Tag Archives: ชีวิตคริสเตียน

ดุลยภาพของพระเจ้า

พระเจ้าทรงจัดเตรียมสิ่งต่างๆ และสร้างสิ่งต่างๆ อย่างสมบูรณ์ พร้อมสรรพ ไม่มีสักส่วนหนึ่งส่วนใดที่ขาดตกบกพร่อง แม้ในความไม่สมบูรณ์ของแต่ละสิ่ง แต่เมื่อมารวมกันจะสมบูรณ์อย่างลงตัว ตัวอย่างเช่น เรื่องของคนจน พระเจ้าก็ให้คนมีมากกว่า มีใจเมตตาในการช่วยเหลือและมอบให้ อีกทั้งพระคุณของพระเจ้าจะมีถึงเขา ในเรื่องของการเลี้ยงดูอย่างไม่ขาดสาย เรื่องของผู้นำ ย่อมมีผู้ตามและมีการสนับสนุนในหลายๆ ด้าน มีศิษยาภิบาล ย่อมมีทีมอธิษฐาน มีเบื้องหน้าย่อมมีเบื้องหลัง มีแนวรบย่อมมีแนวรับ เหตุที่มนุษย์ไม่ได้ทำตามที่พระเจ้าวางไว้อย่างแท้จริง จึงมีสิ่งที่ไม่คาดคิดเกิดขึ้น เหมือนดั่งเชือกที่เป็นปมไม่ถูกแก้ ยิ่งแย่ตามวิถีของตนเอง ยิ่งเป็นการผูกปมมากขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายต้องพึ่งฝีพระหัตถ์พระเจ้าเท่านั้น เหตุไฉน? จึงไม่เริ่มต้นด้วยการพึ่งพาพระเจ้าเสียแต่ต้น ด้วยการเชื่อฟัง และอีกหลายครั้งที่มนุษย์นั้นพยายามจะให้ทุกสิ่งเป็นไปตามแผนการและความคิดของตนเอง รวมถึงการบังคับ ควบคุม ด้วยการดิ้นรนให้สิ่งต่างๆ เป็นไปตามที่ตนเองคาดหวังไว้ … มิหนำซ้ำ บ้างก็อ้างพระเจ้า บ้างก็คิดว่าสิ่งนี้เป็นการทำเพื่อพระเจ้า ซึ่งในความเป็นจริง ตรวจสอบไม่ยากเลย นั่นคือ พระวจนะของพระเจ้าและสันติสุขที่อยู่ภายในตน เมื่อเราเดินตามพระเจ้าอย่างแท้จริง สันติสุขจะครอบครองเรา พระพรจะค่อยๆ หลั่งไหลเข้ามา แม้ว่าท่ามกลางอุปสรรคหรือปัญหา รวมถึงสิ่งที่ไม่เป็นไปตามที่คิดหวังไว้ แต่ภายในใจจะสัมผัสสันติสุขจากพระเจ้า จะมีความมั่นคงและมั่นใจ ในแต่ละย่างก้าว จะเห็นพระพรเป็นที่รองรับ ในทุกๆ ก้าวที่เดินไป ในทางตรงกันข้าม… Read More »

