Tag Archives: ข้อคิด

คำอธิษฐาน : ขอความอุดมสมบูรณ์

“ข้าแต่พระเจ้า … ผู้ทรงดำรงอยู่ …ขอพระคุณความรักของพระองค์ปกคลุมแผ่นดินโลก ดั่งแผ่นดินสวรรค์มาตั้งอยู่ …ขอความงดงามของพระองค์สาดส่องมายังครัวเรือนของผู้ชอบธรรม …ขอพระสิริของพระองค์ นำทุกย่างก้าว ผู้ที่จำนนต่อพระพักตร์พระองค์ ♡ ขอโปรดเสริมกำลังแห่งมือ ดุจปีกนกอินทรีย์ ในทุกเช้าวันใหม่… เพื่อให้ผู้ที่รักพระองค์ได้นับพระพรดั่งมานาที่สดใหม่ ดั่งน้ำนมน้ำผึ้งในแผ่นดินคานาอัน… ขอสันติสุขจงมีแด่ชนชาติของพระองค์ อธิษฐานร้องทูลต่อพระองค์ผู้ทรงงดงาม ในนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน” คำอธิษฐาน : ขอความอุดมสมบูรณ์ 060814  

ความจริงบางประการทำให้คนละทิ้งพระเยซูไป

ยน.6:22-59 6:22 วันรุ่งขึ้น เมื่อคนที่อยู่ฝั่งข้างโน้นเห็นว่าไม่มีเรืออื่นที่นั่น เว้นแต่ลำที่เหล่าสาวกของพระองค์ลงไปเพียงลำเดียว และเห็นว่าพระเยซูมิได้เสด็จลงเรือลำนั้นไปกับเหล่าสาวก แต่เหล่าสาวกของพระองค์ไปตามลำพังเท่านั้น 6:23 (แต่มีเรือลำอื่นมาจากทิเบเรียส ใกล้สถานที่ที่เขาได้กินขนมปัง หลังจากที่องค์พระผู้เป็นเจ้าได้ทรงขอบพระคุณแล้ว) 6:24 เหตุฉะนั้นเมื่อประชาชนเห็นว่า พระเยซูและเหล่าสาวกไม่ได้อยู่ที่นั่น เขาจึงลงเรือไปและตามหาพระเยซูที่เมืองคาเปอรนาอุม 6:25 ครั้นเขาได้พบพระองค์ที่ฝั่งทะเลข้างโน้นแล้ว เขาทั้งหลายทูลพระองค์ว่า “รับบี ท่านมาที่นี่เมื่อไร” 6:26 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราบอกความจริงอันเที่ยงแท้แก่ท่านทั้งหลายว่า ท่านทั้งหลายตามหาเรามิใช่เพราะได้เห็นการอัศจรรย์นั้น แต่เพราะได้กินขนมปังอิ่ม 6:27 อย่า ขวนขวายหาอาหารที่ย่อมเสื่อมสูญไป แต่จงหาอาหารที่ดำรงอยู่ถึงชีวิตนิรันดร์ซึ่งบุตรมนุษย์จะให้แก่ท่าน เพราะพระเจ้าคือพระบิดาได้ทรงประทับตรามอบอำนาจแก่พระบุตรแล้ว” 6:28 แล้วเขาทั้งหลายก็ทูลพระองค์ว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายจะต้องทำประการใด จึงจะทำงานของพระเจ้าได้” 6:29 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “งานของพระเจ้านั้นคือการที่ท่านเชื่อในท่านที่พระองค์ทรงใช้มานั้น” 6:30 เขาทั้งหลายจึงทูลพระองค์ว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านจะกระทำหมายสำคัญอะไร เพื่อข้าพเจ้าทั้งหลายจะเห็นและเชื่อในท่าน ท่านจะกระทำการอะไรบ้าง 6:31 บรรพบุรุษของข้าพเจ้าทั้งหลายได้กินมานาในถิ่นทุรกันดารนั้น ตามที่มีคำเขียนไว้ว่า ‘ท่านได้ให้เขากินอาหารจากสวรรค์’” 6:32 พระเยซูจึงตรัสกับเขาว่า “เรา บอกความจริงอันเที่ยงแท้แก่ท่านทั้งหลายว่า มิใช่โมเสสที่ให้อาหารจากสวรรค์นั้นแก่ท่าน แต่พระบิดาของเราประทานอาหารแท้ซึ่งมาจากสวรรค์ให้แก่ท่านทั้งหลาย 6:33 เพราะว่าอาหารของพระเจ้านั้น… Read More »

