Category Archives: สีสันชีวิต

○ สะท้อนความงดงามผ่านกระบวนการต่างๆ ที่พระเจ้าสร้างในชีวิตส่วนตัวข้าพเจ้าเอง
○ นำเสนอทัศนะ รูปแบบตามบุคลิกภาพและจุดยืนที่พระเจ้าเรียกในชีวิตข้าพเจ้าเอง

การรอคอย

เป็นที่รู้กันอยู่แก่ใจของบรรดาผู้เชื่อว่า เราทุกคนต่างรอคอยวันเวลาที่จะได้กลับสู่สวรรค์สถาน สถานที่นิจนิรันดร ที่เต็มไปด้วยความสุขแท้ชนิดที่ความเศร้าโศกใดๆ ไม่สามารถปรากฏได้ และที่สำคัญที่นั่นเราจะได้อยู่ต่อหน้าบัลลังก์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และในบางเวลาพระเจ้ามักส่งสถานการณ์ต่างๆ ให้เราได้ฝึกฝนวิถีแห่งการรอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค์ การรอคอย   1.    เฝ้ารอคอยด้วยใจจดใจจ่อ     การที่คนเราจะใจจดจ่อได้นั้น นั่นหมายถึง สิ่งนั้นต้องมีความสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้มาหรือครอบครองซึ่งสิ่งที่รอคอย     การรอคอยนั้นไม่ได้หมดไปวันๆ แต่เป็นการเฝ้ารอคอยด้วยความหวังใจและเชื่อเสมอว่า วันนั้นจะมาถึงโดยเร็ว วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า เป็นความสดชื่นที่หวนระลึกถึงอย่างไม่สั่นคลอน 2.    ไม่รู้วันเวลา     การเฝ้ารอคอยบางอย่างเราก็ไม่รู้วันเวลาเอาเสียเลย ว่ามันจะมาถึงวันไหน? เวลาใด? กันแน่…. แต่เราแน่ใจ มั่นใจในพระองค์ที่เราเชื่อว่า จะทรงมอบให้ ประทานให้เราเป็นอย่างแน่นอน     ซึ่งการเฝ้ารอคอยอย่างไม่รู้วันเวลานี้เป็นการกระตุ้นให้ความเชื่อยิ่งมั่นคงและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น เพราะมันเป็นบทพิสูจน์ความวางใจ ความเชื่อใจที่เรามีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา     แน่นอน!! ที่พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระองค์ไม่ผิดพลาด ดังนั้นสิ่งที่ทรงสัญญาย่อมจะมาถึงอย่างแน่นอน เพียงแค่เราไม่รู้ว่าวันไหนเวลาใด แต่มันจะมาอย่างกระทันหัน ดังนั้นเรา จึงต้องรอคอยแบบเฝ้าระวัง แบบพร้อมจะรับเสมอ ไม่ว่าจะเวลาใดก็ตาม เมื่อเวลานั้นมาถึง จะไม่มีเวลาสำหรับการจัดแจง การเตรียม หรือยืดเยื้ออีกต่อไป 3.  … Read More »

