Tag Archives: บทความคริสเตียน

คำอธิษฐาน‬ : ความสุขอยู่ในพระเจ้า‬

“ข้าแต่พระเจ้า… ในทุ่งหญ้าของพระเจ้าแสนสงบและสดชื่น… เสรีภาพ ความสุข ต่างล้นปรี่… ทั้งตื่นเต้น อยากจะใกล้ อยากจะเห็น สิ่งทรงทำ… วิ่งเล่นไปรอบทุ่งหญ้าของพระเจ้าอย่างเสรี… ทรงมองดู ทอดพระเนตร ด้วยเมตตารัก… ทรงประทานให้ด้วยขอบเขตของเสรี… ข้าแต่พระบิดา… … เป็นความสุขเต็มล้นออกมาจากภายใน … ใจล้นปรี่ ด้วยยินดี เมื่อได้อยู่กับพระองค์ … ความสุขล้น ออกทุกด้าน เพราะเต็มล้น … ความยินดี เบิกบาน ทำให้หยุดเต้นโลดไม่ได้ … ทรงเปิดตา เปิดหู เปิดใจ ด้วยการเปิดเผยน้ำพระทัย … ทุกๆ สิ่งล้วนตื่นตาตื่นใจ และล้ำลึก ความสุขแท้ >>> อยู่ในองค์พระเจ้า เป็นสุขที่ ; โลกไม่อาจมอบให้ได้ เป็นสุขที่ ; โลกไม่อาจเข้าใจได้ เป็นสุขที่ ; ไม่มีใครแย่งชิงไปจากเราได้ เป็นสุขที่ ; ไม่อาจแลกได้ด้วยเงินตราและสิ่งของ เป็นสุขที่ ;… Read More »

คำอธิษฐาน‬ : ฝูงแกะของพระเจ้า‬

‎“ข้าแต่พระเจ้า… ผู้เลี้ยงแสนดีเลิศ เสียงพระองค์เด่นชัดต่อฝูงแกะ… ทรงเฝ้าดู ; อุ้มชู แหล่งอาหาร ทรงเลี้ยงดู ; ให้อิ่มอ้วนพี ด้วยอาหารดี ทรงจัดเตรียม ; สิ่งดีๆ ไว้ให้พร้อมสรรพ ทรงประคอง ; รักษา ไม่ให้เจ็บ ทรงนำทาง ; ให้แกะที่สายตาสั้น ทรงปกป้อง ; จากฝูงหมาป่า ลอบทำร้าย ***ทรงเป็นผู้เลี้ยง ยอมวายพระชนม์เพื่อฝูงแกะ*** บัดนี้…ขอเป็นแกะที่ฟังเสียงพระผู้เลี้ยง ยอมทำตาม : เดินตาม ด้วยจดจ่อ ไม่ฟังเสียงผู้อื่น : แทนพระองค์ พระผู้เลี้ยง เพราะคุ้นเคย : เสียงชัดเจนของพระองค์ เอนตัวนอนลง : ในทุ่งหญ้าอันสมบูรณ์ที่ทรงจัดเตรียมให้ เดินตามติด : เพราะเสียงพระผู้เลี้ยงที่นำทาง ปลอดภัยอยู่ : ในทางการทรงนำ โอ้… พระองค์พระผู้เลี้ยง ทรงสำแดงความรักอันมั่นคง ทรงเมตตาด้วยพระคุณที่เปี่ยมล้น ทรงงดงามอย่างที่สุด นามว่า… Read More »