การเลือกของพระเยซู

ยน.6:64  แต่ในพวกท่านมีบางคนที่ไม่เชื่อ” เพราะพระเยซูทรงทราบแต่แรกว่ามีผู้ใดบ้างที่ไม่เชื่อ และเป็นผู้ใดที่จะทรยศพระองค์ ยน.6:70-71 6:70 พระเยซูตรัสตอบเขาว่า “เราเลือกพวกท่านสิบสองคนมิใช่หรือ และคนหนึ่งในพวกท่านเป็นมารร้าย” 6:71 พระองค์ทรงหมายถึงยูดาสอิสคาริโอทบุตรชายซีโมน เพราะว่าเขาเป็นผู้ที่จะทรยศพระองค์ คือคนหนึ่งในอัครสาวกสิบสองคน การเลือกของพระเยซู แม้ทรงรู้ว่ายูดาสจะทรยศ ก็ยังคงเลือกไว้เป็นทีมงานติดตัว เพราะจำเป็นต้องเกิดขึ้นเพื่อให้แผนการณ์ของพระบิดาเสร็จสมบูรณ์บนแผ่นดินโลก การเลือกของพระเยซู 1. ทรงรู้ล่วงหน้าถึงสิ่งต้องเกิด และทรงเดินตามน้ำพระทัยพระบิดาล้วนๆ โดยไม่สนใจว่าจะมีผลอะไรกับตนเอง เพราะเชื่อ วางใจ รู้จักพระบิดา ว่าทรงควบคุมเสมอ 2. การรู้สิ่งต่างๆ ล่วงหน้า นั่นแสดงถึงสิทธิขาดอยู่ที่พระบิดา ดังนั้นพระเยซูทรงเดินตาม 100% 3. คนที่ได้รับการสำแดงให้รู้อะไรล่วงหน้า มีหน้าที่เพียงเดินตามและทำให้สำเร็จตามแผนการณ์ของพระบิดาเท่านั้น ทรงเลือกคนเหล่านั้นด้วยเหตุผลนี้   04/06/2014

