหาพระเยซูอยู่ภายในด้วยใจภาวนา พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงตรัสขึ้นภายใน “เจ้าไม่เห็นหรือว่า พระเยซูกำลังอธิษฐานอยู่” ข้าพเจ้ารู้ทันทีเลยว่า ทรงหมายถึง ชายผู้นั่งตรงหน้าข้าพเจ้า พระองค์ คือ พระเยซูนั่นเอง !!! เวลายังคงเดินต่อไปเรื่อยๆ เนิ่นนาน  แต่ข้าพเจ้าก็ยังคงเรียกหาพระเยซูอย่างไม่หยุดหย่อน  .. แม้จะทรงนั่งอยู่ตรงหน้า แต่ใจภายใน กลับไม่ยอมหยุดที่จะเรียกร้องหาพระองค์ ข้าพเจ้าก็ยังคงเรียกหาพระองค์ต่อไปเรื่อยๆ ไม่หยุดหย่อนเลย ใจสั่นระรัว เสมือนว่า จะเร่งเร้าให้พระองค์ตรัสบางสิ่ง หรือ อะไรก็ได้กับข้าพเจ้า ด้วยใจที่คาดหวัง ดูเหมือนจะเร่งรัดๆ ให้เร็วขึ้น … แต่พระองค์ยังทรงนิ่งสงบอยู่ตรงนั้น โดยไม่ได้หันมามองข้าพเจ้าเลยสักนิด++ พระวิญญาณบริสุทธิ์ ทรงตรัสว่า “พระองค์ก็ทรงอยู่ตรงนี้แล้วมิใช่หรือ???” ทรงปลอบโยนข้าพเจ้าให้ใจเย็นลง สงบลงทีละเล็กละน้อย ข้าพเจ้าค่อยๆ เริ่มเปลี่ยนจากการเรียกหาพระองค์ เป็นร้องขอ การสอน และ ความเข้าใจ  … “ทำไมไม่เห็นเข้าใจเลยในสิ่งที่ปรากฏตรงหน้า” … ได้แต่นึกคิดเองตามธรรมชาติว่า… Read More »

ร่นเวลา

พระเจ้าทรงตั้งวาระและเวลาให้กับเราแต่ละเรื่องอยู่แล้ว แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างอาจจะทำให้เกิดการร่นเวลาสั้นเข้าได้ หากในวาระนั้นๆ เราได้เรียนรู้ครบทุกอย่างและผ่านได้ครบทุกสิ่ง มธ.24:22 และถ้ามิ ได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีเนื้อหนังใด ๆ รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้ที่เลือกสรรไว้ จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า มก.13:20 ถ้าองค์ พระผู้เป็นเจ้ามิได้ทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า จะไม่มีเนื้อหนังใด ๆ รอดได้เลย แต่เพราะทรงเห็นแก่ผู้ถูกเลือกสรรซึ่งพระองค์ได้ทรงเลือกไว้ พระองค์จึงทรงให้วันเหล่านั้นย่นสั้นเข้า 1 คร.7:29 พี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าหมายความว่ายุคนี้ก็สั้นมากแล้ว ตั้งแต่นี้ไปให้คนเหล่านั้นที่มีภรรยาดำเนินชีวิตเหมือนกับไม่มีภรรยา ปัจจัยที่ส่งผลต่อการร่นเวลาของพระเจ้า 1. การผ่านทุกบททดสอบในวาระนั้น ♣    ในแต่ละช่วงชีวิตของเรา พระเจ้าจะมีวาระสำหรับสิ่งต่างๆ ให้เราได้เรียนรู้ เพื่อเติบโตขึ้นสู่วาระต่อๆไป และเพื่อท้ายที่สุดคือ ความไพบูลย์ของพระคริสต์ในชีวิตเรา แต่ละเรื่องมักจะเป็นพื้นฐานในก้าวต่อๆไปเสมอ ♣    ตัวอย่าง พระเจ้าให้เราเรียนรู้ความอดทนต่อผู้บีบบังคับเราเป็นเวลา 1 ปี แต่เนื่องจากการตอบสนองอย่างดี เรียนรู้เร็ว อันมาจากการเสาะแสวงหาพระพักตร์พระเจ้าอย่างสัตย์ซื่อต่อเนื่องไม่ลดละ และมุ่งมั่นด้วยการปล้ำสู้ ทำให้เราผ่านทุกด่านในวาระนี้ เข้าใจจนเป็นชีวิต และได้มาซึ่งสิ่งที่พระเจ้าตั้งไว้สำหรับเราแล้ว การร่นเวลาเข้าสั้นจึงเกิดขึ้น เมื่อทุกสิ่งอย่างหมดสิ้นในวาระกำหนด 1 ปี อาจเหลือเพียง 3… Read More »

