Tag Archives: ชีวิตคริสเตียน

คำอธิษฐาน‬ : ความสุขอยู่ในพระเจ้า‬

“ข้าแต่พระเจ้า… ในทุ่งหญ้าของพระเจ้าแสนสงบและสดชื่น… เสรีภาพ ความสุข ต่างล้นปรี่… ทั้งตื่นเต้น อยากจะใกล้ อยากจะเห็น สิ่งทรงทำ… วิ่งเล่นไปรอบทุ่งหญ้าของพระเจ้าอย่างเสรี… ทรงมองดู ทอดพระเนตร ด้วยเมตตารัก… ทรงประทานให้ด้วยขอบเขตของเสรี… ข้าแต่พระบิดา… … เป็นความสุขเต็มล้นออกมาจากภายใน … ใจล้นปรี่ ด้วยยินดี เมื่อได้อยู่กับพระองค์ … ความสุขล้น ออกทุกด้าน เพราะเต็มล้น … ความยินดี เบิกบาน ทำให้หยุดเต้นโลดไม่ได้ … ทรงเปิดตา เปิดหู เปิดใจ ด้วยการเปิดเผยน้ำพระทัย … ทุกๆ สิ่งล้วนตื่นตาตื่นใจ และล้ำลึก ความสุขแท้ >>> อยู่ในองค์พระเจ้า เป็นสุขที่ ; โลกไม่อาจมอบให้ได้ เป็นสุขที่ ; โลกไม่อาจเข้าใจได้ เป็นสุขที่ ; ไม่มีใครแย่งชิงไปจากเราได้ เป็นสุขที่ ; ไม่อาจแลกได้ด้วยเงินตราและสิ่งของ เป็นสุขที่ ;… Read More »

เวลาสะบาโต

การเฝ้าเดี่ยวในแต่ละวันเปรียบเสมือน เวลาสะบาโต คือ “เวลาแห่งการหยุดพัก” บางคนใช้เวลากับการร้องขอในสิ่งที่ตนเองต้องการ บางคนใช้เวลากับการระบายในสิ่งที่พบเจอแต่ละวัน บางคนใช้เวลากับการใคร่ครวญสิ่งต่างๆ บางคนใช้เวลากับการนั่งเงียบๆ นิ่งๆ เพื่อรับกำลังจากพระเจ้า ไม่ว่ารูปแบบการเฝ้าเดี่ยวของเราจะเป็นอย่างไร มีน้ำหนักตรงไหนก็ตาม … แต่อย่าลืมว่า เราสามารถให้การเข้าเฝ้าพระเจ้าของเราเป็นเวลาสะบาโตได้ ความหมายของสะบาโต ปฐก.2:1-3 2:1 ดังนี้ ฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกทรงสร้างขึ้นให้สำเร็จ พร้อมทั้งบรรดาบริวารของฟ้าสวรรค์และแผ่นดินโลกนั้น 2:2 และในวันที่เจ็ดพระเจ้าก็เสร็จงานของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำมาแล้วนั้น และในวันที่เจ็ดพระองค์ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระองค์ได้ทรงกระทำมาแล้วนั้น 2:3 และพระเจ้าทรงอวยพรวันที่เจ็ดและทรงตั้งวันนี้ไว้เป็นวันบริสุทธิ์ เพราะในวันนั้นพระองค์ได้ทรงหยุดพักจากการงานทั้งสิ้นของพระองค์ซึ่งพระเจ้าได้ทรงเนรมิตสร้างไว้และทรงกระทำมาแล้วนั้น อพย.20:8-11 20:8 จงจดจำวันสะบาโตไว้ เพื่อถือรักษาให้เป็นวันบริสุทธิ์ 20:9 เจ้าจงกระทำกิจการงานทั้งสิ้นของเจ้าในหกวัน 20:10 แต่วันที่เจ็ดนั้นเป็นสะบาโตของพระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้า ในวันนั้นเจ้าอย่ากระทำการงานใด ๆ คือเจ้าเอง หรือบุตรชาย บุตรสาวของเจ้า หรือทาสชายหญิงของเจ้า หรือสัตว์ใช้งานของเจ้า หรือแขกที่อาศัยอยู่ภายในประตูเมืองของเจ้า 20:11 เพราะในหกวันพระเยโฮวาห์ทรงสร้างฟ้าสวรรค์ และแผ่นดินโลก ทะเล และสรรพสิ่งซึ่งมีอยู่ในที่เหล่านั้น และในวันที่เจ็ดทรงหยุดพักสงบ เพราะฉะนั้นพระเยโฮวาห์ทรงอวยพรวันสะบาโต และทรงตั้งวันนั้นไว้เป็นวันสักการะบูชา อพย.16:28-30 16:28 และพระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า “พวกเจ้าจะปฏิเสธไม่รักษาบัญญัติทั้งหลายและราชบัญญัติต่าง… Read More »