ทำอย่างไรจึงได้รับการสำแดง

??? เหตุใดบางคนจึงไม่ได้รับการสำแดงและเปิดเผยจากพระเจ้า ทั้งที่ผ่านการเรียนรู้ มาเฉกเช่นเดียวกัน ทั้งที่ทำเหมือนกันทุกประการ ทั้งฟังเสียง ชำระและจัดการตนเอง พระลักษณะแท้ประการหนึ่งของพระเจ้าคือ พระองค์เสาะแสวงหาการมีความสัมพันธ์กับมนุษย์ ที่ลึกซึ้งขึ้นเรื่อยๆ เป็นธรรมชาติที่ยิ่งสนิทสนมเท่าไร การเปิดเผยยิ่งมาก แต่ก็มีบางคนจริงๆ ใช้ชีวิต ใช้เวลาอยู่กับพระเจ้ามาก แต่ก็ไม่ค่อยได้รับการเปิดเผยและการสำแดงสักเท่าไรนัก … สิ่งหนึ่งที่สำคัญยิ่งนักคือ… การไม่ตอบสนองเสียงของพระเจ้า เป็นที่แน่นอนว่าพระองค์ย่อมตรัสกับคนของพระองค์เป็นแน่ แต่เมื่อทรงตรัสแล้ว เรามีหน้าที่ตอบสนองพระเจ้า ในส่วนที่เป็นของเรา ตลอดประวัติศาสตร์พระคัมภีร์พระเจ้ามักตรัสชัดเจนเสมอว่า… แต่ละเรื่อง แต่ละคนต้องตอบสนองอย่างไร … แต่ปัญหาคือ มนุษย์ไม่ตอบสนอง เพียงแค่อยากรู้เท่านั้น เสาะแสวงหาเสียงของพระเจ้าเพียงแค่อยากรู้ความเป็น ที่ไม่ใช่ส่วนที่ตนเองกำหนดด้วยซ้ำ แต่ถึงกระนั้นการได้รู้ก็นำความมั่นคงทางจิตใจมาได้ระดับหนึ่ง แต่หารู้ไม่ว่า… การได้รับรู้สิ่งใดๆ มักตามมาด้วยความรับผิดชอบในส่วนของตนเองเสมอ… การตอบสนองและเดินตามเสียงที่พระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงตรัสและเปิดเผย เป็นการเชื่อฟัง… แต่การเพิกเฉยเมื่อได้ยินแล้ว เป็นการตั้งใจไม่เชื่อฟัง ขัดแย้ง และต่อสู้พระวิญญาณ…แล้วจะเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ได้อย่างไร?  ในเมื่อไม่ก้าวตาม ไม่เชื่อฟัง… คงไม่มีใครอยากพูดให้กับคนที่ไม่อยากฟัง  คงไม่มีใครอยากบอกให้กับคนที่เมินเฉย  เมื่อพระเจ้าตรัส พระองค์ก็คาดหวังการตอบสนองจากเราด้วย การเชื่อฟังเป็นเรื่องของการตอบสนองส่วนตัวของเรากับพระ เจ้า  ไม่เกี่ยวกับปัจจัยใดๆ ทั้งสิ้น –    ไม่เกี่ยวว่าคนอื่นคิดอย่างไร –  … Read More »

อย่าเปรียบเทียบ

อย่าเปรียบเทียบกับผู้อื่น ให้ตนเองดูด้อย!!! อย่าเปรียบเทียบกับผู้อื่น เพื่อให้ตนเองดูสูงส่ง!!! ***เพราะแท้จริงกำลังก้าวสู่หลุมพรางแห่งการแข่งขัน แก่งแย่งชิงดีชิงเด่น ซึ่งก่อให้เกิดการหมิ่นประมาทการทรงสร้างของพระเจ้า สิ่งใดหรือ? แม้เล็กน้อยที่พระเจ้าไม่ได้ใส่ให้ มีหรือ? ไร้คุณค่าซึ่งพระเจ้าทำ ดังนั้นการไม่นำตนเข้าสู่การเปรียบเทียบ ย่อมไม่เป็นเหตุให้ผิดพลาด ด้วยการตกหลุมพรางแห่งการฆ่าฟันด้วยการริษยาและน้อยใจ ซาอูลเปรียบเทียบดาวิด เมื่อมีคนร้องเพลงซาอูลฆ่าคนเป็นพันๆ ดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ แท้จริง ดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่นๆ จริงหรือ? ในเวลานั้น เขายังเป็นเด็กน้อยที่เพิ่งเริ่มต้นเอง การร้องเพลงของผู้คนก็แค่ ♦    ให้คล้องจอง ♦    พระเจ้าใส่ถ้อยคำลงไปในปากเขา คนร้องเองก็ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่า มีคำเหล่านั้นได้อย่างไร เพื่อเป็นการพยากรณ์ ♦    การใช้ชื่อซาอูลขึ้นต้นเป็นการให้เกียรติซาอูลก่อน แต่ด้วยใจเปรียบเทียบซาอูลไม่ทันได้คิดทบทวน ไม่ทันได้ยั้งคิดเลย แม้แต่น้อย ซึ่งเป็นผลต่อเนื่องให้เขาทำสิ่งชั่วร้ายต่อดาวิดมากมาย จนกระทั่งถึงต่อพระเจ้า เพราะเปิดช่องให้มารซาตาน ใช้จุดอ่อนของการเปรียบเทียบให้เลยเถิดไปไกล 1 ซมอ.18:7-9 18:7 และเมื่อพวกผู้หญิงเต้นรำรื่นเริงกันอยู่นั้นก็ขับร้องรับกันว่า “ซาอูลฆ่าคนเป็นพัน ๆ และดาวิดฆ่าคนเป็นหมื่น ๆ” 18:8 ซาอูลทรงกริ้วนัก คำที่ร้องกันนั้นไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์เลย พระองค์ตรัสว่า “เขาสรรเสริญดาวิดว่าฆ่าคนเป็นหมื่น ๆ ส่วนเราเขาว่าฆ่าแต่เพียงเป็นพัน… Read More »

