Category Archives: สีสันชีวิต

○ สะท้อนความงดงามผ่านกระบวนการต่างๆ ที่พระเจ้าสร้างในชีวิตส่วนตัวข้าพเจ้าเอง
○ นำเสนอทัศนะ รูปแบบตามบุคลิกภาพและจุดยืนที่พระเจ้าเรียกในชีวิตข้าพเจ้าเอง

ความงดงามของชีวิต

ความงดงามของชีวิต ไม่ได้หมายถึง … ชีวิตที่ไม่พบเจออุปสรรคปัญหาใดๆ เลย ก็เปรียบเหมือนถาดสี หากมีเพียงด้านเดียวก็ได้แค่สีเดียว อารมณ์เดียว สิ่งเดียว เป็นความงามที่มีเพียงมิติเดียว แต่ยิ่งหลากสีก็ยิ่งมีหลากหลายอารมณ์และรูปแบบ ยิ่งทำให้นุ่มลึกมากยิ่งขึ้น จะขาดสีสันใดไปก็ไม่ได้ … ชีวิตก็ไม่ต่างกัน… พระเจ้าผู้ทรงรังสรรค์ และริเริ่ม ได้บรรจงสร้างชีวิตของเราให้งดงามหลากหลายสีสัน จนหลายๆครั้งเราเองต่างเพลิดเพลินไปกับความงามเหล่านั้นในชีวิตของเราเอง จนกระทั่งไม่คาดคิดเลยด้วยซ้ำว่าชีวิตอันแสนเล็กน้อยของเราจะงดงามได้เพียงนี้ด้วยสีสันต่างๆ ที่ทรงสร้าง แต่กระนั้นก็เถิดการสร้างสีสันที่งดงามจะมาจากสิ่งใดได้เล่า นอกเสียจากสถานการณ์ต่างๆ พระเจ้าทรงส่งสถานการณ์ต่างๆ หรือบางครั้งก็ทรงอนุญาตให้สิ่งต่างๆ เกิดขึ้นในชีวิตของเรา ผ่านเข้ามาเพื่อผสมผสานลงตัวออกมาผ่านการตอบสนองของเรา และวัดผลด้วยสีที่ออกมาว่าจะสดสวยเพียงใด นี่เองเหตุว่า ทำไมพระเจ้าส่งสีเดียวกัน สิ่งเดียวกัน ให้แต่ละคน แต่กลับได้ผลลัพธ์ออกมาต่างกัน แม้ในบางสถานการณ์เราเองอาจไม่ชอบ ด้วยความยาก ลำบาก เหน็ดเหนื่อย ทุกข์ เศร้า อ้างว้าง สูญเสีย ขัดใจ ขัดกับตัวตนของเราก็ตาม แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่งแต้มและสร้างสีสันในชีวิตของเราได้อย่างลงตัว เพราะหากปราศจากสิ่งที่เราไม่ชอบเหล่านี้แล้ว สีสันที่งดงามก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ แม้หลายครั้งเราจะผิดพลาดในการผสมสี นั่นคือ ตอบสนองผิดบ้าง ล้มลุกคลุกคลานบ้าง ล้มเหลวและผิดหวังบ้าง แต่พระเจ้าผู้ทรงมองทั้งชีวิตของเรา ไม่ใช่แค่องค์ประกอบใดองค์ประกอบหนึ่ง หรือช่วงเวลาใดช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น ทรงกลับเห็นว่างดงามและดียิ่งนัก… Read More »