จิ้กซอว์ชีวิต

ชีวิตคนเราเปรียบเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ เราแต่ละคนมีภาพที่สมบูรณ์แบบ จากการทรงสร้างที่พระเจ้าบรรจงสร้างเราไว้แต่แรกเดิม ตั้งแต่ในครรภ์มารดา มีเพียงพระองค์เท่านั้นที่รู้อย่างสมบูรณ์แบบถึงภาพที่ครบถ้วนนั้น เราไม่รู้อะไรเบื้องหน้ามากนัก นอกจากก้าวต่อก้าว … ในแต่ละก้าวที่เดินไปกับพระเจ้า ก็เปรียบเสมือนเราได้รับจิ๊กซอว์มา 1 ชิ้น ต่อแต่ละเหตุการณ์ แต่ละช่วงชีวิต เพื่อนำมาประติดประต่อ ดูเหมือนมันเป็นเพียงชิ้นส่วนเล็กๆ ซึ่งอาจไม่มีความหมายสำหรับเราในเวลานั้น   … แต่ท้ายที่สุดเราจะสามารถค้นพบความหมายและคำตอบได้เมื่อวันเวลาผ่านไป  เมื่อเราโตขึ้น  เมื่ออะไรหลายๆ อย่างกระจ่างมากขึ้น …  เมื่อนำชิ้นส่วนเล็กๆ นี้ไปต่อเข้ากับส่วนอื่นๆ ที่จะได้มาในอนาคต หรือเคยได้มาแล้ว… แต่หากเราโยนมันทิ้งไป เมื่อถึงเวลานำมาต่อเข้ารวมกัน ภาพชีวิตของเราก็จะไม่สมบูรณ์ ขาดแหว่ง บางส่วนไป เป็นผลมาจากการโยนมันทิ้งนั่นเอง (ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ก็ตาม) ภาพ : พระเจ้าให้จิ๊กซอว์กับเราแต่ละชิ้น  ผ่านคำเผย  เสียงตรัส  ความเข้าใจ  บทเรียนชีวิตผ่านเหตุการณ์  ความเข้าใจ  พระสัญญา  การเปิดเผยส่วนตัว  การเปิดเผยองค์รวม ….. อย่าทิ้งบางชิ้นลงถังขยะ เพราะมันจะเป็นองค์ประกอบที่ต่อเข้ากับตัวอื่นในที่สุด เราจะได้รับจิ๊กซอว์ชีวิตจากทางไหนบ้าง? 1.    การศึกษาพระคำส่วนตัว 2.    การอธิษฐานส่วนตัว รับการสำแดง นิมิต… Read More »

