Tag Archives: บทความคริสเตียน

คำอธิษฐาน : สรรเสริญพระเจ้า

“ข้าแต่พระเจ้า … ผู้ทรงหวงแหน และรักอุดม… ♥ ขอโปรดปกคลุมข้าพระองค์ทั้งหลายด้วยพระสิริของพระองค์ ♥ ขอทรงซ่อนข้าพระองค์ทั้งหลายจากบรรดาซึ่งชั่วร้ายทั้งมวลไว้ใต้อ้อมกอดของพระองค์ ♥ ขอโปรดสำแดงความรักมั่นคงในทุกเช้าวันใหม่ เทความสดใหม่แก่ผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์ ♥ ขอโปรดเปิดเผยความล้ำลึก แก่บรรดาผู้รักษาทางของตนให้อยู่ในมรรคาของพระองค์ ♥ ขอโปรดประทานพระพรอันยัดสั่นแน่นพูนล้น แก่บรรดาผู้ชอบธรรมที่จ่ายราคาออกเพื่อพระองค์ ♥ ขอพระสิริความงดงามของพระองค์ประจักษ์ต่อแผ่นดินโลกนี้ ด้วยว่าทุกเข่าจะสรรเสริญ ทุกลิ้นจะยกยอพระนามพระองค์ และทุกมือจะชูขึ้นต่อพระองค์ *** ขอพระเกียรติสิริมีแด่พระองค์ผู้ทรงสัจจริงแต่เพียงนามเดียว อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน” 280714  

คำอธิษฐาน : ขอสันติสุขแด่เยรูซาเล็ม

ชาโลม ชาโลม เยรูซาเล็ม…  “ข้าแต่พระบิดา ผู้ทรงตั้งชนชาติของพระองค์ไว้ … ไม่ทรงหักและทำลาย ขออวยพระพรชนชาติของพระองค์ … ด้วยว่าทรงรักและถนอมดั่งแก้วตาดวงใจ… ขอทรงอยู่เหนือประชากรและชนชาติของพระองค์ … ดั่งที่ทรงอยู่มาแล้วฉันใด ขอทรงกอบกู้ประชากรของพระองค์ฉันนั้น ขอพระพรอย่างเต็มขนาดอยู่เหนือชนชาติของพระองค์ ผู้ใดอวยพรชนชาติพระองค์ พระพรจะเทกลับมาสู่เขา…. ขอให้ถ้อยคำแช่งสาปเป็นโมฆะ แต่พลิกฟื้นให้เห็นว่าพระเจ้าอยู่ฝ่ายใด โอ้…. อิสราเอลเอ๋ย ชาโลม ชาโลม ขอสันติสุขจงมีแด่นครบริสุทธิ์ของพระเจ้า อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน “   ขอสันติสุขแด่เยรูซาเล็ม 260714  

อย่าตัดสินก่อนไต่สวน

คำตัดสินต้องมาหลังจากการสอบสวน เพราะพระเจ้าจะแก้ต่างให้แก่ผู้ชอบธรรม ตัวอย่าง พระเยซูก่อนถูกตรึงก็ถูกสอบสวน มธ.27:11-14 27:11 เมื่อพระเยซูทรงยืนอยู่ต่อหน้าเจ้าเมือง เจ้าเมืองจึงถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ” พระเยซูตรัสกับท่านว่า “ก็ท่านว่าแล้วนี่” 27:12 แต่เมื่อพวกปุโรหิตใหญ่และพวกผู้ใหญ่ได้ฟ้องกล่าวโทษพระองค์ พระองค์มิได้ทรงตอบประการใด 27:13 ปีลาตจึงกล่าวแก่พระองค์ว่า “ซึ่งเขาได้กล่าวความปรักปรำท่านเป็นหลายประการนี้ ท่านไม่ได้ยินหรือ” 27:14 แต่พระองค์ก็มิได้ตรัสตอบท่านสักคำเดียว เจ้าเมืองจึงอัศจรรย์ใจยิ่งนัก มก.15:2-5 15:2 ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ” พระองค์ตรัสตอบท่านว่า “ท่านว่าแล้วนี่” 15:3 ฝ่ายพวกปุโรหิตใหญ่ได้ฟ้องกล่าวโทษพระองค์เป็นหลายประการ แต่พระองค์ไม่ตรัสตอบประการใด 15:4 ปีลาตจึงถามพระองค์อีกว่า “ท่านไม่ตอบอะไรหรือ ดูเถิด เขากล่าวความปรักปรำท่านหลายประการทีเดียว” 15:5 แต่พระเยซูมิได้ตรัสตอบประการใดอีก ปีลาตจึงอัศจรรย์ใจ ลก.23:3-5 23:3 ปีลาตจึงถามพระองค์ว่า “ท่านเป็นกษัตริย์ของพวกยิวหรือ” พระองค์ตรัสตอบท่านว่า “ก็ท่านว่าแล้วนี่” 23:4 ปีลาตจึงว่าแก่พวกปุโรหิตใหญ่กับประชาชนว่า “เราไม่เห็นว่าคนนี้มีความผิด” 23:5 เขาทั้งหลายยิ่งกล่าวแข็งแรงว่า “คนนี้ยุยงพลเมืองให้วุ่นวาย และสั่งสอนทั่วตลอดยูเดีย ตั้งแต่กาลิลีจนถึงที่นี่” ยน.18:33-38 18:33 ปีลาตจึงเข้าไปในศาลปรีโทเรียมอีก… Read More »