โลทกับการตัดออกจากบาป

ในนาทีที่โลทต้องเผชิญหน้ากับการช่วยเหลือของพระเจ้าที่มาถึงชีวิตและครัวเรือนของเขา ผ่านคำอธิษฐานของอับราฮัม  … การแยกตัวออกจากถิ่นฐานที่ตั้งมั่นของเขา เพราะเป็นที่ที่เต็มไปด้วยบาปที่ถึงเวลาและวาระแห่งการพิพากษาของพระเจ้ามาถึงแล้ว มากกว่าทรัพย์สินความมั่นคงที่เป็นของเขาและแหล่งทำกินแล้ว เขาจำต้องละสารพัดสิ่งที่พันผูก ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ญาติพี่น้องในครัวเรือนของเขาเองด้วยซ้ำ แท้จริงครอบครัวของเขามีกัน 10 คน แต่ที่ออกจากโสโดมโกมาราได้จริงๆ มีแค่เพียง 4 คนเท่านั้น… คือ … ตัวโลทเอง ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน ส่วนคนที่เหลือเขาจำต้องทิ้งไว้กับการพิพากษาของพระเจ้า แม้ความเจ็บปวดจะมาถึงจิตใจภายในของเขาและเห็นตำตา รู้เต็มอก ก็ตามที … *** แต่เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า หากโลทไม่ก้าวออกมาพระเจ้าก็จะนำเขาออกมา เหตุที่โลทไม่กล้าก้าวเพราะรักและเป็นห่วงญาติที่เหลือไม่ยอมไปด้วย ทำให้การตัดสินใจของโลทลดระดับลงจากที่ควร…  เหตุนี้เองพระเจ้าจึงเข้าแทรกแซงดึงเขาออกมาจากโสโดม  แต่สาเหตุที่ญาติๆ และคนในครัวเรือนที่เหลือของโลทไม่ได้รับการช่วยเหลือนี้จากพระเจ้า เพราะพวกเขาตัดสินใจเองที่จะอยู่กับบาป ปฏิเสธโอกาสและพระหัตถ์แห่งการช่วยกู้ที่มาถึง ผ่านชีวิตของโลทและการวิงวอนของอับราฮัม โลทกับการตัดออกจากบาป 1.    แม้พระเจ้าจะให้โอกาสเพียงใด แต่หากคนนั้นเลือกที่จะอยู่กับบาปและจมอยู่เช่นนั้น ก็ไม่มีใครหรือสิ่งใดจะช่วยได้ เพราะพระลักษณะของพระเจ้าอีกด้านคือ ทรงเข้มงวดกับความบริสุทธิ์ 2.    เมื่อถึงเวลาแห่งการพิพากษาของพระเจ้ามาถึง *** สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นคือ … ออกจากจุดที่เป็นอยู่และห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้าเราจะสามารถผ่านจุดนั้นมาได้แน่นอน ขอเพียงแค่เรายอมออกจากบาปนั้นก็พอ 3.  … Read More »