ทำไมแล้วจึงอย่างไร

ทำไม??? ปกติธรรมชาติมนุษย์มักต้องการรู้ ที่มาที่ไปในแต่ละเรื่อง เพราะเมื่อใดที่กระจ่างแจ้งย่อมยินดีที่จะก้าวตาม หากเราไม่รู้ว่า สิ่งที่ต้องทำๆ ไปเพื่ออะไร? ไม่รู้วัตถุประสงค์ ก็เปรียบเหมือน การแล่นเรือออกทะเลโดยไร้จุดหมายปลายทาง จึงต้องเผชิญกับความอ้างว้างกลางทะเลในบางช่วง พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่เปิดเผยความจริงให้แก่เรา เมื่อเราแสวงหาพระองค์ จะสามารถค้นพบคำตอบในพระองค์ได้เป็นแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลกอะไร ที่มนุษย์อย่างเราจะเสาะหาต้นเหตุที่พระเจ้าเรียกร้องเรา … เมื่อมีสถานการณ์หนึ่งเกิดขึ้น แล้วเราแสวงหาพระเจ้าจนรู้แน่ว่าเพราะเหตุใด? พระองค์จึงเรียกเรา หรือให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น …ย่อมเป็นการง่ายที่จิตใจภายในจะยอมจำนนต่อพระองค์มากเสียกว่า  การพยายามปลอบใจตัวเองว่าให้ตอบสนองพระเจ้าอย่างดีเถิด… ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเพื่ออะไร?  เพราะอะไร? สิ่งที่มักเกิดตามมาคือ… ไม่มีความมั่นใจในการตอบสนองว่า มาถูกทางหรือเปล่า? และหากไม่ตรงเป้า นั่นแสดงว่ายังไม่ผ่าน และหากยังไม่ผ่านเรื่อยๆ ก็ย่อมหมดแรงกำลังในตอบสนองในที่สุด  เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะล้มเลิก… แต่แท้จริงพระเจ้ายินดีจะเปิดเผยและแจ้งน้ำพระทัยของพระองค์ในชีวิตเรา และแก่ผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์เสมอ … ด้วยว่าพระองค์ปรารถนาจะอยู่เคียงข้างคนของพระเจ้า และอยากให้เราผ่านเสมอ ทุกเส้นทาง และตลอดเส้นทาง *** ดังนั้นการถามถึงสาเหตุจากพระเจ้าจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ หากท่าทีของเราเป็นเพียงการเสาะหาคำตอบจากพระเจ้า แทนที่ การไม่ยอมจำนน!!! หากเราเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับเราแล้วว่า … ทรงมีแผนการณ์และน้ำพระทัยเช่นไรในตัวเรา ความมั่นคงย่อมเกิดง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่ปรารถนาจะตอบสนองและเดินกับพระเจ้าแบบก้าวต่อก้าวอยู่แล้ว เมื่อเรารู้แผนการณ์น้ำพระทัยพระเจ้าแล้ว ยังไม่จบกระบวนการเพียงเท่านั้น … แต่เป็นเพียงการเริ่มต้น  การรู้น้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตเราจะไร้ค่า … Read More »