ตัวเร้าในบั้นปลายชีวิตของโมเสส

กดว.20:1-13 20:1 ชุมนุมชนทั้งหมดของคนอิสราเอลเข้ามาในถิ่นทุรกันดารศินในเดือนที่หนึ่งประชาชนพักอยู่ในคาเดช มิเรียมก็สิ้นชีวิตและฝังไว้ที่นั่น 20:2 ครั้งนั้นชุมนุมชนไม่มีน้ำ เขาประชุมกันว่าโมเสสและอาโรน 20:3 ประชาชนตัดพ้อต่อว่าโมเสสว่า “เมื่อพี่น้องเราตายต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์นั้น เราตายเสียด้วยก็ดี 20:4 ท่านพาชุมนุมชนของพระเยโฮวาห์มาในถิ่นทุรกันดารนี้ให้ตายเสียที่นี่ทั้งตัวเราและสัตว์ของเราทำไม 20:5 และทำไมท่านจึงให้เราออกจากอียิปต์ นำเรามายังที่เลวทรามนี้ เป็นที่ซึ่งไม่มีพืช ไม่มีมะเดื่อ องุ่นหรือทับทิม และไม่มีน้ำดื่ม” 20:6 แล้วโมเสสและอาโรนออกจากที่ประชุมไปที่ประตูพลับพลาแห่งชุมนุมและซบหน้าลง และสง่าราศีของพระเยโฮวาห์ปรากฏแก่เขา 20:7 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสว่า 20:8 “จงเอาไม้เท้าและเรียกประชุมชุมนุมชน ทั้งเจ้าและอาโรนพี่ชายของเจ้าและบอกหินต่อหน้าต่อตาประชาชนให้หินหลั่งน้ำดังนั้นเจ้าจะเอาน้ำออกจากหินให้เขาดังนั้นแหละเจ้าจะให้น้ำแก่ชุมนุมชนและสัตว์ดื่ม” 20:9 โมเสสก็นำไม้เท้าไปจากหน้าพระพักตร์พระเยโฮวาห์ ดังที่พระองค์ทรงบัญชา 20:10 โมเสสกับอาโรนก็เรียกชุมนุมชนให้ไปพร้อมกันที่หิน โมเสสกล่าวแก่เขาว่า “เจ้าผู้กบฏจงฟัง ณ บัดนี้จะให้เราเอาน้ำออกจากหินนี้ให้พวกเจ้าดื่มหรือ” 20:11 และโมเสสก็ยกมือขึ้นตีหินนั้นสองครั้งด้วยไม้เท้า และน้ำก็ไหลออกมามากมาย ชุมนุมชนและสัตว์ของเขาก็ได้ดื่มน้ำ 20:12 พระเยโฮวาห์ตรัสกับโมเสสและอาโรนว่า “เพราะเจ้ามิได้เชื่อเราจึงมิได้กระทำให้เราเป็นที่บริสุทธิ์ในสายตาของคนอิสราเอลเพราะฉะนั้นเจ้าจึงจะมิได้นำชุมนุมชนนี้เข้าไปในแผ่นดินซึ่งเราได้ให้แก่เขา” 20:13 น้ำนี้คือน้ำแห่งเมรีบาห์ เพราะว่าคนอิสราเอลได้ต่อว่าพระเยโฮวาห์ และพระองค์ทรงสำแดงความบริสุทธิ์ท่ามกลางเขา การเดินทางของอิสราเอลได้ผ่านพ้นช่วงเวลาต่างๆ ในถิ่นทุรกันดารมามาก กำลังก้าวเข้าสู่คานาอัน ซึ่งตั้งอยู่ตรงหน้า คนรุ่นเก่าๆ ทยอยตายลง จากการถูกคัดเลือกผ่านแต่ละเหตุการณ์ในถิ่นทุรกันดารตลอด… Read More »