คำอธิษฐาน‬ : แม่น้ำของพระเจ้า‬

“ข้าแต่พระเจ้า… ขอโปรดทรงให้แม่น้ำของพระองค์หลั่งไหลลงมา… แม่น้ำแห่งการรักษาให้กลับคืน.. แม่น้ำแห่งการฟื้นฟูชีวิตใหม่… แม่น้ำแห่งความชื่นฉ่ำแก่วิญญาณจิต… แม่น้ำแห่งความสมบูรณ์แก่กายเนื้อ… แม่น้ำแห่งความสันติแก่ดวงใจ… แม่น้ำแห่งการเยียวยาไหลลงมา… แม่น้ำแห่งความอิ่มหนำแก่ชีวิต… แม่น้ำแห่งความสดชื่นรดความหวังใจ… ขอโปรดเทรดลงมาด้วยแม่น้ำของพระเจ้า… ขอสายน้ำพัดพาสิ่งใหม่ให้บังเกิด ขอธารแห่งพระพรพัดพานำสิ่งดีมาถึงโดยเร็วพลัน ขอลำธารไหลเชี่ยวด้วยแรงผลักแห่งฤทธา ขอเสียงของน้ำทำให้ใจได้สงบและพักพิง ขอชุบชีวิตดั่งทรงระบายลมปราณ ทุกสิ่งๆ ส่งเสียงขับขาน สรรเสริญแด่พระผู้สร้าง ขอแม่น้ำของพระเจ้าไหลสู่ >> พระนิเวศน์อันศักดิ์สิทธิ์ ขอแม่น้ำของพระเจ้าไหลเข้าสู่ >> ทุกหัวเมือง ขอแม่น้ำของพระเจ้าไหลลงสู่ >> ทุกชายคาครัวเรือน ขอแม่น้ำของพระเจ้าไหลไป >> ทุกๆ พื้นที่ ข้าแต่พระเจ้า… ขอโปรดฟังและทรงช่วย เปลี่ยนความเหือดแห้ง 》 เป็นความชุ่มชื่น เปลี่ยนความเศร้าโศก 》 เป็นความชื่นบาน เปลี่ยนความเจ็บป่วย 》 ด้วยการรักษา เปลี่ยนความทุกข์ใจ 》 ด้วยการเยียวยา เปลี่ยนความกันดาร 》 เป็นคานาอัน เปลี่ยนความขาดแคลน 》 เป็นความมั่งคั่ง เปลี่ยนความอ่อนแอ 》 เป็นความเข้มแกร่ง… Read More »

คำอธิษฐาน‬ : ‪ต่อพระเจ้าผู้ทอดพระเนตรอยู่‬

“ข้าแต่พระเจ้า… ผู้ทรงรักและหวงแหนบุตรพระองค์ ผู้ทรงทอดพระเนตรและแลเห็น ผู้ทรงล่วงรู้ทุกกาลเวลา และทุกสภาวะการณ์ ผู้ทรงไม่มีสิ่งใดปิดซ่อน และซ่อนเร้นจากพระเนตร (สายตา) ของพระเจ้า ผู้ทรงเฝ้าดูบุตรพระองค์ด้วยความทนุถนอม ผู้ทรงฟูมฟักผู้ที่รักพระองค์ด้วยสุดใจ ข้าแต่พระเจ้า… พระองค์เจ้าข้า… ทรงมองเห็น ; แม้คนเล็กน้อยและต่ำต้อย ทรงเฝ้ามอง ; แม้คนยากจนและกำพร้า ทรงมองดู ; แม้คนอยู่ที่หลืบและห่างไกล เหตุฉะนั้นทรงเห็นทุกรายละเอียดบนผืนโลก ทรงรับรู้ : ทุกความต้องการและจำเป็น ตั้งแต่ก่อนเราร้องทูล ทรงชันสูตร : และค้นพบทุกรากเหตุทั้งมวล ทรงเป็นพระเจ้า : ที่ได้ยินและมองเห็น ไม่ทรงปิดพระเนตร(ตา) : ซ่อนพระกรรณ(หู) หดพระหัตถ์(มือ) เป็นแน่แท้ ไม่ทรงเมินเฉย : ต่อบุตรของพระองค์ ทรงรักดั่งแก้วตาและดวงใจ… ทรงหวงแหน ถนอม ดั่งสุดที่รัก… ไม่มีสิ่งใดปิดซ่อน : จากพระเจ้าผู้ทรงธรรมได้เลยสักสิ่งเดียว ไม่มีกำแพงใดขวางกั้น : พระคุณของพระเจ้าให้หยุดยั้งได้ ไม่มีเหตุอันใด ทำให้รัก : ของพระองค์จืดจางลง… Read More »