ชักช้าจนได้เรื่อง

ด้วยความชักช้า ไม่กล้าตอบสนองพระเจ้าสักที  จนกระทั่งเวลาจวนเจียนสุดๆ แล้ว ก็ยังไม่ตัดสินใจอีก สุดท้ายทูตสวรรค์ต้องทำเอง ด้วยการดึงโลทออกมาจากเมืองโสโดม แท้จริงโลทมีเวลาที่จะก้าวและตัดสินใจก่อนหน้านี้  แต่เพราะความเสียดาย แม้สิ่งนั้นต้องถูกทำลาย  , ความกังวล แม้สิ่งนั้นเขาช่วยอะไรไม่ได้เลย … โลทไม่สามารถช่วยเหลือชาวเมืองโสโดมได้เลยสักคนเดียว แม้แต่คนในครอบครัว เขายังช่วยได้เพียงบางคน ซึ่งน้อยนิดเหลือเกิน แต่เพราะมีอับราฮัมผู้ที่รักพระเจ้าเสียเหลือเกิน และรักโลท จนร้องทูลต่อรองกับพระเจ้าเพื่อโลท … ถึงอย่างนั้นโลทก็ยังไม่ตัดสินใจ แม้โอกาสที่พระเจ้าให้แก่เขา เพราะผู้ชอบธรรมร้องทูลเพื่อเขา (การให้โอกาสของพระเจ้าที่มีต่อเขา หาใช่มาจากชีวิตของโลทเองไม่!!!) *** การช่วยเหลือของทูตสวรรค์ที่มีมายังโลท เพราะเห็นแก่อับราฮัมล้วนๆ  ♥ เห็นแก่การร้องทูลของอับราฮัม  ♥ เห็นแก่ชีวิตที่ชอบธรรมและรักพระเจ้าของอับราฮัม  ♥ เห็นแก่ความกล้าหาญของอับราฮัมที่กล้าต่อรองกับพระเจ้าเพื่อโลท  ♥ เห็นแก่ความรักความห่วงใยที่อับราฮัมมีให้โลท  ♥ เห็นแก่ความสัมพันธ์ของโลทที่เชื่อมต่อกับอับราฮัมทางสายเลือด… *** ??? แล้วเรามีอับราฮัมคนนั้นในชีวิตหรือเปล่า ???   ปฐก.19:15-17 19:15 และเมื่อรุ่งเช้าทูตสวรรค์เหล่านั้นจึงเร่งเร้าโลท กล่าวว่า “จงลุกขึ้น พาภรรยาของเจ้า และบุตรสาวทั้งสองของเจ้า ซึ่งอยู่ที่นี่ไปเสีย เกรงว่าเจ้าจะถูกทำลายพร้อมกับความไร้ศีลธรรมของเมืองนี้” 19:16… Read More »

จัดการกับบาป ไม่ใช่ปรับตัวให้เข้ากับบาป

เป็นมะเร็งต้องรักษา ยอมรับการผ่าตัดจึงจะหาย ไม่ใช่ปรับตัวให้อยู่กับมันได้ เพราะเราไม่รู้มันจะกำเริบขึ้นมาเมื่อใด ฉันใดก็ฉันนั้น บาปก็เช่นกัน … เราไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับบาป และยอมรับมันไว้ในชีวิตได้ เพราะบาปขวางกั้นการเติบโตฝ่ายวิญญาณและความบริสุทธิ์ของพระเจ้า ทำให้ไม่สามารถใกล้ชิดพระเจ้าได้มากกว่าที่เป็นอยู่ … แม้จะมีใจอยากและความปรารถนาแรงกล้าสักเพียงใดก็ตาม … บาปไม่สามารถเข้ากันกับความบริสุทธ์ของพระเจ้าได้เลยแม้แต่น้อย …  เราไม่สามารถมีบาปในชีวิตพร้อมๆ กับความบริสุทธิ์ได้ ดังนั้นหากอยากได้ความบริสุทธิ์ต้องจัดการสิ่งที่ทำให้ความบริสุทธิ์อยู่ในเราไม่ได้เสียก่อน ไม่ว่าจะโรคร้าย หรือ เพียงแค่กลัดหนอง หากยอมเอาเชื้อโรคออก ย่อมหายขาด … ชีวิตคริสเตียนหากจัดการบาปย่อมเป็นอิสระและมีเสรีภาพ ไม่ต้องคอยกังวล ว่ามันจะกลับมาเมื่อไร ไม่ต้องคอยระแวงว่าจะโผล่มาเมื่อไร ไม่ต้องเสียแรงหรือลงแรงไปแล้วรู้สึกเปล่าประโยชน์ เพราะว่ายังคงมีเชื้อบางอย่างที่คอยทิ่มแทงภายในเสมอๆ ปัญหาส่วนใหญ่เกิดจากการยอมรับสภาพบาปได้ และไม่คิดจะจัดการมันอย่างจริงจัง จึงไม่สามารถเห็นฤทธิ์เดชแห่งการไถ่ของพระเยซู การดำเนินชีวิตจึงยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิมเป็นวัฏจักร … ใช่ว่านอนหลับไปแล้ว พอตื่นขึ้นมา  บาดแผลหรือบาปเหล่านั้นจะหายไปชั่วข้ามคืน เพราะการนอนหลับ  , ใช่ว่า การแกล้งพยายามไม่รับรู้ ไม่สนใจ จะทำให้หายจากอาการเหล่านั้น  หรือทำให้สิ่งต่างๆ ดีขึ้น …  แน่นอนบางครั้งมันอาจจะดีขึ้นบ้าง หลังจากได้พักกาย หลังจากมีระยะห่างไม่จมปลักอยู่กับสภาพนั้นๆ แต่มันยังคงอยู่ รอเวลาที่จะปะทุขึ้นใหม่อีกครั้ง การยอมรับบาป =… Read More »