แค่ชั่ววูบ

เคยไหม? โกรธจนกระทั่งปะทะบางสิ่งออกไป เคยไหม? หงุดหงิดจนกระทั่งลงอารมณ์กับคนที่ไม่รู้เรื่อง เคยไหม? ไม่อยากทนสักนิด กับเรื่องเล็กๆ น้อยๆ เคยไหม? ทำเรื่องให้ใหญ่โต กับเรื่องไม่เป็นเรื่อง . . . ก็แค่ชั่ววูบ แต่ผลเสียอันมหันต์ได้ตามมา – ทำร้ายจิตใจคนที่รักและใกล้ชิด – หมิ่นคุณค่าของผู้อื่น เหยียดเขาให้ต่ำกว่าความจริง – สร้างความแตกร้าว แตกแยก – ทำลายความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน – ทำลายบรรยากาศการทรงสถิตย์ – พระวิญญาณเสียพระทัย . . . หลายครั้งแม้เราผิดพลาดระบายโทสะออกไปอย่างไม่ควบคุม แต่พระเจ้าก็ยงคงกู้กลับมา ให้สถานการณ์กลับทำให้ชื่นใจ ไม่เลวร้ายอย่างที่กระพือไปเอง…. ความอับอายได้มาเยือน เมื่อรู้ตัวว่าไม่สมควรกับพระกรุณาคุณของพระเจ้า นั่นเพราะทรงสำแดงให้เห็นถึงการอยู่เหนือสถานการณ์ของพระเจ้า แท้จริงพระเจ้ามีสิ่งดีวางและมอบไว้ให้แก่เราแต่ละคน แต่ละสถานการณ์อย่างเจาะจงอยู่แล้ว แต่มนุษย์ผู้ขาดความเชื่อวางใจ – เมื่อไม่ได้ดั่งใจ – เมื่อผิดแผนที่วางไว้ – เมื่อคลาดไปจากที่คาดหวัง – เมื่อไม่ตรงกับความคิดเห็นของตน ก็ ปะทุความโกรธ เกรี้ยวกราดออกมา หลากหลายรูปแบบ… Read More »

พระเจ้าใช้แต่ละคนได้นานแค่ไหน?

บางคนพระเจ้าใช้จนวันตาย แต่บางคนพระเจ้าใช้เพียงแค่ช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้วให้หยุดพัก รักษาชีวิต เราจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะอยู่ในทุกวาระและเวลาของพระเจ้า แท้จริงไม่มีใครที่ต้องรับใช้อยู่ทุกเวลา จะมีบางช่วงเวลา สั้นหรือยาวอยู่ที่พระเจ้าใช้เราเรื่องอะไร หากการทรงเรียกในเราสำเร็จและเป็นเวลาผลัดรุ่น นั่นหมายถึง เราได้สำเร็จลุล่วงในแผนการณ์พระเจ้าในชีวิตเราเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เวลาที่เหลือ คือ การชื่นชมและอยู่กับพระเจ้าจนวันที่ทรงรับไป ตัวอย่าง อับราฮัม เขาทำภาระกิจของเขาเสร็จสิ้นก่อนที่จะตายลง เวลาก่อนจะตายสำหรับอับราฮัมมีมาก เขาใช้ชีวิตชื่นชมกับสิ่งที่พระเจ้าให้ ในวาระสุดท้ายของชีวิต ชื่นชมและส่งต่อให้กับคนรุ่นถัดไป อย่างอิสอัค อวยพรลูกหลาน และเล่าถึงความดีงามของพระเจ้าในชีวิตของเขา (สังเกตุจากที่ลูกหลานทุกคนกล่าวถึงพระเจ้าของอับราฮัม) คนที่พระเจ้าเลือกสำหรับสร้างพลับพลาของโมเสส พวกเขาถูกเลือกอย่างเจาะจงให้ทำงานแต่ละด้าน เมื่อจบสิ้นการสร้างพลับพลา ภาระกิจในชีวิตของเขาก็เสร็จสิ้น เวลาชีวิตที่เหลือ คือ ดำเนินกับพระเจ้า ชื่นชมความงดงาม เล่าถึงสิ่งที่พระเจ้าเป็นและทำ สิ่งที่ตนเองได้เห็น ให้คนรุ่นต่อไปฟัง แต่จะมีบางคนที่พระเจ้าใช้จนวันตาย เช่น โมเสส ผู้วินิจฉัย … แต่ข้อสังเกตุหนึ่งคือ คนเหล่านี้ก็ถูกเรียกเมื่อยามแก่เฒ่าแล้ว คือ เขาก็รับใช้พระเจ้าเพียงแค่ช่วงเวลาหนึ่งเช่นกัน เพราะการเริ่มต้นการรับใช้ของแต่ละคนต่างกัน แสดงให้เห็นว่า พระเจ้าทรงเตรียมชีวิตของเราต่างกันออกไป เนิ่นนานบ้าง เร็วบ้าง บางคนรับใช้ตั้งแต่วัยเยาว์ เสร็จสิ้นรวดร็ว บางคนถูกเตรียมชีวิตเนิ่นนาน กว่าจะถึงเวลาที่สามารถใช้การได้ … แต่ผู้กำหนดคือ… Read More »