ขอบเขตของตนในการทำดี

คนเรามักไม่ค่อยรู้จักขอบเขตของตนเองและไม่ค่อยรับผิดชอบในขอบเขตที่ตนเองสามารถแก้ไขได้ ตัวอย่างเช่น เมื่อพบเห็นปัญหาบางอย่าง มักโทษองค์รวม โดยไม่ได้มองว่าตนเองจะแก้ไขอะไรในส่วนของตนได้ จึงส่งผลให้เกิด 2 สิ่ง… คือ… 1.    ไม่ทำในส่วนของตนเอง 2.    พยายามจะไปแก้ส่วนใหญ่ ที่เกินขอบเขตของตน ซึ่งแทบจะไม่มีผลอะไรเลย อันเนื่องจากพลังและกำลังของตนอันแสนน้อยนิด เหตุนี้เองจึงทำให้รู้สึกบั่นทอนและหมดกำลังใจในการทำดี หากเราแต่ละคนจัดการและกระทำสิ่งต่างๆ ในขอบเขตของตนเอง จะเป็นการยากมากๆ ที่จะทำให้เลิกราหรือเลิกล้มในการทำดี หลายสิ่งหลายอย่างสามารถเริ่มต้นได้ ด้วยขอบเขตของตนเอง ตัวอย่างเช่น หากสังคมไม่ดี เราสามารถสร้างครอบครัวของเราให้อบอุ่นได้ การเริ่มต้นเช่นนี้ก็เริ่มต้นด้วยตนเองภายในขอบเขตครอบครัวของตนเอง ต่อให้สังคมจะแย่เพียงใด เราจะสามารถมีความสุขได้ท่ามกลางขอบเขตที่ตนเองสามารถรับผิดชอบ ในทางตรงกันข้ามคนที่ไม่รู้จักขอบเขตของตน จะมัวแต่โทษสังคม โดยไม่เริ่มต้นที่จะสร้างพื้นฐานครอบครัวของตนเอง ให้ดี ให้แข็งแรง และให้ปลอดภัย ดังนั้นจึงต้องรับผลกระทบจากสังคมอย่างเต็มๆ ในขณะเดียวกัน หากเราแต่ละคนทำในขอบเขตของตนเอง โดยการสร้างครอบครัวให้แข็งแรง ให้อบอุ่น ทุกครอบครัวทำเช่นนี้ องค์รวมจะถูกเปลี่ยนเอง สังคมจะถูกเปลี่ยนเอง วันนี้เราได้ทำส่วนของตนเองหรือยัง? ได้ทำในขอบเขตของตนเองมากน้อยสักเพียงใด? หรือเพียงแค่ พยายามจะทำในสิ่งที่ไม่ใช่ขอบเขตของตนเอง? หรือปล่อยผ่าน ไม่ทำเลยสักสิ่งเดียว? คริสเตียนก็เช่นกันเราอาจไม่สามารถเปลี่ยนโลกทั้งโลกนี้ได้ หากพระเจ้าไม่ได้ใช้เราให้เป็นคนยิ่งใหญ่ขนาดนั้น แต่เราสามารถจัดการและสร้างในส่วนที่เป็นขอบเขตของตนเอง ใช้ชีวิตของตนเอง สร้างครอบครัวของตนเอง สร้างชุมชนของตนเอง… Read More »

การภาวนา 2

คริสเตียนจำนวนมาก รู้จักการอธิษฐานแบบเป็นรูปแบบ  แต่เมื่อมีความจำกัด ด้านเวลา สถานที่ หรือภาระกิจที่รัดตัว ทำให้ไม่สามารถอธิษฐาน หรือนมัสการพระเจ้าได้อย่างเต็มรูปแบบ ก็ไปต่อไม่เป็น >>> ส่งผลให้เกิดการฟ้องผิดภายในจิตใจว่า ไม่สามารถใกล้ชิดพระเจ้าได้ตามรูปแบบที่เคยดำเนิน เคยเป็น หรือ เคยทำเป็นประจำ ทั้งนี้ ต่างก็มีใจปรารถนาและแสวงหาพระเจ้าอยู่เป็นเสมอ แต่ทำไม? ความรู้สึกภายในกลับตีกันกับ ความรู้ที่เคยชิน โดยลืมไปว่า … พระเจ้าทรงมีนามว่า “เราเป็น” นั่นหมายความว่า พระองค์ทรงรู้ทุกสิ่งในสิ่งที่เราเป็น ในทุกขณะ แม้แต่ความจำกัด อุปสรรคหรือปัญหา ทรงชันสูตรจิตใจภายในและตรวจค้นสิ่งเหล่านั้นโดยองค์พระวิญญาณของพระเจ้าที่อยู่ภายในเรา พระเจ้าทรงมองดูไม่เหมือนกับที่มนุษย์มอง ทรงมีมาตรวัด ไม่เหมือนที่มนุษย์วัด มนุษย์มักมองดูแต่ภายนอกสนใจแต่รูปแบบ โดย ลืมเนื้อหาภายในหรือท่าที่ในใจ ทำให้มนุษย์มักกำหนดกะเกณฑ์สิ่งต่างๆ แล้วครอบตนเองและผู้อื่นไว้ในกฎเกณฑ์ที่ตนเองตั้งเอาไว้เอง… แต่แท้จริงพระเจ้า ไม่ได้สนใจภายนอกเทียบเท่ากับภายใน เมื่อทรงชันสูตรภายในแล้ว ค้นพบว่าจิตใจภายในหิวกระหายและแสวงหาพระเจ้า นั่นก็เพียงพอต่อการมีความสัมพันธ์กับพระองค์ 1 ซามูเอล 16:7  แต่พระเยโฮวาห์ตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างหน้าตาหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู ด้วยว่ามนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรจิตใจ” เราไม่จำเป็นต้องคิด หรือ กำหนดรูปแบบที่ตายตัวในการเข้าหาพระเจ้า… Read More »