พระเจ้าใช้แต่ละคนได้นานแค่ไหน?

บางคนพระเจ้าใช้จนวันตาย แต่บางคนพระเจ้าใช้เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วให้หยุดพัก รักษาชีวิต เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในทุกวาระและเวลาของพระเจ้า แท้จริงไม่มีใครที่ต้องรับใช้อยู่ทุกเวลา จะมีบางช่วงเวลา สั้นหรือยาวอยู่ที่พระเจ้าใช้เราเรื่องอะไร หากการทรงเรียกในเราสำเร็จและเป็นเวลาผลัดรุ่น นั่นหมายถึง เราได้สำเร็จลุล่วงในแผนการณ์พระเจ้าในชีวิตเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลาที่เหลือ คือ การชื่นชมและอยู่กับพระเจ้าจนวันที่ทรงรับไป ตัวอย่าง อับราฮัม เขาทำภาระกิจของเขาเสร็จสิ้นก่อนที่จะตายลง เวลาก่อนจะตายสำหรับอับราฮัมมีมาก เขาใช้ชีวิตชื่นชมกับสิ่งที่พระเจ้าให้ ในวาระสุดท้ายของชีวิต ชื่นชมและส่งต่อให้กับคนรุ่นถัดไป อย่างอิสอัค อวยพรลูกหลาน และเล่าถึงความดีงามของพระเจ้าในชีวิตของเขา (สังเกตุจากที่ลูกหลานทุกคนกล่าวถึงพระเจ้าของอับราฮัม) คนที่พระเจ้าเลือกสำหรับสร้างพลับพลาของโมเสส พวกเขาถูกเลือกอย่างเจาะจงให้ทำงานแต่ละด้าน เมื่อจบสิ้นการสร้างพลับพลา ภาระกิจในชีวิตของเขาก็เสร็จสิ้น เวลาชีวิตที่เหลือ คือ ดำเนินกับพระเจ้า ชื่นชมความงดงาม เล่าถึงสิ่งที่พระเจ้าเป็นและทำ สิ่งที่ตนเองได้เห็น ให้คนรุ่นต่อไปฟัง แต่จะมีบางคนที่พระเจ้าใช้จนวันตาย เช่น โมเสส ผู้วินิจฉัย … แต่ข้อสังเกตุหนึ่งคือ คนเหล่านี้ก็ถูกเรียกเมื่อยามแก่เฒ่าแล้ว คือ เขาก็รับใช้พระเจ้าเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเช่นกัน เพราะการเริ่มต้นการรับใช้ของแต่ละคนต่างกัน แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงเตรียมชีวิตของเราต่างกันออกไป เนิ่นนานบ้าง เร็วบ้าง บางคนรับใช้ตั้งแต่วัยเยาว์ เสร็จสิ้นรวดร็ว บางคนถูกเตรียมชีวิตเนิ่นนาน กว่าจะถึงเวลาที่สามารถใช้การได้ … แต่ผู้กำหนดคือ… Read More »