กรงในอากาศ

สิ่งที่จำกัดเสรีภาพในชีวิต หาใช่ กรงที่กักขังไม่ แต่เป็นความกลัวต่างหาก!!! ความกลัว เป็นตัวผูกมัด ไม่ให้มีเสรีภาพ แม้ปราศจากสิ่งกักขัง ก็จำกัดขอบเขตของตนเอง ด้วยความหวาดกลัวภายในจิตใจ ภาพ : นกที่ปราศจากกรงกักขัง แต่ไม่กล้าโบยบิน มีปีก มีอิสระ แต่ขาดเสรีภาพ แท้จริงพระเจ้าสร้างขอบเขตให้เราแค่ไหน? 1. ในเอเดน ขอบเขตเดียว คือ ห้ามกินผลจากต้นไม้นั้น นอกนั้นเรามีอิสระและเสรีภาพได้อย่างเต็มที่ 2. เมื่อมนุษย์ผิดพลาดล้มลงในบาป ขอบเขตเดียว คือ บัญญัติ 10 ประการ จวบจนวันนี้ ก็ยังคงมีเท่านั้นจริงๆ ที่พระเจ้ากำหนดขอบเขตให้แก่เรา แล้วทุกวันนี้ อะไรบ้าง??? เป็นขอบเขตในการดำเนินชีวิตของเรา … มันถูกจำกัดขอบเขตและพื้นที่มากกว่าที่พระเจ้าบอกสักแค่ไหน??? เหลือพื้นที่สักแค่ไหน ??? ที่สามารถมีเสรีภาพอย่างเต็มที่ กรงในอากาศ ความกลัวที่สร้างขึ้นเองภายในใจ ทำให้เกิดกรงในอากาศขึ้น … เสรีภาพถูกจำกัด อิสระที่มี แต่ไร้ซึ่งเสรีภาพในการก้าวเดิน หรือใช้ชีวิต กรงในอากาศ คือ … สิ่งที่มนุษย์หรือสัตว์วาดไว้กักขังตนเองหรือผู้อื่น โดยปราศจากกรงนั้นจริงๆ… Read More »