บทพิสูจน์ที่ผ่านแล้ว

พระบิดาผู้ทรงขัดเกลาและสร้างเราให้แข็งแกร่งนั้นเป็นอีกหนึ่งความสัมพันธ์ที่พระเจ้าหยิบยื่นให้กับบุคคลที่แสวงหาการเติบโตและก้าวไปอย่างไม่รู้จักพอ อยากและปรารถนาจะเรียนรู้จักพระองค์มากยิ่งๆ ขึ้น แน่นอนว่าชีวิตของเราแต่ละคน ย่อมต้องผ่านบทพิสูจน์ต่างๆ มากมาย และการพิสูจน์ตนเองว่าเป็นที่ใช้การได้ขององค์พระผู้เป็นเจ้าก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นกัน เวลาเหล่านั้น คือ ช่วงเวลาที่ไม่มีมนุษย์คนใดโปรโมท ไม่มีใครให้การสนับสนุน ตรงข้ามกัน… กลับมีแต่เสียงคัดค้าน… *** แต่มีเพียงเสียงเดียวเท่านั้นที่ชัดเจนหรืออาจแผ่วเบาคือ เสียงขององค์พระผู้เป็นเจ้า*** มนุษย์น้อยคนนักที่จะมองจากภายใน หรือบางเวลาอาจหาไม่เจอเลยด้วยซ้ำ คนส่วนใหญ่ล้วนแล้วแต่มองภายนอก มองสิ่งที่ตาเห็น ประเมินจากความคิดและจินตนาการของเขาเองว่า… มันควรเป็นเช่นไร มันน่าจะเป็นอย่างไร เอาประสบการณ์ตนเองเป็นที่ตั้ง ซึ่งก็น้อยคนเหลือเกินที่จะนั่งลงพิจารณาอย่างถี่ถ้วน รอบด้าน หรืออธิษฐานถามพระเจ้าว่า “สิ่งที่เห็นในผู้อื่นนั้นคือสิ่งใด” เป็นไปได้ว่าพระเจ้าอาจกำลังทำบางอย่าง แต่ก็นั่นแหละ เราต่างก็เคยเป็นทั้งผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์และผู้ที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์ด้วยกันทั้งนั้น ในสังคมทั่วไปการพูดเพื่อโต้แย้งหรืออธิบายดูจะเป็นทางออกที่ดี แต่ในทางกลับกัน พระเจ้ามักปรารถนาให้เราพิสูจน์ชีวิตเสียมากกว่า เพราะบทพิสูจน์มักทำลายคำครหาโดยสิ้นเชิง กว่าจะผ่านในแต่ละช่วงเวลาแห่งการพิสูจน์ชีวิตได้นั้น จำเป็นต้องอาศัยความอดทนอย่างมาก ความเชื่ออย่างสูง เราต้องยึดเสียงของพระเจ้าไว้และเดินตามไปทีละก้าวๆ เพราะการพิสูจน์ชีวิตย่อมต้องใช้เวลา บางบทพิสูจน์อาจใช้เวลาแค่ 1 ปี , 3 ปี , 5ปี … หรืออาจตลอดชีวิตก็เป็นได้  ขึ้นอยู่กับการตอบสนองของเราและแผนการณ์ของพระเจ้า   บทพิสูจน์ที่ผ่านแล้ว แท้จริงเมื่อเราจดจ่อในการเดินกับพระเจ้า การพิสูจน์ชีวิตจะเริ่มเปลี่ยนมุมมองทัศนคติ… Read More »