บรรจบอย่างลงตัว

เปรียบดั่งระบบนิเวศน์ … นก สายน้ำ อากาศ ภูเขา ต้นไม้ แมลง … ทุกสิ่งล้วนเป็นระบบนิเวศน์ที่ครบบริบูรณ์ตามการทรงสร้างของพระบิดาแต่แรกเดิม แท้จริงเราแต่ละคนมีหน้าที่เพียงแต่ทำส่วนของตนเองที่พระเจ้า เรียกและตั้งไว้เป็นการเจาะจง เมื่อเรายืนในจุดที่พระเจ้าเรียกและใช้ชีวิตตามการทรงเรียกของตนเอง ส่วนองค์รวมจะบรรจบกันเองอย่างลงตัว อีกทั้งยังมีส่วนของพระเจ้าที่เติมเต็มอีกด้วย แท้จริงพระเจ้าสร้างส่วนนั้นไว้แล้ว เมื่อแต่ละคน แต่ละอย่างเข้าประจำจุดที่ควรเป็นและต้องเป็นอย่างตั้งมั่นคง เราจะมองเห็นส่วนเติมเต็มของพระเจ้าที่ตั้งไว้แต่แรกเริ่มอยู่แล้ว… แต่ที่ไม่สามารถมองเห็นส่วนนั้นได้ เนื่องจากการไม่บรรจบกันของการยืนในจุดที่พระเจ้าเรียก มนุษย์มักคิดแผนการณ์และประมวลผลเองตามที่ตนมองเห็น , เข้าใจ และขนบธรรมเนียม ประเพณี ของบรรพบุรุษ แทนการมองความสมบูรณ์ของพระเจ้า ดังนั้นจึงทำให้หลงประเด็นไปจากการทรงเรียกแท้ และทำให้ไม่สามารถยืนในจุดที่พระเจ้าตั้งเราแต่ละคนส่วนตัวไว้อย่างเพียวๆ 100% … แต่ถึงกระนั้นส่วนของผู้ที่ยืนถูกจุด ตรงล็อคอย่างเหมาะเจาะของน้ำพระทัยพระเจ้า ก็จะพอมองเห็นส่วนเติมเต็มนั้นที่พระเจ้าตั้งไว้ (เนื่องจากพระเจ้าทรงยุติธรรม ผู้ใดจ่ายย่อมได้รับ ผู้ใดแสวงหาย่อมพบ) แต่องค์รวมย่อมต้องให้ทุกคนยืนในจุดของตนเองร่วมกัน ภาพรวมจึงสมบูรณ์แบบ การตัดเสียงสะท้อนที่เป็นเงื่อนไขและคำถาม ที่พาขัดแย้งกับการทรงเรียกของเราอย่างเจาะจง เป็นการปกป้องการหลงไหลเพลิดเพลินไปตามกระแส เนื่องจากเราแต่ละคนมีจุดที่พระเจ้าตั้งไว้ และจุดที่ต้องยืนแตกต่างกัน จึงไม่สามารถนำจุดยืนของอีกคนมาวัดได้ เพราะอาจเป็นการเบนเข็มหรือเบี่ยงเบนออกนอกน้ำพระทัยพระเจ้าแบบเจาะจงในชีวิตของเรา แม้จะยังอยู่ในน้ำพระทัยโดยรวมก็ตาม แต่ส่วนที่พระเจ้าตั้งและเรียกเราไว้นั้นจะขาดแหว่ง ภาพ : ทุกคนต้องประกาศ แต่พระเจ้าจะมีการทรงเรียกแต่ละแบบ แต่ละคน แต่ละกลุ่มอย่างเจาะจง… Read More »

ความต่างของความผิดพลาดกับความบาป

ความผิดพลาดต้องเรียนรู้ พระเจ้าอนุญาตให้เราผิดพลาด และหลายครั้งพระเจ้าเป็นผู้นำเราสู่ความผิดพลาดด้วย เพื่อ 1. เรียนรู้ เพื่อจะโตขึ้นอีก พัฒนามากขึ้นกว่าเดิมอีก 2. พึ่งพาพระเจ้า บางครั้งการลืมตัว ความเคยชิน ความสามารถ ทำให้การพึ่งพาพระเจ้าลดน้อยลง 3. ขนาบความหยิ่ง ไม่มีใครที่ไม่เคยผิดพลาด ไม่ใช่เพราะความเก่งทำให้เราไม่พลาด ความบาปต้องกลับใจ บาปนำเราออกห่างจากพระเจ้า เป็นสี่งที่ไม่สามารถเข้าได้กับความบริสุทธิ์และพระลักษณะอื่นๆ ของพระเจ้า สิ่งเดียวคือ ต้องกลับใจใหม่เท่านั้น เพื่อนำเรากลับมาหาพระเจ้า ชีวิตคริสเตียนต่างต้องเผชิญและผ่านทั้ง 2 สิ่งนี้ หากแต่เราเรียรู้มากขึ้น เดินในความสัมพันธ์กับพระเจ้ามากขึ้น เราจะยิ่งเข้าใจและสำรวจตัวเองอยู่เสอว่า “ขณะนี้ ตนเองยืนอยู่จุดไหน” เพื่อจะได้แก้ไขได้ถูกจุด 27/04/2014 11:38