การตัดสินของปีลาต

บางครั้งเราก็ไม่สามารถหลีกเลี่ยงการตัดสินพิพากษาได้ โดยเฉพาะบุคคลที่ต้องรับบทบาทหน้าที่ หรือมีตำแหน่งที่ต้องจัดการสิ่งต่างๆ ในโลก ในคริสตจักร ในองค์กร หรือแม้แต่ในครอบครัว แต่เนื่องจากหลักการพระคัมภีร์บอกว่า อย่าตัดสินผู้อื่น เพราะผู้ที่มีสิทธินั้นคือองค์พระผู้เป็นเจ้าแต่นามเดียว แต่ในขณะเดียวกันพระคัมภีร์ก็ยกตัวอย่างของบุคคลที่มีบทบาหน้าที่และตำแหน่งนั้น เช่น กษัตริย์ ผู้นำ เจ้าเมือง – โมเสส >> ในการแบ่งคนตามพ่อตาแนะนำ อพย.18:14-26 18:14 และเมื่อพ่อตาของโมเสสเห็นงานทั้งปวงที่โมเสสกระทำเพื่อประชากรนั้น ท่านจึงพูดว่า “นี่ท่านใช้วิธีอะไรปฏิบัติกับประชากรเล่า เหตุไรท่านจึงนั่งตัดสินความอยู่แต่ผู้เดียว และประชากรทั้งปวงก็ยืนห้อมล้อมท่านตั้งแต่เช้าจนเย็น” 18:15 และโมเสสได้พูดกับพ่อตาของตนว่า “เพราะประชากรมาหาข้าพเจ้า เพื่อขอให้ทูลถามพระเจ้า 18:16 เมื่อพวกเขามีข้อโต้เถียงกันใด ๆ พวกเขาก็มาหาข้าพเจ้า และข้าพเจ้าก็ตัดสินความระหว่างเขาทั้งสองฝ่าย และข้าพเจ้าสอนพวกเขาให้รู้จักกฎเกณฑ์ทั้งหลายของพระเจ้าและพระราชบัญญัติต่าง ๆ ของพระองค์” 18:17 และพ่อตาของโมเสสได้พูดกับท่านว่า “วิธีการที่ท่านกระทำอย่างนี้ยังไม่ดี 18:18 ท่านจะอ่อนระอาใจเป็นแน่ ทั้งท่านและประชากรที่อยู่กับท่าน เพราะวิธีการนี้เหลือกำลังของท่าน ท่านไม่สามารถที่จะกระทำแต่ผู้เดียวได้ 18:19 บัดนี้ ขอฟังเสียงของเราบ้าง เราจะให้คำแนะนำแก่ท่าน และพระเจ้าจะทรงสถิตอยู่กับท่าน ท่านจงเป็นผู้แทนของประชากรต่อพระเจ้า เพื่อท่านจะนำความเหล่านั้นกราบทูลพระเจ้า 18:20 และท่านจงสอนพวกเขาให้รู้จักกฎทั้งหลายและพระราชบัญญัติต่าง… Read More »

โลกนี้แค่ชั่วคราว

หากดำเนินชีวิตแบบฝากทั้งชีวิตไว้กับโลก ก็จะถูกโลกกลืนกินด้วยความไม่มั่นคง… ระบบโลกมักเอารัดเอาเปรียบ เพราะถูกสร้างโดยมนุษย์ผู้แสวงหาผลประโยชน์ และเป็นที่ยอมรับโดยมนุษย์ผู้ได้รับประโยชน์ร่วม ดังนั้นมันไม่มีทางสมบูรณ์ ในทุกเวลา สำหรับทุกคน… ¥ ความร่ำรวย >> ไม่ยั่งยืน ¥ เงิน >> ไม่ได้เป็นทุกคำตอบ ¥ ผู้คน >> ไม่ได้อยู่กับเราเสมอไปและไม่ได้เข้าใจเราทุกเรื่อง ¥ งาน >> มีเปลี่ยนไปตามกาลเวลา ¥ ความสำเร็จ >> มาได้ก็ไปได้ ¥ ความล้มเหลว >> ผ่านได้ จมปลักได้ ทุกสิ่งล้วนอนิจจังบนความไม่แน่นอน … แล้วเหตุไฉน??? จึงต้องดำเนินชีวิตแบบฝากทุกอย่างกับโลกนี้ หากโลกแค่ชั่วคราว ก็อย่ายึดติด …รับไว้ได้ ปล่อยมันทิ้งไปได้ …เข้ามาได้ ออกไปได้ …ล้มได้ก็ลุกได้ …รุ่งได้ก็ร่วงได้ ***พึงระวังรักษาชีวิต เพื่อจะเคลื่อนไปอย่างไม่สิ้นสุด และเจ็บปวดจากการยึดติดน้อยลง โลกกำหนดหลายสิ่ง… แต่… ***จริงหรือ??? ที่โลกกำหนด เป็นทั้งสิ้นในชีวิตเรา!!! ~ ไม่รวย… Read More »