คำอธิษฐาน‬ :: ‪‎พระเยซูทรงพระชนม์อยู่‬

‎“โอ้… นี่แหนะ!!! องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงพระชนม์อยู่ ข้าแต่พระเจ้า… ผู้ทรงเป็นอยู่ วานนี้ วันนี้ และสืบไปเป็นนิตย์ ขอบพระคุณ ; ความรักอันมั่นคง >> ตั้งแต่เริ่มแรกสร้างโลก ขอบพระคุณ ; ทรงตั้งสิ่งดีไว้ >> ตั้งแต่ก่อนบังเกิด ในครรภ์มารดา ขอบพระคุณ ; ทรงนำกลับคืนดี >> กับพระบิดา ขอบพระคุณ ; ทรงสำเร็จบนกางเขน >> เพื่อเราทั้งหลาย ขอบพระคุณ ; ทรงฟื้นคืนพระชนม์ออกจากอุโมงค์ >> ด้วยชัยชนะแห่งชีวิต ขอบพระคุณ ; ทรงเสด็จสู่เบื้องสูง >> เพื่อจัดเตรียมแผ่นดินสวรรค์ นิรันดร ขอบพระคุณ ; ทรงอยู่โดยฤทธาองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ >> ทรงขับเคลื่อน ขอบพระคุณ ; ทุกพระพร >> เทลงมาอย่างหลั่งไหล และล้นหลาม ตามจำเป็น เกินต้องการ เต็มความปรารถนา ขอบพระคุณ… Read More »

คำอธิษฐาน‬ :: เนื่องใน‎วันอีสเตอร์‬

‎“สรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า… นี่แหนะ!!! แม้ความตาย : ก็ไม่สามารถกักขัง พระองค์ได้ แม้อุโมงค์หนา : ก็ไม่สามารถปิดกั้น ความยิ่งใหญ่ของพระคริสต์ แม้อำนาจใหญ่ : ก็ไม่สามารถหยุดยั้ง ความรักแสนประสริญของพระองค์ แม้บาปใด : ก็ไม่สามารถพราก พระคุณของพระคริสต์ไปได้ ด้วยว่าทรงวายพระชนม์บนกางเขน >> เพราะรักที่ยิ่งใหญ่ << เพื่อมวลมนุษย์ ด้วยว่าทรงฟื้นคืนพระชนม์ >> เพราะฤทธาที่ยิ่งใหญ่ << เพื่อทุกสายตาจะได้เห็น ด้วยว่าอุโมงค์ว่างเปล่า >> เพราะทรงฟื้นคืนพระชนม์ << เพื่อผู้ที่เชื่อและวางใจ ด้วยว่าทรงปรากฏต่อหน้าคนทั้งปวง >> เพราะสัจจะที่ทรงตรัส << เพื่อปลดปล่อยความเป็นไท ด้วยว่าเสด็จไปบนฟ้าสวรรค์ >> เพราะทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ << เพื่อจะเสด็จกลับมารับเราทั้งหลาย ในอีกครา โอ้… แผ่นดินโลกเอ๋ย!!! เจ้าประจักษ์แน่แล้ว ว่า ; “พระคริสต์ทรงฟื้นคืนพระชนม์” อุโมงค์ว่างเปล่า ยืนยันว่า ; “ทรงพระชนม์อยู่” การปรากฏกายแก่สาวก… Read More »