เชื่อจนสุดปลายทาง

ความเชื่อเป็นรากฐานและเป็นเสมือนสิ่งที่เคียงคู่ตลอดเส้นทางการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า แต่หลายครั้งความเชื่อกลับเป็นเรื่องที่ยากจะทำ และยากที่จะไปถึง… การมีความเชื่อ ไม่เพียงแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น คนมากมายเริ่มต้นด้วยความเชื่อ และมันค่อยๆ ลดขนาดลงด้วยปัญหาอุปสรรคและสิ่งที่ล่อหลอกให้จดจ่อ แทนที่พระพักตร์และพระสัญญาพระเจ้า.. สถานการณ์ที่ดูเหมือนไม่เป็นใจ ไม่ได้ดั่งใจ ทุกสิ่งดูเร่งเร้า แต่มีเพียงสิ่งเดียวที่ช้าเกินไปสำหรับใจเรา คือ สิ่งที่พระเจ้าทำ… ความเชื่อในระยะเริ่มต้นลดลงอย่างวูบวาบ จนหลายครั้งไม่เหลือความเชื่อเลยด้วยซ้ำ บางครั้งอาจถึงขนาดละทิ้งแล้วที่พระเจ้าตรัสไว้ เพราะคิดว่ามองดูและพิจารณาดูอย่างละเอียดแล้ว ไม่มีทางเป็นไปได้ตามที่พระเจ้าทรงตรัสเลย … กระบวนการทุ่มและกระโดดตัวเองเข้าสู่วิถีการคิดค้นงัดแงะแผนการณ์ของมนุษย์ได้เกิดขึ้นเป็นระรอกๆ …แต่หาได้รับคำตอบไม่!! …หาได้เป็นทางออกที่ดีไม่!! …แต่กลับบานปลายออกไปเรื่อยๆ … แท้จริงอะไรคือความผิดพลาดหรือ? อะไรคือสิ่งที่ต้องเข้าใจและเรียนรู้หรือ? อะไรกันแน่ที่จะสามารถนำพระพรมาถึงตัวเราจริงๆ? การเริ่มต้นด้วยความเชื่อเป็นเรื่องยากแล้ว… แต่มันกลับเป็นเรื่องที่ง่ายดายไปเลย หากเทียบกับการรักษาความเชื่อจนสุดปลายทาง…. ไม่ใช่เรื่องยากที่เราจะเริ่มต้นด้วยความเชื่อ หากเรารับบางสิ่งจากพระเจ้า >> เสียงตรัส ถ้อยคำสำแดง การดลใจ หรือแรงบันดาลใจก็ตาม… แต่ระหว่างทางใช่ว่าจะราบเรียบและรวดเร็วดั่งใจนึกเสมอไป อันเนื่องจากพระเจ้ามีพระประสงค์ชัดเจนในการสร้างความเชื่อที่มากขึ้นภายในตัวเราเอง การพัฒนาความเชื่อ เป็นปกติวิถีของคริสเตียน และผู้ที่รักจะเดินติดตามพระเจ้า … ดังนั้นการที่พระเจ้าจะพัฒนาความเชื่อภายในเป็นการเจาะจงส่วนตัวกับเราจึงไม่ใช่เรื่องแปลก*** สาเหตุที่ทำให้เราขาดความเชื่อหรือสั่นคลอนในความเชื่อระหว่างทาง 1.    รอนานเกินไป การรอคอยทำให้เกิดความคาดหวัง และปกติมนุษย์ปรารถนาการช่วยกู้และปรารถนาพระพรให้มาอย่างเร็วไว ในเวลาที่ตนเองคิดและกะเกณฑ์แผนไว้ในสมอง …  แต่เมื่อผิดไปจากแผนของตน ผิดไปจากระยะเวลาที่ตนคำนวน… Read More »