ความบริสุทธิ์ที่ต้องรักษา

เพราะพระนามพระเจ้าทรงบริสทุธิ์ และด้วยพระลักษณะนี้เอง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่จะทรงเรียกเราทั้งหลายเข้าสู่ความบริสุทธิ์ของพระองค์ และเมื่อความบริสุทธิ์เข้าปะทะร่างกายบาป กายเนื้อหนังจึงมีอาการต่างๆ เพื่อรับการเปลี่ยนแปลงใหม่ภายในเราเป็นทั้งกระบวนการและการสำแดงของพระเจ้าในเวลาเดียวกัน ไม่ว่าอย่างไรความบริสุทธิ์นั้นก็ช่างประเสริฐและล้ำค่าเสียจนกายเนื้อหนังที่ปรารถนาจะรับยังคงต้องสั่นเทาและรับผลกระทบทุกครั้ง ยิ่งบริสุทธิ์มากเพียงใด การรับยิ่งต้องถูกขยายขนาดมากเพียงนั้น ผู้ที่เห็นคุณค่าและรู้ค่าของความบริสุทธิ์ที่พระเจ้ามอบให้และกระทำในชีวิตเราเป็นประสบการณ์ตรง ไม่ว่าจะกี่ครั้งก็ตาม มักจะต้องดำเนินชีวิตเพื่อรักษาความบริสุทธิ์นี้ให้ยั่งยืนต่อไปในชีวิตของตน แน่นอนบางคนอาจถูกเรียกร้องสิ่งต่างๆ แท้จริงการเรียกร้องจากพระเจ้าเพื่อความบริสุทธิ์เกิดขึ้นได้กับทุกคน แม้จะแตกต่างในแต่ละเรื่องที่ทรงเรียกร้อง นั่นขึ้นอยู่กับของประทานและการทรงเรียก รวมถึงลักษณะชีวิตทั้งจุดอ่อนแข็งของเราเป็นองค์ประกอบ เพราะพระองค์ทรงสัพพัญญูรู้ทุกวิถีทางทั้งชีวิตของเรา คนที่ปล่อยปละละเลยในการรักษาชีวิตตามการเรียกร้องนั้น..ความบริสุทธิ์จะเป็นเพียงแค่ประสบการณ์หนึ่งของชีวิตเท่านั้นแทนที่จะเป็นคุณลักษณะแท้ของชีวิตเขา เนื่องจากเราอยู่บนโลกที่แวดล้อมไปด้วยบาปที่ล่อลวงและหลายๆครั้งมนุษย์นี่แหละก้าวเข้าสู่บาปด้วยความเต็มใจเอง ดังนั้นหากไม่รักษาความบริสุทธิ์ไว้ก็ไม่อาจต้านทานความบาปเหล่านั้นได้ ความบริสุทธิ์ที่ต้องรักษา ความบริสุทธิ์มักแยกเราออกจากบาปด้วยวิถีทางต่างๆ ทั้งการดำเนินชีวิต ความคิด ค่านิยม ความรู้ความเข้าใจ การเลือกปฏิบัติตนเพื่อดำรงชีวิตบนโลก อีกทั้งทุกสิ่งเหล่านี้อยู่ภายใต้เงื่อนไขการอยู่ในน้ำพระทัยพระเจ้า… พระเจ้าไม่ทรงมีน้ำพระทัยในเราเกลือกกลั้วกับบาปเป็นที่แน่แท้ แม้เราจะอยู่บนโลกก็ตาม ถ้าเช่นนั้นการไถ่ของพระเยซูบนกางเขนจะเกิดขึ้นเพื่ออะไร… พระบิดาทรงยอมมอบพระบุตรไว้บนกางเขนเพื่อนำเรากลับสู่ความสัมพันธ์กับพระองค์ นั่นคือ ลบล้างบาปและชำระเราให้บริสุทธิ์ แยกเราออกจากบาปและวิถีที่นำไปสู่ความตาย  กระบวนการต่างๆ เสร็จอย่างสมบูรณ์แบบบนกางเขนด้วยฤทธิ์อำนาจของโลหิตของพระเยซูเพียงพอที่จะชำระเรา แต่ด้วยกระบวนการสร้างชีวิตของเรา พระองค์ไม่ได้นำเราออกจากโลกที่เต็มไปด้วยบาป แต่ทรงยังคงให้เราอยู่บนโลกนี้ต่อไป ดังนั้นการรักษาความบริสุทธิ์จึงสำคัญยิ่งๆ ยวด ปุโรหิตต้องติดกระพรวนลูกโตไว้ที่ชายเสื้อจำนวนมากเพื่อส่งเสียงดัง … เมื่อใดที่เสียงกระพรวนนั้นเงียบลงแสดงว่าเขาได้ตายเพราะบาปเสียแล้ว เมื่อพระเยซูทรงไถ่เราทั้งหลายที่กางเขน ม่านในวิหารขาดจากบนจรดปลาย เพื่อเปิดประตูออกให้เราก้าวเข้าสู่อภิวิสุทธิสถานด้วยตัวเอง ไม่ต้องผ่านผู้ใดอีกต่อไป เราจึงได้รับเกียรตินี้จากพระเจ้าพระบิดา โดยผ่านพระโลหิตแห่งการไถ่ของพระเยซู และผ่านพระองค์เองนั้น ความบริสุทธิ์ได้เข้ามาเป็นส่วนสำคัญในชีวิต นั่นหมายถึง… Read More »