อดทนให้ผ่านไป

จะมีบางเวลา บางเรื่องที่เราไม่สามารถทำอะไรได้มากนัก นอกเสียจากอดทนให้มันผ่านไปให้ได้ 1.    อดทนอย่างนิ่งสงบ •    เป็นการเฝ้ารอคอยอย่างนิ่งสงบ •    ต้องจัดการใจภายในที่ร้อนรุ่มให้สงบลง •    ต้องจัดการความเดือดเนื้อร้อนใจให้นิ่งลง •    ต้องจัดการตนเองด้วยการมอบความอยากจะลุกขึ้นทำสิ่งต่างๆ เองแทนที่พระเจ้าด้วยอารมณ์ให้สงบลง •    เป็นการอดทนที่ใช้ความวางใจในพระเจ้าของตน ว่าจะ “ทรงอยู่ฝ่ายเราเป็นแน่” •    เมื่อเราสามารถจัดการใจตนเองให้สงบลงได้เมื่อไร เมื่อนั้นจะพบว่าพระเจ้าทรงพระคุณ และเริ่มมองเห็นแผนการณ์การทำงานของพระเจ้าทีละขั้นทีละตอนอย่างเข้าใจมากขึ้น เพราะการมอบให้พระเจ้าด้วยความวางใจในพระองค์ได้เกิดขึ้นแล้ว •    ยิ่งสงบเร็วและมากเท่าไร ยิ่งปลอดภัยและเห็นการทำงานของพระเจ้ามากเท่านั้น ยิ่งทำให้เข้าใจในน้ำพระทัยพระเจ้าในเรื่องนั้นได้มากขึ้นเท่านั้น ยิ่งรับรู้ถึงความล้ำลึกของพระเจ้าได้มากยิ่งขึ้นเท่านั้น สดุดี 62:5  จิต‍ใจของข้าพ‌เจ้าสงบคอยพระ‍เจ้าเท่า‍นั้นเพราะความหวังของข้าพ‌เจ้ามาจากพระ‍องค์ 2.    อดทนด้วยความหวังใจ •    แม้หลายสิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นไปตามความคาดหมาย •    ไม่เป็นไปตามแผนความคิดของตนเอง •    ไม่ได้ดั่งใจต้องการ •    บางครั้งเกินการควบคุมของตนเอง จนกระทั่งมองหาจุดจบที่ดีไม่เจอ •    เป็นความอดทนที่ต้องอาศัยความหวังใจ เป็นน้ำหล่อเลี้ยงความเชื่อของตนเอง เพราะอาจต้องใช้เวลานานเกินกว่าความปรารถนาของตนเองที่ตั้งไว้ แน่นอนมนุษย์ชอบอะไรที่ตนเองควบคุมได้และรักที่สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ตนเองคิดหมายไว้ แต่เมื่อมันตรงกันข้าม… ความคาดคั้น การบีบบังคับ การเร่งเร้า จึงเกิดขึ้นโดยอัตโนมัติ และทำให้ความอดทนร่นสั้นลงอย่างรวดเร็วหรือทันที จนถึงจุดหมดความอดทน… Read More »

เวลาสะบาโต

การเฝ้าเดี่ยวในแต่ละวันเปรียบเสมือน เวลาสะบาโต คือ “เวลาแห่งการหยุดพัก” บางคนใช้เวลากับการร้องขอในสิ่งที่ตนเองต้องการ บางคนใช้เวลากับการระบายในสิ่งที่พบเจอแต่ละวัน บางคนใช้เวลากับการใคร่ครวญสิ่งต่างๆ บางคนใช้เวลากับการนั่งเงียบๆ นิ่งๆ เพื่อรับกำลังจากพระเจ้า ไม่ว่ารูปแบบการเฝ้าเดี่ยวของเราจะเป็นอย่างไร มีน้ำหนักตรงไหนก็ตาม … แต่อย่าลืมว่า เราสามารถให้การเข้าเฝ้าพระเจ้าของเราเป็นเวลาสะบาโตได้ ความหมายของสะบาโต ปฐก.2:1-3 2:1 ดังนี้ ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกทรงสร้างขึ้นให้สำเร็จ พร้อมทั้งบรรดาบริวารของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้น 2:2 และในวันที่เจ็ดพระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำมาแล้วนั้น และในวันที่เจ็ดพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำมาแล้วนั้น 2:3 และพระเจ้าทรงอวยพรวันที่เจ็ดและทรงตั้งวันนี้ไว้เป็นวันบริสุทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ได้ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเนรมิตสร้างไว้และทรงกระทำมาแล้วนั้น อพย.20:8-11 20:8 จงจดจำวันสะบาโตไว้ เพื่อถือรักษาให้เป็นวันบริสุทธิ์ 20:9 เจ้าจงกระทำกิจการงานทั้งสิ้นของเจ้าในหกวัน 20:10 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นเจ้าอย่ากระทำการงานใด ๆ คือเจ้าเอง หรือบุตรชาย บุตรสาวของเจ้า หรือทาสชายหญิงของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ภายในประตูเมืองของเจ้า 20:11 เพราะในหกวันพระเยโฮวาห์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น และในวันที่เจ็ดทรงหยุดพักสงบ เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงอวยพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันสักการะบูชา อพย.16:28-30 16:28 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “พวกเจ้าจะปฏิเสธไม่รักษาบัญญัติทั้งหลายและราชบัญญัติต่าง… Read More »