กรงในอากาศ

สิ่งที่จำกัดเสรีภาพในชีวิต หาใช่ กรงที่กักขังไม่ แต่เป็นความกลัวต่างหาก!!! ความกลัว เป็นตัวผูกมัด ไม่ให้มีเสรีภาพ แม้ปราศจากสิ่งกักขัง ก็จำกัดขอบเขตของตนเอง ด้วยความหวาดกลัวภายในจิตใจ ภาพ : นกที่ปราศจากกรงกักขัง แต่ไม่กล้าโบยบิน มีปีก มีอิสระ แต่ขาดเสรีภาพ แท้จริงพระเจ้าสร้างขอบเขตให้เราแค่ไหน? 1. ในเอเดน ขอบเขตเดียว คือ ห้ามกินผลจากต้นไม้นั้น นอกนั้นเรามีอิสระและเสรีภาพได้อย่างเต็มที่ 2. เมื่อมนุษย์ผิดพลาดล้มลงในบาป ขอบเขตเดียว คือ บัญญัติ 10 ประการ จวบจนวันนี้ ก็ยังคงมีเท่านั้นจริงๆ ที่พระเจ้ากำหนดขอบเขตให้แก่เรา แล้วทุกวันนี้ อะไรบ้าง??? เป็นขอบเขตในการดำเนินชีวิตของเรา … มันถูกจำกัดขอบเขตและพื้นที่มากกว่าที่พระเจ้าบอกสักแค่ไหน??? เหลือพื้นที่สักแค่ไหน ??? ที่สามารถมีเสรีภาพอย่างเต็มที่ กรงในอากาศ ความกลัวที่สร้างขึ้นเองภายในใจ ทำให้เกิดกรงในอากาศขึ้น … เสรีภาพถูกจำกัด อิสระที่มี แต่ไร้ซึ่งเสรีภาพในการก้าวเดิน หรือใช้ชีวิต กรงในอากาศ คือ … สิ่งที่มนุษย์หรือสัตว์วาดไว้กักขังตนเองหรือผู้อื่น โดยปราศจากกรงนั้นจริงๆ… Read More »

ทั้งให้และรับในคนๆ เดียวกัน

คนเราต่างต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ หากเป็นเพียงอย่างเดียว ชีวิตจะแสนเหน็ดเหนื่อยใจแทบขาด ผู้รับต้องคอยวิ่งตามผู้ให้ … ผู้ให้ต้องยอมทนในส่วนตัวเพื่อหยิบยื่น… แต่ หากทั้งรับและให้ ก็จะสามารถผ่อนคลายทั้ง 2 ส่วน คือ การวิ่งตามและการทนยอม … ใครก็ให้ได้ ใครก็รับได้ ไม่ขึ้นกับ อายุ > เด็กหรือผู้ใหญ่ , ตำแหน่ง > เล็กน้อยหรือใหญ่โต , หรือ สิ่งใดๆ เลย ภาพ : แม่ลูก แม่ >> ให้ความรัก ให้การเลี้ยงดู หาเงิน ทุ่มเทความเหน็ดเหนื่อย อบรมสั่งสอน ลูก >> ให้ความน่ารัก เติมใจแม่ให้เต็ม ให้กำลัง สนับสนุน อยู่เคียงข้างแม่ ทั้ง 2 ต่างทั้งให้แก่กันและกัน รับจากกันและกันในเวลาเดียวกัน แต่หากใครคิดเพียงด้านเดียว ย่อมบั่นทอนในที่สุด ด้วยหมดแรง… หลายครั้งคนเรามักคิดว่า ให้คนๆ นี้… Read More »

คำอธิษฐาน : พระเยซูสอนให้อธิษฐาน

มธ.6:9-13 6:9 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานตามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ 6:10 ขอให้อาณาจักรของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก 6:11 ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ 6:12 และขอทรงโปรดยกหนี้ของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกหนี้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์นั้น 6:13 และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้าย เหตุว่าอาณาจักรและฤทธิ์เดชและสง่าราศีเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ เอเมน   พระเยซูสอนให้อธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์… ขอให้พระนามพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก และในครัวเรือนของข้าพระองค์ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ โปรดสำแดงน้ำพระทัยอันสมบูรณ์ ขอทรงสอน และนำให้อยู่ในน้ำพระทัยเสมอ ขอประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ ทรงรู้ทุกความต้องการและจำเป็น ขอโปรดประทานสิ่งดีไม่ขาดหรือช้าไปจากข้าพระองค์และครัวเรือน และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ ขอประกาศยกโทษผู้ล่วงละเมิดในอดีต ปัจจุบัน และประกาศยกโทษล่วงหน้าในอนาคต และขออย่าทรงนำพวกข้าพระองค์เข้าไปในการทดลองแต่ขอให้พวกข้าพระองค์พ้นจากความชั่วร้าย ขอทรงเหวี่ยงสิ่งซึ่งชั่วร้ายให้ไกลห่างดั่งตะวันตกกับตะวันออก ขอทรงซ่อนข้าพระองค์และครัวเรือนไว้ใต้ร่มปีกแห่งพระคุณของพระองค์ เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิเดชและพระสิริเป็นของพระองค์สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน”  ♥ ♥ ♥ 120714