แสนเนิ่นนานเหลือเกิน

ระหว่างเส้นทางเดินสู่จุดหมายที่แสนยาวไกลกับชัยชนะในการปล้ำสู้ บางครั้งเราเห็นพระพรเทลงมาเพียงน้อยนิด อาจทำให้เข้าใจว่าผ่านแล้ว… แต่………………. ? ทำไมยังวนเวียนอยู่ (ที่เดิมๆ) หรือ ? เป็นแบบแว่บๆ แทนความมั่นคงที่เกิดขึ้น แท้จริงยังไม่ผ่าน >>> เพราะหากเราชนะจริง มันจะผ่านแบบมั่นคง ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวแต่จะกลายเป็นธรรมชาติชีวิตใหม่ เป็นสิทธิอำนาจ และลักษณะชีวิตให้จนกลายเป็นพื้นฐานสู่ก้าวต่อไปของชีวิตเรา แสนเนิ่นนานเหลือเกิน เนื่องจากพระลักษณะพระเจ้ามีพระคุณและรักเรา พร้อมที่จะให้กำลังแก่เราในการก้าวไปแต่ละก้าว การอวยพรของพระเจ้าจึงมีแก่เราเป็นระยะๆ เพื่อให้เรามีกำลังและรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยตลอดเส้นทาง ไม่เพียงแค่ปลายทางเท่านั้น แต่ระหว่างทาง พระพรยิบย่อยก็ส่งมาให้เราอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเป็นตัวชี้แนวทางเสมือนป้ายบอกทางให้กับเราว่ามาถูกทางหรือเปล่าด้วย… และแน่นอนว่าหากระหว่างทางพระพรยังมากมายไม่ขาดสายแล้ว ปลายทางยิ่งมากกว่าเป็นร้อยเท่า  หากใครไปถึงย่อมได้รับเป็นแน่ และเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางเฉพาะเจาะจงถึงเราแต่ละคนด้วย *** ระวังอย่าหลงไปเดินเส้นทางของผู้อื่น เพราะปลายทางนั้นก็มีไว้สำหรับเจาะจงแต่ละคนด้วยเช่นกัน หากเดินในเส้นทางของผู้อื่น แม้เดินไปจนสุดปลายทางก็ไม่มีของๆ เราเตรียมไว้ที่นั่น ด้วยสายตาอันแสนสั้นของเรา อาจคิดว่า… ? ทำไมแสนเนิ่นนานเหลือเกิน ? เมื่อไรหนอจะจบเสียที แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ในอนาคตของเรา ทรงสัพพัญญู จึงทำการเพาะบ่มชีวิตเราในช่วงเวลานี้เพื่ออนาคต เมื่อถึงวันนั้นเราจะสามารถรับพระพรอย่างเต็มขนาด หากเราผ่านไปด้วยกระบุงอันน้อยนิดที่ถือติดมือไปแบบรั่วๆ เมื่อถึงเวลาแห่งการตักตวงพระพร เราอาจอยากกลับมาที่จุดแห่งการเพาะบ่มอีกครั้งก็เป็นได้… แต่คนที่อดทนจนถึงที่สุดย่อมอิ่มปริ เมื่อถึงเวลาแห่งการตักตวงพระพรด้วยภาชนะที่อยู่ในมือนั้นใหญ่มากพอและทนทานพอที่จะเก็บพระพรนั้นไว้กับตัวนานแสนนาน   09/12/2013 12:03… Read More »