ทำไมผู้ชอบธรรมต้องหนี

เพราะเขาเป็นที่โปรดปรานและหวงแหนของพระเจ้า ดังนั้นเมื่อพระเจ้าลุกขึ้นต่อสู้เมื่อไร ศัตรูจะพ่ายอย่างหนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ที่ทำร้ายกลับกลายเป็นบุคคลใกล้ชิดหรือเป็นบุคคลที่รัก … แม้จิตใจภายในจะเจ็บปวดและบอบช้ำจากการถูกทำร้าย แต่ด้วยการรู้จักกับพระเจ้าเป็นอย่างดี ทำให้ภายในย่อมรู้ว่าพระเจ้าทรงรักและหวงแหนตนเพียงใด จะทรงลุกขึ้นต่อสู้กับผู้ที่ขัดขวางและทำร้ายแก้วตาดวงใจของพระองค์อย่างไร ดังนั้น การหลีกหนีจึงเป็นหนทางที่ผู้ชอบธรรมเลือกกระทำ การหลีกหนีหลายครั้ง ไม่ใช่เพราะไม่มีทางสู้ , ไม่ใช่ว่าโต้ตอบไม่ได้ , ไม่ใช่ว่าอ่อนแอกว่า … แต่เพราะว่าต้องการสงวนคนๆ นั้นไว้ แม้ว่าเขาจะทำในสิ่งที่ไม่สมควรได้รับเมตตานี้เลย แต่หัวใจของผู้ชอบธรรมกลับแสดงถึงเมตตาที่มีต่อเขา … ส่วนมนุษย์ผู้เป็นศัตรูนั้นมักผยองพองตน ได้ใจคิดว่า “ตนเองแน่” กลับยิ่งไล่ล่า … แต่ผู้ชอบธรรมยิ่งหนีให้ห่างไกลไปอีก และ นั่นคือ เวลาที่พิสูจน์ตนว่า ได้สงวนมือ และหดสั้นเข้าสำหรับการอธรรม ในขณะที่ผู้ผยองไม่ได้รู้เลยว่า ยิ่งผู้ชอบธรรมหลบหนีมากเท่าไร การแก้แค้นของพระเจ้ายิ่งทวีโทษลงมายังหัวของเขา สะท้อนผลร้ายกลับสู่เขามากเท่านั้น เหตุนี้เองไม่เพียงแค่การหดมือต่อสู้ความอธรรม แต่การสงวนปากไม่แช่งสาปก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งเช่นกัน นอกจากเป็นการรักษาใจของตนไม่ให้พัวพันกับความอธรรมทั้งสิ้นแล้ว ยังเป็นสิทธิอำนาจที่ตกแก่ริมฝีปากผู้ชอบธรรมด้วย เขาตระหนักอย่างมากว่า … หากเขาพูดสิ่งใดที่แช่งสาปศัตรูออกไป ไม่เพียงท่าทีภายในใจ เค้าโครงความคิด ที่ไม่ผ่านจริงแล้ว… ยังทำให้คำแช่งนั้นตกแก่ศัตรู ซึ่งแท้จริงหัวใจของผู้ชอบธรรม ไม่มีใครปรารถนาจะทำร้ายผู้อื่น แม้ตนเองจะถูกทำร้ายมากเพียงใดก็ตาม หากผู้ชอบธรรมตอบแทนการร้ายด้วยการร้ายกลับไป เช่นนั้นจะไม่เรียกว่า “ผู้ชอบธรรม”… Read More »