สะท้อนกลับ

การแช่งด่าอันไม่สมเหตุสมผล ไม่มีผลใดๆ ต่อผู้ชอบธรรม ด้วยความรักและหวงแหนของพระเจ้าที่มีต่อผู้ชอบธรรม จะทรงลุกขึ้นปกป้องต่อสู้ผู้ที่ทำร้ายบุตรอันเป็นที่รักดั่งแก้วตาดวงใจของพระองค์ ยิ่งผู้นั้นตอบสนองอย่างดีและถูกต้อง ด้วยการไม่โต้ตอบกลับในทางที่ร้าย ยิ่งเหมือนสุมไฟในทรวงกับศัตรู เพราะไม่เป็นไปตามคาดหมายของเขา กฎการหว่านมีอยู่ว่า : ผู้ใดหว่านสิ่งใด ย่อมได้เก็บเกี่ยวสิ่งนั้น หากใครหว่านการร้ายต่อผู้อื่น ย่อมต้องเก็บเกี่ยวการร้ายนั้น กรณีหว่านแล้ว ผู้อื่นตอบแทนร้ายกลับมา แน่นอนว่าผลจะต้องเก็บกินทั้ง 2 ฝ่าย คือ การแตกหัก ชิงชัง พ่ายทั้งคู่ แต่หากใครทำร้ายเรา แล้วเรานิ่งเฉยและสงบ การร้ายนั้นจะไม่เป็นผลมาถึงเรา โดยเฉพาะคำแช่งสาป เพราะพระเจ้าจะปกป้องเราเป็นแน่ อีกทั้งผลแห่งการหว่านของศัตรูจะนำความชอกช้ำตกแก่เขาเอง ด้วยกฏแห่งการหว่านโดยที่เราไม่ต้องเปลืองตัว ออกแรงใดๆ … แค่สงบใจให้ได้เป็นพอ   สะท้อนกลับ 1.    จงดำเนินชีวิตให้พระเจ้าอยู่ฝ่ายเรา เมื่อมีการร้ายเข้ามา << การหวงแหนของพระองค์จะเป็นดั่งป้อมปราการ ที่มากกว่าการปกป้อง แต่จะเป็นดั่งโล่ที่สะท้อนลูกธนูของศัตรูยิงมาให้กลับออกไปยังเขาเอง 2.    พระเจ้าจะลุกขึ้นต่อสู้และแก้ต่าง แทนผู้ชอบธรรมในเวลาอันสมควร เป็นแน่ …       แต่ผู้ที่อดทนไม่ไหว ลุกขึ้นจัดการศัตรูด้วยมือตนก่อน จะไม่ได้เห็นการนั้นจากพระเจ้า เพราะการตอบสนองที่ทำให้พระเจ้าอยู่ฝ่ายเราไม่ได้…    … Read More »

คำอธิษฐาน : รอคอยพระเจ้า

“ข้าแต่พระเจ้า… ผู้ทรงดำรงอยู่เหนือกาลเวลา ทรงควบคุมทั้งสิ้น ; ด้วยพระหัตถ์อันยิ่งใหญ่ ทรงมีแผนการณ์ ; อันสมบูรณ์อย่างล้ำลึก ทรงกำหนด ; ให้วันคืนเคลื่อนผ่านไป ทรงเฝ้ามอง ; บุตรพระองค์ทุกวิถี แม้ยามสงบ : ทรงอยู่ด้วยไม่ห่างไกล แม้ยามคลื่นซัด : ทรงเป็นโล่ห์กำบังให้ แม้ยามอึกทึก : ทรงเป็นที่พักให้หลบภัย แม้ยามสงคราม : ทรงเป็นผู้นำทัพ เพื่อมีชัย แม้ยามพัก : ทรงให้หลับอย่างสบาย แม้ยามเงียบงัน : ไม่ว่างเปล่า เพราะทรงอยู่ในชีวิต ข้าแต่พระเจ้า… ทุกวาระ ~ จำเป็นต้องเคลื่อนผ่าน ทุกสิ่ง ~ จำเป็นต้องบรรจบ ทุกอย่าง ~ จำเป็นต้องเกิดขึ้น จะรอคอย… พระเจ้าทรงลุกขึ้น จะเฝ้าคอย… วันเวลาใหม่เคลื่อนเข้ามา จะนับวัน… เพื่อสงบต่อพระพักตร์ จะเฝ้ารอ… องค์พระเจ้าเสด็จมา จะรอคอย… พระองค์ผู้ทรงเคลื่อน จะเฝ้าคอย…… Read More »