การจัดการตัวเอง

การจัดการตัวเองเป็นหนทางที่ดีที่สุดสำหรับผู้ที่ต้องการเริ่มต้นใหม่ และผู้ที่ต้องการไปต่อ เพราะเราไม่สามารถเดินหน้าโดยมีสิ่งที่รั้งไว้ ฉุดไว้ เพราะจะไปได้ไม่ไกล …ด้วยความเหนื่อยล้านั้นจะบั่นทอนเอากำลังออกไปทีละเล็กละน้อย จนกระทั่งหมดกำลัง หมดเรี่ยวแรง และหมดสิ้นความหวังใจในที่สุด… การจัดการตัวเอง ในฝ่ายวิญญาณ การเคียร์หรือจัดการตนเอง ทำให้เรามีเสรีภาพในทุกๆ ก้าว อีกทั้งชีวิตที่เคียร์ โปร่งใส ย่อมทำให้พระเจ้าฟังถ้อยคำร้องทูลของเรา … ใจที่ขุ่นมัว ไม่สามารถรับรู้ หรือรับฟังเสียงพระเจ้าได้ชัดเจน จึงไม่แปลกที่เสียงของพระเจ้าจะเงียบหายไปในช่วงเวลาเหล่านั้น แต่เสียงที่ดังก้องมักเป็นเสียงภายในใจของตนเองที่ปรารถนาตามเนื้อหนังความเป็นมนุษย์ต่างหาก เมื่อใดที่สามารถเคียร์ตนเองจนสามารถนิ่งสงบ ไร้ซึ่งอคติ ปราศจากซึ่งความขุ่นมัว พระวิญญาณบริสุทธิ์จะทำงานของพระองค์ได้เต็มขนาดอีกครั้ง พระเจ้าทรงให้เวลาเราเสมอในการจัดการตัวเอง อีกทั้งยังทรงช่วยเหลือเรา เป็นกำลัง และฟื้นฟู ทรงคืนสิ่งดีอย่างยุติธรรมแก่เราและผู้คนรอบข้างเราด้วย ดังนั้นช่วงเวลาเงียบของพระองค์ คือ การที่พระองค์รอคอยให้เรากลับมายืนในจุดที่พร้อมจะให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ทำงานได้อย่างเต็มขนาดอีกครั้ง…   อย่าสงสัยในช่วงเวลาเงียบที่มาถึง เพียงแค่สำรวจตนเพื่อรับการชำระก็เป็นพอ   22/07/2014 10:26  

วิธีการของพระเจ้ากับความไม่เข้าใจของมนุษย์

วิธีการของพระเจ้า หลายครั้งมักไม่เข้าใจ หาเหตุผลมารองรับไม่ได้… บ่อยครั้งที่พระเจ้ามักมีวิธีการที่เกินความเข้าใจของเรา เกินขอบเขตความสามารถของเราที่จะคิดได้ เนื่องจากมนุษย์มีความจำกัดหลายๆ ด้าน ทั้งมิติเวลา ทั้งความรู้ ความสามารถ ประสบการณ์ และอื่นๆ แต่พระเจ้าผู้ทรงสัพพัญญูไม่ทรงถูกจำกัดด้วยสิ่งใดๆ ทั้งสิ้น จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่หลายต่อหลายครั้ง แม้จะควาญหาเหตุผลหรือข้อมูลใดๆ ก็ไม่สามารถรองรับแนวทางของพระเจ้าได้เลย แต่เมื่อใดก็ตามที่เชื่อฟังได้… นั่นแสดงว่าสอบผ่าน 2 เรื่อง คือ 1. ความเชื่อ >> เพราะมันมองไม่เห็นด้วยตามนุษย์ ไม่ได้เป็นไปตามปกติวิธี แต่ยังคงเชื่อในพระเจ้าอยู่ 2. ความวางใจ >> การเชื่อฟังแบบหาเหตุผลมารองรับเป็นรูปธรรมไม่ได้ ต้องอาศัยความไว้วางใจต่อผู้ที่เรากำลังเชื่อ จึงจะสามารถเชื่อฟังได้ และไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร แต่อย่างน้อยที่สุด จะได้รับพระพร 3 ด้าน 1. พระพรแห่งความเชื่อ = ได้รับตามที่ทรงสัญญา ฮบ.11:1 บัดนี้ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นหลักฐานมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง 2. พระพรแห่งความวางใจ = สันติสุข มีกำลัง มีปัญญา 3. พระพรแห่งการเชื่อฟัง… Read More »