ตัวเร้าในบั้นปลายชีวิตของโมเสส

กดว.20:1-13 20:1 ชุมนุมชนทั้งหมดของคนอิสราเอลเข้ามาในถิ่นทุรกันดารศินในเดือนที่หนึ่งประชาชนพักอยู่ในคาเดช มิเรียมก็สิ้นชีวิตและฝังไว้ที่นั่น 20:2 ครั้งนั้นชุมนุมชนไม่มีน้ำ เขาประชุมกันว่าโมเสสและอาโรน 20:3 ประชาชนตัดพ้อต่อว่าโมเสสว่า “เมื่อพี่น้องเราตายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์นั้น เราตายเสียด้วยก็ดี 20:4 ท่านพาชุมนุมชนของพระเยโฮวาห์มาในถิ่นทุรกันดารนี้ให้ตายเสียที่นี่ทั้งตัวเราและสัตว์ของเราทำไม 20:5 และทำไมท่านจึงให้เราออกจากอียิปต์ นำเรามายังที่เลวทรามนี้ เป็นที่ซึ่งไม่มีพืช ไม่มีมะเดื่อ องุ่นหรือทับทิม และไม่มีน้ำดื่ม” 20:6 แล้วโมเสสและอาโรนออกจากที่ประชุมไปที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุมและซบหน้าลง และสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ปรากฏแก่เขา 20:7 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า 20:8 “จงเอาไม้เท้าและเรียกประชุมชุมนุมชน ทั้งเจ้าและอาโรนพี่ชายของเจ้าและบอกหินต่อหน้าต่อตาประชาชนให้หินหลั่งน้ำดังนั้นเจ้าจะเอาน้ำออกจากหินให้เขาดังนั้นแหละเจ้าจะให้น้ำแก่ชุมนุมชนและสัตว์ดื่ม” 20:9 โมเสสก็นำไม้เท้าไปจากหน้าพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ดังที่พระองค์ทรงบัญชา 20:10 โมเสสกับอาโรนก็เรียกชุมนุมชนให้ไปพร้อมกันที่หิน โมเสสกล่าวแก่เขาว่า “เจ้าผู้กบฏจงฟัง ณ บัดนี้จะให้เราเอาน้ำออกจากหินนี้ให้พวกเจ้าดื่มหรือ” 20:11 และโมเสสก็ยกมือขึ้นตีหินนั้นสองครั้งด้วยไม้เท้า และน้ำก็ไหลออกมามากมาย ชุมนุมชนและสัตว์ของเขาก็ได้ดื่มน้ำ 20:12 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “เพราะเจ้ามิได้เชื่อเราจึงมิได้กระทำให้เราเป็นที่บริสุทธิ์ในสายตาของคนอิสราเอลเพราะฉะนั้นเจ้าจึงจะมิได้นำชุมนุมชนนี้เข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่เขา” 20:13 น้ำนี้คือน้ำแห่งเมรีบาห์ เพราะว่าคนอิสราเอลได้ต่อว่าพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงสำแดงความบริสุทธิ์ท่ามกลางเขา การเดินทางของอิสราเอลได้ผ่านพ้นช่วงเวลาต่างๆ ในถิ่นทุรกันดารมามาก กำลังก้าวเข้าสู่คานาอัน ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า คนรุ่นเก่าๆ ทยอยตายลง จากการถูกคัดเลือกผ่านแต่ละเหตุการณ์ในถิ่นทุรกันดารตลอด… Read More »

