ทำไมแล้วจึงอย่างไร
ทำไม??? ปกติธรรมชาติมนุษย์มักต้องการรู้ ที่มาที่ไปในแต่ละเรื่อง เพราะเมื่อใดที่กระจ่างแจ้งย่อมยินดีที่จะก้าวตาม หากเราไม่รู้ว่า สิ่งที่ต้องทำๆ ไปเพื่ออะไร? ไม่รู้วัตถุประสงค์ ก็เปรียบเหมือน การแล่นเรือออกทะเลโดยไร้จุดหมายปลายทาง จึงต้องเผชิญกับความอ้างว้างกลางทะเลในบางช่วง พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าที่เปิดเผยความจริงให้แก่เรา เมื่อเราแสวงหาพระองค์ จะสามารถค้นพบคำตอบในพระองค์ได้เป็นแน่ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ไม่แปลกอะไร ที่มนุษย์อย่างเราจะเสาะหาต้นเหตุที่พระเจ้าเรียกร้องเรา … เมื่อมีสถานการณ์หนึ่งเกิดขึ้น แล้วเราแสวงหาพระเจ้าจนรู้แน่ว่าเพราะเหตุใด? พระองค์จึงเรียกเรา หรือให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น …ย่อมเป็นการง่ายที่จิตใจภายในจะยอมจำนนต่อพระองค์มากเสียกว่า การพยายามปลอบใจตัวเองว่าให้ตอบสนองพระเจ้าอย่างดีเถิด… ทั้งที่ไม่รู้เลยว่าเพื่ออะไร? เพราะอะไร? สิ่งที่มักเกิดตามมาคือ… ไม่มีความมั่นใจในการตอบสนองว่า มาถูกทางหรือเปล่า? และหากไม่ตรงเป้า นั่นแสดงว่ายังไม่ผ่าน และหากยังไม่ผ่านเรื่อยๆ ก็ย่อมหมดแรงกำลังในตอบสนองในที่สุด เมื่อถึงจุดหนึ่งก็จะล้มเลิก… แต่แท้จริงพระเจ้ายินดีจะเปิดเผยและแจ้งน้ำพระทัยของพระองค์ในชีวิตเรา และแก่ผู้ที่เสาะแสวงหาพระองค์เสมอ … ด้วยว่าพระองค์ปรารถนาจะอยู่เคียงข้างคนของพระเจ้า และอยากให้เราผ่านเสมอ ทุกเส้นทาง และตลอดเส้นทาง *** ดังนั้นการถามถึงสาเหตุจากพระเจ้าจึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติใดๆ หากท่าทีของเราเป็นเพียงการเสาะหาคำตอบจากพระเจ้า แทนที่ การไม่ยอมจำนน!!! หากเราเข้าใจน้ำพระทัยของพระเจ้าสำหรับเราแล้วว่า … ทรงมีแผนการณ์และน้ำพระทัยเช่นไรในตัวเรา ความมั่นคงย่อมเกิดง่ายขึ้น โดยเฉพาะกับผู้ที่ปรารถนาจะตอบสนองและเดินกับพระเจ้าแบบก้าวต่อก้าวอยู่แล้ว เมื่อเรารู้แผนการณ์น้ำพระทัยพระเจ้าแล้ว ยังไม่จบกระบวนการเพียงเท่านั้น … แต่เป็นเพียงการเริ่มต้น การรู้น้ำพระทัยของพระเจ้าในชีวิตเราจะไร้ค่า … Read More »