ไม่เคยพร้อม

พระเจ้ามักเรียกร้องให้ตอบสนองในวันเวลาที่ดูเหมือนอะไรๆ ก็ไม่พร้อมสักอย่าง เพราะที่เราควรเตรียมตัวคือ ชีวิตเรา พระเจ้าไม่ได้สนใจสิ่งที่เรามี แต่สนใจหัวใจที่พร้อมจะไปกับพระองค์ แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมให้ เพื่อให้เห็นว่าไม่ใช่เรี่ยวแรงของเราเอง แม้ท่ามกลางความไม่พร้อม ภาระที่ดูเหมือนประดังเข้ามายามที่ทรงเรียกร้องให้ก้าว ดูเหมือนทิ้งไปไม่ได้ในเวลาที่ทรงเรียก … •    หัวใจของเราเป็นเช่นไร? ในเวลานั้น… •    ยังคงมอบให้พระเจ้าได้หรือเปล่า? •    ยังกล้าที่จะถวายแม้ในความไม่พร้อมนั้นหรือไม่? … แม้มีเพียงแค่ 2 เหรียญสุดท้ายในชีวิตดั่งหญิงหม้ายคนนั้นหรือเปล่า? … แต่อย่าลืมว่าพระเยซูทรงพอพระทัยหญิงหม้ายแสนเล็กน้อยคนนั้นมากกว่าเศรษฐีที่ถวายเงินถุงใหญ่เสียอีก •    ลก.21:2-4     21:2 พระองค์ทอดพระเนตรเห็นหญิงม่ายคนหนึ่งเป็นคนยากจนนำเหรียญทองแดงสองอันมาใส่ด้วย     21:3 พระองค์ตรัสว่า “เราบอกความจริงแก่ท่านทั้งหลายว่า หญิงม่ายยากจนคนนี้ได้ใส่ไว้มากกว่าคนทั้งปวงนี้     21:4 เพราะ ว่าคนทั้งปวงนี้ได้เอาเงินเหลือใช้ของเขามาใส่ถวายแด่พระเจ้า แต่ผู้หญิงนี้ขัดสนที่สุด ยังได้เอาเงินที่มีอยู่สำหรับเลี้ยงชีวิตของตนมาใส่จนหมด” •    ยังเป็นดั่งมารีย์ที่อยู่แทบพระบาทพระเยซูโดยละทุกสิ่งที่จำเป็นต้องทำหรือเปล่า? •    ลก.10:38-42     10:38 และต่อมาเมื่อพระองค์กับเหล่าสาวกกำลังเดินทางไป พระองค์จึงทรงเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีผู้หญิงคนหนึ่งชื่อมารธาต้อนรับพระองค์ไว้ในเรือนของเธอ     10:39 มารธามีน้องสาวชื่อมารีย์ มารีย์ก็นั่งใกล้พระบาทพระเยซูฟังถ้อยคำของพระองค์ด้วย   … Read More »