เสริมสร้างให้สมบูรณ์ ใช่ว่าหักล้าง

ในโลกนี้เรื่องราวต่างๆ มีหลายด้านหลายมุมเสมอ อยู่ที่ว่าใครจะมองมุมไหน แง่ไหน present จุดไหน ซึ่งการมองเห็นต่างมุม คิดแตกต่าง หลายๆ ครั้งไม่ใช่เรื่องผิดเลย เมื่อนำมาประกอบรวมกันกลับทำให้สมบูรณ์มากยิ่งๆ ขึ้น แต่มีคนส่วนมาก ที่มองเรื่องความเห็นต่างผิดไปจากความจริง ที่ว่า … คนที่เห็นต่างเป็นศัตรูความคิด หรือตั้งป้อมอยู่ฝ่ายตรงข้ามกับเรา คนที่ขาดความมั่นคงภายในจิตใจมักสร้างเกราะกำบังให้ตนเองและหลบซ่อนอยู่ภายใน เพื่อความปลอดภัย บ้างก็เป็นเกราะที่ปิดตนเองจากสิ่งอื่นๆ , บ้างก็เป็นเกราะคิดว่าตนต้องถูกเพียงคนเดียว , ใครเห็นต่างคนนั้นผิด หรือเป็นศัตรู •    ส่งผลให้ไม่มีการพัฒนาชีวิตหรือแนวความคิดที่เติบโตขึ้น เพราะมองแค่ด้านเดียว •    ส่งผลให้เกิดความเข้มแข็งเพียงแค่มุมเดียว แต่มุมอื่น ส่วนอื่นอ่อนแออย่างแรง เพราะปิดกั้นตนเองจากสิ่งที่ตนไม่รู้ ไม่เข้าใจ แม้ผู้อื่นรู้และเข้าใจมากกว่าก็ยอมรับไม่ได้ •    ส่งผลให้ไม่สามารถเข้าถึง หรือแม้แต่จะเข้าใกล้ความสมบูรณ์แบบ พระเยซูไม่ได้มาล้มเลิกธรรมบัญญัติ แต่ทรงมาทำให้สมบูรณ์ เมื่อพระองค์ทรงสอนเพื่อเปิดตาใจ สำแดงความกระจ่างแจ้งแก่มนุษย์ในแง่มุม ในด้านที่แตกต่าง ในส่วนที่มนุษย์เข้าไม่ถึง… เป็นเหตุให้เหล่าฟาริสี ไม่ยอมรับและเป็นเหตุให้ยกสิ่งเหล่านี้ มาโจมตีเพื่อจับกุมพระเยซู โดยตั้งข้อหาที่คำพูดบางคำ บางตอนของพระองค์ หลายครั้งเราเป็นเช่นเดียวกับฟาริสีหรือเปล่า???  ที่จับคำพูดบางคำ บางตอนของผู้อื่นขึ้นมาโจมตีและให้ร้าย แม้สิ่งเหล่านั้นไม่ได้ผิดไปจากพระคำพระเจ้า แต่มันผิดตรงที่คิดเห็นแตกต่างจากเรา… Read More »