การสิ้นชีพของโมเสส

พระเจ้าเรียกโมเสสให้นำอิสราเอลออกจากอียิปต์เข้าสู่คานาอัน แสดงว่างานนี้จะเสร็จสิ้นเมื่อได้เข้าคานาอัน แต่ด้วยความผิดพลาดของโมเสส เขาจึงไม่ได้เข้าคานาอัน… แต่ถึงกระนั้นพระเมตตาของพระเจ้าที่มีต่อโมเสสและเห็นแก่ชีวิตที่ทุ่มเทเดินติดตามพระเจ้าของเขาอย่างที่สุด พระเจ้าให้เขาได้เห็นในสิ่งที่พระองค์สัญญาว่าจะให้แก่ชนชาตินี้ และทรงรับเขาไป เขาตายบนภูเขาเนโบ ที่ๆ เขาได้พบกับพระเจ้าและตายในอ้อมกอดของพระเจ้า ทั้งที่ไม่มีใครเห็นเขาเลย พระเจ้าฝังเขาเอง ฉธบ.34:1-12 34:1 และโมเสสก็ขึ้นไปจากที่ราบโมอับถึงภูเขาเนโบ ถึงยอดเขาปิสกาห์ ซึ่งอยู่ตรงข้ามเมืองเยรีโค และพระเยโฮวาห์ทรงสำแดงให้ท่านเห็นแผ่นดินนั้นทั้งหมด คือกิเลอาดจนถึงดาน 34:2 ทั้งนัฟทาลีทั่วหมด เห็นแผ่นดินเอฟราอิม และมนัสเสห์ ทั่วแผ่นดินยูดาห์ ไกลไปถึงทะเลที่อยู่ไกลออกไป 34:3 ทั้งทางใต้และที่ลุ่มในหุบเขาแห่งเมืองเยรีโค เมืองต้นอินทผลัม ไกลไปจนถึงโศอาร์ 34:4 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับท่านว่า “นี่คือแผ่นดินซึ่งเราได้ปฏิญาณต่ออับราฮัม ต่ออิสอัค และต่อยาโคบ ว่า ‘เราจะให้แก่เชื้อสายของเจ้า’ เราให้เจ้าเห็นกับตา แต่เจ้าจะไม่ได้เข้าไปในแผ่นดินนั้น” 34:5 เหตุฉะนั้นโมเสสผู้รับใช้ของพระเยโฮวาห์จึงสิ้นชีวิตที่นั่นในแผ่นดินโมอับ ตามพระดำรัสของพระเยโฮวาห์ 34:6 และพระองค์ทรงฝังท่านไว้ในหุบเขาในแผ่นดินโมอับ ตรงข้ามเบธเปโอร์ จนถึงทุกวันนี้หามีผู้ใดรู้จักที่ฝังศพของท่านไม่ 34:7 เมื่อโมเสสสิ้นชีวิตนั้นท่านมีอายุหนึ่งร้อยยี่สิบปี นัยน์ตาของท่านมิได้มัวไป หรือกำลังของท่านก็ไม่ถอย 34:8 และคนอิสราเอลร้องไห้ถึงโมเสสที่ราบโมอับสามสิบวัน แล้ววันที่ร้องไห้ไว้ทุกข์ถึงโมเสสก็สิ้นลง 34:9 โยชูวาบุตรชายนูนมีจิตใจอันประกอบด้วยสติปัญญา เพราะโมเสสได้เอามือของท่านวางบนเขา… Read More »