เครดิต

เครดิต สร้างได้ ถูกทำลายได้ ขโมยได้ เครดิตเป็นสิ่งที่มนุษย์สร้างขึ้น เพื่อความน่าเชื่อถือด้วยกันเองในหมู่มนุษย์ด้วยกัน เพื่อจะใช้อ้างอิงได้ อันเนื่องจากมนุษย์คนบาปไม่สามารถรับรองตนเองได้ 100% เพราะทุกคนย่อมมีส่วนที่ขาด ส่วนที่บกพร่อง ส่วนที่ผิดพลาด และส่วนที่บาป เครดิตจึงถูกสร้างขึ้นเพื่อ ทดแทน ปกปิด ส่วนด้อยนั้น และดึงเอาส่วนแข็งออกมา แต่พระเจ้าไม่เคยมองหาเครดิตจากเราเลย ทรงใส่คุณค่าให้แก่เราตั้งแต่อยู่ในครรภ์มารดา ทรงให้ความเชื่อมั่นเราตั้งแต่ทรงเริ่มแผนการณ์ของพระองค์ในชีวิตเรา ทรงรู้ทุกจุดอ่อนแข็งในชีวิตเราที่แม้เราเองก็ไม่รู้ หรือใครก็มองไม่เห็น ดังนั้นหากพระเจ้ามองที่เครดิตแล้ว ในสายตาพระองค์ผู้ทรงรู้ทุกซอกมุม จะให้เราผ่านได้หรือ??? ความรักของพระเจ้าไม่จำกัดว่าต้องแลกด้วยประวัติอันดีงามสวยหรูเพียงใด เพราะแม้เราเพิ่งทำผิดพลาดหมาดๆ พระองค์ก็ยังคงกู้ แม้ในความบาปของเราก็ยังทรงตรัส เพื่อนำเรากลับมาและช่วยเรา นั่นสะท้อนให้เห็นว่าทรงให้โอกาสเราในการกลับใจใหม่และเริ่มต้นใหม่ได้ทุกเมื่อ หลายครั้งมนุษย์ยึดติดกับเครดิตมากเสียจน ทำให้เป็นตัวกำหนดคุณค่าผู้อื่นหรือตนเอง แทนที่คุณค่าที่พระเจ้าตั้งและให้ไว้ แน่นอนว่า การรักษาชีวิตที่ดีเป็นเรื่องพื้นฐานของเรากับพระเจ้าที่พึงกระทำเป็นอย่างมาก เมื่อคนได้พบพระคุณพระเจ้าอย่างแท้จริง ไม่มีใครยังฝืนทำบาปได้ เพราะความบริสุทธิ์ของพระเจ้าสามารถชำระทุกสิ่งและทุกคนที่อยู่ใกล้… พระคุณอาจหลงลืมได้ หากเหินห่าง พลังอานุภาพของพระเจ้าทำให้มนุษย์ที่เผชิญหน้ากับพระองค์ไม่สามารถมีใจที่แข็งกระด้างอยู่ได้ (แม้แต่มารเองก็ตาม) แต่เมื่อไม่ได้เผชิญหน้ากับพระเจ้า เป็นปกติที่มนุษย์คนบาปมักหลงลืม และ ละทิ้งพระคุณได้ ดังนั้นเมื่อรักษาชีวิตเป็นอย่างดี เดินในมรรคาของพระเจ้า ย่อมมีเครดิตเกิดขึ้น เพราะการพิสูจน์ชีวิต เพราะการดำเนินชีวิตที่สอดคล้องกับพระลักษณะพระเจ้า…    … Read More »

เลิกกักขังตนเอง ด้วยเหตุผลจอมปลอม

ในโลกนี้ไม่มีชีวิตใครที่โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดไป เหมือนในนิยาย ที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน ต่างก็ย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก , ช่วงเวลาที่ไม่ชอบ , ช่วงเวลาที่เจ็บปวด , ช่วงเวลาที่ทนทุกข์ กันทั้งนั้น แม้ว่าเราแต่ละคนจะมีโอกาสและพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันก็ตาม เพียงแต่แง่มุม และลักษณะของเหตุการณ์ , สถานการณ์ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน ♥   เรื่องบางเรื่องอาจมีผลกระทบกับคนบางคนอย่างมาก… แต่กับบางคนกลับไม่รู้สึกอะไรเลย ♥     เรื่องบางเรื่องบางคนใช้เวลานานมาก กว่าจะผ่านไปได้ … แต่บางคนใช้เวลาเพียงเล็กน้อย ♥     เรื่องบางเรื่องสำหรับบางคนแค่ตัดใจก็ผ่านได้ … แต่บางคนต้องปล้ำสู้ ล้มลุกคลุกคลาน ครั้งแล้วครั้งเล่า แต่ละคนอาจจะมีเรื่องที่มีผลกระทบต่อชีวิตแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดอ่อนไหวของแต่ละคน ♣    บางคนอ่อนไหวง่ายกับการเงิน ♣    บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องเพศตรงข้าม ♣      บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องคำพูด ♣      บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องการให้เกียรติ , การถูกยอมรับ ♣      บางคนอ่อนไหวง่ายกับเรื่องครอบครัว , คนใกล้ตัว ♣    … Read More »