ทั้งให้และรับในคนๆ เดียวกัน

คนเราต่างต้องเป็นทั้งผู้ให้และผู้รับ หากเป็นเพียงอย่างเดียว ชีวิตจะแสนเหน็ดเหนื่อยใจแทบขาด ผู้รับต้องคอยวิ่งตามผู้ให้ … ผู้ให้ต้องยอมทนในส่วนตัวเพื่อหยิบยื่น… แต่ หากทั้งรับและให้ ก็จะสามารถผ่อนคลายทั้ง 2 ส่วน คือ การวิ่งตามและการทนยอม … ใครก็ให้ได้ ใครก็รับได้ ไม่ขึ้นกับ อายุ > เด็กหรือผู้ใหญ่ , ตำแหน่ง > เล็กน้อยหรือใหญ่โต , หรือ สิ่งใดๆ เลย ภาพ : แม่ลูก แม่ >> ให้ความรัก ให้การเลี้ยงดู หาเงิน ทุ่มเทความเหน็ดเหนื่อย อบรมสั่งสอน ลูก >> ให้ความน่ารัก เติมใจแม่ให้เต็ม ให้กำลัง สนับสนุน อยู่เคียงข้างแม่ ทั้ง 2 ต่างทั้งให้แก่กันและกัน รับจากกันและกันในเวลาเดียวกัน แต่หากใครคิดเพียงด้านเดียว ย่อมบั่นทอนในที่สุด ด้วยหมดแรง… หลายครั้งคนเรามักคิดว่า ให้คนๆ นี้… Read More »

คำอธิษฐาน : พระเยซูสอนให้อธิษฐาน

มธ.6:9-13 6:9 เหตุฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงอธิษฐานตามอย่างนี้ว่า ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้ทรงสถิตในสวรรค์ ขอให้พระนามของพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ 6:10 ขอให้อาณาจักรของพระองค์มาตั้งอยู่ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ ในสวรรค์เป็นอย่างไร ก็ให้เป็นไปอย่างนั้นในแผ่นดินโลก 6:11 ขอทรงโปรดประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ทั้งหลายในกาลวันนี้ 6:12 และขอทรงโปรดยกหนี้ของข้าพระองค์ เหมือนข้าพระองค์ยกหนี้ผู้ที่เป็นหนี้ข้าพระองค์นั้น 6:13 และขออย่านำข้าพระองค์เข้าไปในการทดลอง แต่ขอทรงช่วยข้าพระองค์ให้พ้นจากความชั่วร้าย เหตุว่าอาณาจักรและฤทธิ์เดชและสง่าราศีเป็นของพระองค์สืบ ๆ ไปเป็นนิตย์ เอเมน   พระเยซูสอนให้อธิษฐาน “ข้าแต่พระบิดาของข้าพระองค์ทั้งหลาย ผู้สถิตในสวรรค์… ขอให้พระนามพระองค์เป็นที่เคารพสักการะ ขอให้แผ่นดินของพระองค์มาตั้งอยู่ ในสวรรค์เป็นอย่างไรก็ให้เป็นอย่างนั้นในแผ่นดินโลก และในครัวเรือนของข้าพระองค์ ขอให้เป็นไปตามพระทัยของพระองค์ โปรดสำแดงน้ำพระทัยอันสมบูรณ์ ขอทรงสอน และนำให้อยู่ในน้ำพระทัยเสมอ ขอประทานอาหารประจำวันแก่ข้าพระองค์ ทรงรู้ทุกความต้องการและจำเป็น ขอโปรดประทานสิ่งดีไม่ขาดหรือช้าไปจากข้าพระองค์และครัวเรือน และขอทรงยกบาปผิดของพวกข้าพระองค์เหมือนพวกข้าพระองค์ยกโทษบรรดาคนที่ทำผิดต่อข้าพระองค์ ขอประกาศยกโทษผู้ล่วงละเมิดในอดีต ปัจจุบัน และประกาศยกโทษล่วงหน้าในอนาคต และขออย่าทรงนำพวกข้าพระองค์เข้าไปในการทดลองแต่ขอให้พวกข้าพระองค์พ้นจากความชั่วร้าย ขอทรงเหวี่ยงสิ่งซึ่งชั่วร้ายให้ไกลห่างดั่งตะวันตกกับตะวันออก ขอทรงซ่อนข้าพระองค์และครัวเรือนไว้ใต้ร่มปีกแห่งพระคุณของพระองค์ เหตุว่าราชอำนาจ และฤทธิเดชและพระสิริเป็นของพระองค์สืบๆ ไปเป็นนิตย์ อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์ อาเมน”  ♥ ♥ ♥ 120714