การตัดสินของปีลาต

บางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตัดสินพิพากษาได้ โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องรับบทบาทหน้าที่ หรือมีตำแหน่งที่ต้องจัดการสิ่งต่างๆ ในโลก ในคริสตจักร ในองค์กร หรือแม้แต่ในครอบครัว แต่เนื่องจากหลักการพระคัมภีร์บอกว่า อย่าตัดสินผู้อื่น เพราะผู้ที่มีสิทธินั้นคือองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่นามเดียว แต่ในขณะเดียวกันพระคัมภีร์ก็ยกตัวอย่างของบุคคลที่มีบทบาหน้าที่และตำแหน่งนั้น เช่น กษัตริย์ ผู้นำ เจ้าเมือง – โมเสส >> ในการแบ่งคนตามพ่อตาแนะนำ อพย.18:14-26 18:14 และเมื่อพ่อตาของโมเสสเห็นงานทั้งปวงที่โมเสสกระทำเพื่อประชากรนั้น ท่านจึงพูดว่า “นี่ท่านใช้วิธีอะไรปฏิบัติกับประชากรเล่า เหตุไรท่านจึงนั่งตัดสินความอยู่แต่ผู้เดียว และประชากรทั้งปวงก็ยืนห้อมล้อมท่านตั้งแต่เช้าจนเย็น” 18:15 และโมเสสได้พูดกับพ่อตาของตนว่า “เพราะประชากรมาหาข้าพเจ้า เพื่อขอให้ทูลถามพระเจ้า 18:16 เมื่อพวกเขามีข้อโต้เถียงกันใด ๆ พวกเขาก็มาหาข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ตัดสินความระหว่างเขาทั้งสองฝ่าย และข้าพเจ้าสอนพวกเขาให้รู้จักกฎเกณฑ์ทั้งหลายของพระเจ้าและพระราชบัญญัติต่าง ๆ ของพระองค์” 18:17 และพ่อตาของโมเสสได้พูดกับท่านว่า “วิธีการที่ท่านกระทำอย่างนี้ยังไม่ดี 18:18 ท่านจะอ่อนระอาใจเป็นแน่ ทั้งท่านและประชากรที่อยู่กับท่าน เพราะวิธีการนี้เหลือกำลังของท่าน ท่านไม่สามารถที่จะกระทำแต่ผู้เดียวได้ 18:19 บัดนี้ ขอฟังเสียงของเราบ้าง เราจะให้คำแนะนำแก่ท่าน และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับท่าน ท่านจงเป็นผู้แทนของประชากรต่อพระเจ้า เพื่อท่านจะนำความเหล่านั้นกราบทูลพระเจ้า 18:20 และท่านจงสอนพวกเขาให้รู้จักกฎทั้งหลายและพระราชบัญญัติต่าง… Read More »

โลกนี้แค่ชั่วคราว

หากดำเนินชีวิตแบบฝากทั้งชีวิตไว้กับโลก ก็จะถูกโลกกลืนกินด้วยความไม่มั่นคง… ระบบโลกมักเอารัดเอาเปรียบ เพราะถูกสร้างโดยมนุษย์ผู้แสวงหาผลประโยชน์ และเป็นที่ยอมรับโดยมนุษย์ผู้ได้รับประโยชน์ร่วม ดังนั้นมันไม่มีทางสมบูรณ์ ในทุกเวลา สำหรับทุกคน… ¥ ความร่ำรวย >> ไม่ยั่งยืน ¥ เงิน >> ไม่ได้เป็นทุกคำตอบ ¥ ผู้คน >> ไม่ได้อยู่กับเราเสมอไปและไม่ได้เข้าใจเราทุกเรื่อง ¥ งาน >> มีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ¥ ความสำเร็จ >> มาได้ก็ไปได้ ¥ ความล้มเหลว >> ผ่านได้ จมปลักได้ ทุกสิ่งล้วนอนิจจังบนความไม่แน่นอน … แล้วเหตุไฉน??? จึงต้องดำเนินชีวิตแบบฝากทุกอย่างกับโลกนี้ หากโลกแค่ชั่วคราว ก็อย่ายึดติด …รับไว้ได้ ปล่อยมันทิ้งไปได้ …เข้ามาได้ ออกไปได้ …ล้มได้ก็ลุกได้ …รุ่งได้ก็ร่วงได้ ***พึงระวังรักษาชีวิต เพื่อจะเคลื่อนไปอย่างไม่สิ้นสุด และเจ็บปวดจากการยึดติดน้อยลง โลกกำหนดหลายสิ่ง… แต่… ***จริงหรือ??? ที่โลกกำหนด เป็นทั้งสิ้นในชีวิตเรา!!! ~ ไม่รวย… Read More »