บัญญัติที่ใหญ่ที่สุด

มธ.22 : 36-40 36“ท่านอา‌จารย์ในธรรม‍บัญญัตินั้นพระ‍บัญญัติข้อไหนสำคัญที่‍สุด?” 37พระ‍เยซูทรงตอบเขาว่า“ ‘จงรักองค์‍พระ‍ผู้‍เป็น‍เจ้าของท่านด้วยสุดใจของท่านด้วยสุดจิตของท่าน’และด้วยสุดความคิดของท่าน 38นั่นแหละเป็นพระ‍บัญญัติข้อสำคัญอันดับแรก 39ข้อที่สองก็เหมือน‍กันคือ‘จงรักเพื่อน‍บ้านเหมือนรักตน‍เอง’ 40ธรรม‍บัญญัติและคำของผู้‍เผย‍พระ‍วจนะทั้ง‍หมดก็ขึ้นอยู่กับพระ‍บัญญัติสองข้อนี้” (มก.12:28-34 ; ลก.10:25-28) ไม่มีบัญญัติใดใหญ่กว่าทั้ง 2 ข้อนี้ หากไม่รู้ว่าจะตัดสินใจอย่างไร? ให้อิงกลับมาที่ 2 ข้อนี้ก่อน เพื่อลดช่องทางเลือกให้แคบลง แท้จริงในการดำเนินชีวิตแต่ละวัน มีหลายสิ่งเข้ามาให้เลือก ให้ตัดสินใจอยู่เสมอๆ บางสิ่งขาวดำ เลือกได้ชัดเจนไม่ยาก แต่บางสิ่งไม่มีเส้นชัดเจนขนาดนั้น ไม่มีอะไรถูก หรือ ผิด เพียงแต่อยู่ที่การลำดับความสำคัญ และ การให้น้ำหนักต่างหาก!! หากเราให้น้ำหนักกับสิ่งใดลงไป นั่นย่อมสะท้อนถึงผลลัพธ์ที่จะกลับมาถึงเรา พระเยซูทรงชี้แนะอย่างชัดเจนว่า ในท่ามกลางบัญญัติหลายข้อของพระเจ้า ข้อที่สำคัญที่สุด คือ รักพระเจ้าสุดจิต สุดใจ สุดกำลัง ความคิด ดังนั้นไม่ว่าจะเลือก หรือ จะทำอะไร หากอิงข้อนี้เป็นอันดับแรก ย่อมทำให้เราสามารถรู้คำตอบว่าสิ่งใดคือ “น้ำพระทัยพระเจ้า” ได้ง่ายที่สุด … ตัวเลือกของเรานั้น มาจากคำว่า “รักพระเจ้าสุดจิต สุดใจ สุดกำลัง ความคิด”… Read More »

ปรัชญาต่างๆ

จงระวังให้ดี อย่าให้ค่านิยม ปรัชญาใดๆ บนโลกเข้ามาแทนที่พระวจนะของพระเจ้า ด้วยว่าพระวจนะ ทรงพลานุภาพและได้รับการรับรองจากพระเจ้าเป็นแน่ เพราะพระเจ้าทรงตรัสด้วยพระโอษฐ์ (ปาก) ของพระองค์เอง และมอบให้เราด้วยพระหัตถ์ (มือ) ของพระองค์เอง 2 ทิโมธี 3:16-17 16พระ‍คัมภีร์ทุกตอนได้รับการดล‍ใจจากพระ‍เจ้า และเป็นประ‌โยชน์ในการสอน การตัก‍เตือนว่า‍กล่าว การแก้‍ไขสิ่งผิด และการอบรมในความชอบ‍ธรรม 17เพื่อคนของพระ‍เจ้าจะมีความสามารถและพรัก‍พร้อมเพื่อการดีทุก‍อย่าง ข้อคิด ปรัชญาต่างๆ บนโลก มีหลายสิ่งหลายอย่างดีจริง แต่ไม่อาจนำมาทดแทนหรือแทนที่พระวจนะของพระเจ้าได้ ข้อคิดเชิงปรัชญาเหล่านั้นสามารถทำคุณประโยชน์ให้กับบางคนได้ในบางเวลา มันไม่สามารถเป็นสูตรสำเร็จได้ เพราะไม่มีการรับรองใดๆ จากผู้ใดเลย เป็นเพียงประสบการณ์หนึ่ง แง่คิดหนึ่ง ของบางกลุ่มคนในบางเวลาเท่านั้น ซึ่งหากใครทำตามย่อมได้ประโยชน์ร่วมบ้าง แต่พระวจนะพระเจ้าเป็นจริงสำหรับทุกคน ทุกยุค ทุกสมัย ไม่ว่าใครที่นำไปทำตามย่อมเกิดผล และได้รับการรับรองจากพระเจ้า เพราะพระองค์ทรงรับรองพระดำรัสของพระองค์เอง คนในโลกมากมายต่างฉงนสนเท่ห์ในความอัศจรรย์เหล่านี้ จึงได้มีการศึกษา ค้นคว้า และทำตามพระบัญญัติหลักการของพระเจ้า นำไปประยุกต์ใช้ในงานและบริบทของตน แม้พวกเขายังไม่เชื่อในพระเจ้า แต่ก็ได้รับการรับรองให้เกิดผลอยู่ดี เช่น … หลักการหว่าน การเก็บเกี่ยว หลักการให้เกียรติบิดามารดา เพื่อไปดีมาดีบนแผ่นดินโลก หลักการความสัตย์ซื่อ แต่หลายครั้งคริสเตียนกลับสวนกระแสความจริงที่พระเจ้าตั้งไว้ในมือ… Read More »