เรื่องของวาระ

วาระเป็นเรื่องของช่วงเวลา มีเริ่มต้นและมีสิ้นสุด ในการทรงนำของพระเจ้า เพื่อให้เราก้าวตามและเชื่อฟังพระองค์ แต่ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีจุดสิ้นสุด ในการเริ่มต้นทุกสิ่งชัดเจนในการทรงนำ และเมื่อก้าวตามการรับรองก็ตามมาอย่างเห็นได้ชัด จนเป็นประสบการณ์ตรงของเราเอง ทำให้มั่นใจในการอยู่ในวาระนั้นต่อไป และเพื่อให้ดำเนินต่อไปในวาระนั้นอย่างเชื่อมั่นของการทรงอยู่ด้วยของพระเจ้า แต่เมื่อหมดวาระอย่าลังเลที่จะก้าวต่อไป เพราะสิ่งดีกว่าได้รอเราอยู่เบื้องหน้า   ? ทำไมจึงหมดวาระ 1. เพื่อนำเราไปในวาระต่อไป ในก้าวต่อไปที่ดีขึ้น สูงขึ้น ลึกขึ้น วาระก่อนย่อมเป็นพื้นฐานให้กับวาระต่อๆ ไป 2. เพื่อพัฒนาและเติบโตมากยิ่งขึ้น อย่างครบถ้วนรอบด้าน ในกระบวนการสร้างชีวิต 3. เพราะแผนการของพระเจ้าเคลื่อนตัวไปข้างหน้าสู่ความไพบูลย์เสมอ ไม่ได้หยุดอยู่กับที่หรือถอยหลัง   ? รู้ได้อย่างไรว่าหมดวาระแล้ว 1. ทุกสิ่งที่เคยดี กลับดูติดขัดไปหมด เสมือนว่าการรับรองจะหดหายไป แต่แท้จริงเป็นเพียงสัญญาณเตือนและบอกให้รู้ว่าถึงเวลาในการเคลื่อนสู่วาระใหม่แล้วต่างหาก (ไม่ได้หมายความว่าพระเจ้าทอดทิ้งหรือไม่อยู่ด้วยแล้ว) 2 โครินธ์ 5:17 ฉะนั้นถ้าใครอยู่ในพระ‍คริสต์ เขาก็เป็นคนที่ถูกสร้างใหม่แล้ว สิ่งสาร‌พัดที่เก่าๆ ก็ล่วงไป นี่‍แน่ะกลายเป็นสิ่งใหม่ทั้งนั้น   2. พระเจ้าทรงสำแดงและทำให้เห็นว่าหมดวาระแล้ว เช่น การตรัส การเปิดเผยบางสิ่งที่ตัวเราถูกบีบรัด ปฐก.31:1-3   หมดเวลาของยาโคบที่พึ่งพาอาศัยพ่อตา เพื่อกลับสู่ถิ่นฐานและสร้างรกรากของตนเอง… Read More »

กระบวนการสร้างของพระเจ้า

—> รู้ —> เข้าใจ —> เป็นชีวิต —> = แสวงหา การแสวงหาพระเจ้าเป็นพื้นฐานในการเริ่มต้นและก้าว step ต่อไปมากขึ้น พระเจ้าจะเปิดเผยให้เราได้รับรู้ก่อน ไม่ว่าจะการสำแดง การสอน ข้อมูล หรือทางใดก็ตาม (วิธีการของพระเจ้าแล้วแต่คนนั้นๆ ที่เหมาะสม) หลังจากได้รู้แล้วการแสวงหาพระเจ้าต่อไปจะเป็นการนำสู่กระบวนการต่อไป คือ กระบวนการของความเข้าใจในสิ่งที่รู้ ซึ่งพระเจ้าจะสอนเรามากขึ้น ผ่านสารพัดสิ่งในชีวิต เช่น สถานการณ์ จนกระทั่งเราเกิดความเข้าใจในสิ่งที่รู้ เพื่อเปลี่ยนกระบวนการความรู้ที่สมองเป็นกระบวนการความเข้าใจที่จิตใจ เมื่อความเข้าใจเกิดขึ้น หากเรายังไม่หยุดที่จะแสวงหาต่อไป จะนำเราก้าวเข้าสู่กระบวนการเป็นชีวิต จากความรู้ที่สมอง เป็นความเข้าใจที่ใจ และจะกลายเป็นธรรมชาติชีวิตที่เป็นทุกส่วนหรือส่วนหนึ่งของชีวิต   กระบวนการสร้างของพระเจ้า ** ข้อสังเกตุ ทุกกระบวนการต้องมีการแสวงหาเป็นพื้นฐานหลักเพื่อก้าวไปต่อ เพราะใจที่แสวงหาทำให้ได้รับมากยิ่งขึ้น และการไม่หยุดนิ่งที่จะแสวงหา นำพาไปสู่กระบวนการที่สูงขึ้นจนได้มาซึ่งการเป็นชีวิต เมื่อเราแสวงหาพระเจ้า นั่นหมายถึงพระองค์จะสามารถทำงานในเราได้มากขึ้น เพราะเป็นการเปิดประตูต้อนรับพระองค์ในส่วนนั้นๆ 10/12/2013 12:43