บุญคุณที่ไม่ลืมเลือน

ความงดงามของชีวิตข้าพเจ้า มีคนอยู่ 4 คนที่ไม่สามารถลืมเลือนได้ เพราะชีวิตที่เป็นได้ทุกวันนี้ และงดงามได้เพราะคนๆนี้ 1. พ่อแม่ ♥    ไม่เพียงการเลี้ยงดูฝ่ายร่างกาย แต่ยังคงปลูกฝังและสร้างค่านิยม รวมถึงต้นทุนชีวิต ขั้นพื้นฐานเพื่อให้สามารถลงทุนและเกี่ยวเก็บกำไรจากชีวิตที่เหลือ ♥    เป็นคนที่ไม่คิดดอกเบี้ยไม่เอากำไร ไม่เรียกทุนคืนจากเรา แม้บางครั้งเราอาจรู้สึกว่าสิ่งที่ท่านให้อาจไม่ได้อย่างที่เราปรารถนา แต่สิ่งที่ท่านให้เทออกมาจากชีวิตทั้งชีวิตของท่าน ♥    คนฉลาดย่อมมองหาการใช้งานจากสิ่งที่มี แทนการเพ้อฝันในสิ่งที่ไม่มีและร่ำร้องอยู่ร่ำไป เพราะเมื่อเริ่มด้วยสิ่งที่มีจะทำให้เราก้าวสู่สิ่งที่อยากมีและวาดฝันได้ นี่แหละคือต้นทุนชีวิตที่ข้าพเจ้าขอบพระคุณพระเจ้าที่เกิดเป็นลูกของพ่อแม่ 2. ผู้นำ ♥    ไม่เพียงแต่วางรากฐานความเชื่อ แต่กลับพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณอย่างที่ข้าพเจ้าเป็น อดทนแม้ไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆ หรือได้รับผลประโยชน์อะไรจากข้าพเจ้า แต่กลับทุ่มเทความรัก เวลา ความสามารถ และความห่วงใย ทุ่มเทอธิษฐานเผื่อ ♥    ที่สำคัญถึงวันหนึ่งที่เราเติบโตเพียงพอ เขากล้าที่จะมอบข้าพเจ้าคืนให้กับพระเจ้า เช่นเดียวกับพ่อแม่ที่ยอมปล่อยมือของเขา เพื่อให้เราใช้ชีวิตของตนเองและมีครอบครัวใหม่ ♥    ผู้นำทุกคนที่ก้าวเข้ามาในชีวิตข้าพเจ้าล้วนแล้วแต่เป็นพระคุณพระเจ้า ที่สำแดงความรักผ่านคนเหล่านี้ พวกเขาไม่เพียงอดทน ทุ่มเท เพื่อมอบให้ แต่ข้าพเจ้าเชื่อว่าสายตาของเขายังคงจับจ้องมองดูชีวิตเล็กน้อยค่อยๆ เติบโตขึ้นในองค์พระผู้เป็นเจ้า และนี่คือคววามเมตตาที่คนๆหนึ่งเสียสละเป็นคนนั้นที่เป็นผู้นำ ของขวัญแสนล้ำค่าเพื่อข้าพเจ้าจะไปต่อกับพระเจ้าได้ *** มีหรือ?? ที่ข้าพเจ้าจะมาถึงวันนี้ได้โดยปราศจากคนๆนี้ 3. เพื่อน… Read More »

เราต่างเลือกซึ่งกันและกัน

เคยมีคนกล่าวอยู่เสมอๆ ว่า “พระเจ้าเลือกเราก่อน ไม่ใช่เราเลือกพระเจ้า” เป็นความจริงที่ว่าพระเจ้าทรงเลือกเราก่อน ตั้งแต่ก่อนเริ่มสร้างโลกและอยู่ในครรภ์มารดา เราไม่ได้ถูกเลือกเมื่อเราเป็นคนดีขึ้น เก่งขึ้น มีความสามารถ แต่เราถูกเลือกไว้ตั้งแต่ยังไม่เกิด ยังไม่มีตัวตนเลยด้วยซ้ำ นั่นหมายความว่าเวลานั้นที่เราถูกเลือก เราไม่มีแม้แต่ความสามารถ คุณสมบัติ ความรู้ ความเก่ง หรืออะไรทั้งสิ้น ไม่สามารถสร้างประโยชน์อันใดเพื่อแลกเปลี่ยนกับการที่พระเจ้าเลือกเราได้เลย… แต่ความจริงอีกประการหนึ่งมีอยู่ว่า ไม่ใช่เพียงแค่พระเจ้าเท่านั้นที่เลือกเรา เราต้องเลือกพระองค์ด้วยเช่นกัน การมีปฏิสัมพันธ์ต้องไม่ใช่เพียงแค่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเท่านั้น หากพระเจ้าเลือกเราแต่เราไม่เลือกพระเจ้า จะไม่เรียกว่า “ความสัมพันธ์” เลย (ซึ่งก็ผิดไปจากปกติคริสเตียน เพราะคริสเตียนคือบุคคลที่มีความสัมพันธ์กับพระเจ้า) มันจะเกิดขึ้นเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่ได้ แม้ว่าพระองค์จะทรงริเริ่มทำก่อนก็ตาม การตายบนกางเขนของพระเยซูทรงเริ่มกระทำทั้งที่มนุษย์ยังเป็นคนบาป ในขณะที่มนุษย์ยังไม่ตอบสนองเลยด้วยซ้ำ เป็นการลงทุนที่เทออกก่อนเพื่อเรา  เพื่อพิสูจน์ให้เห็นถึงความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ แต่การไถ่ การช่วยกู้ จะเป็นผลเมื่อมนุษย์ตอบสนองและเลือกพระองค์เท่านั้น!!! การเลือกของพระเจ้าที่มีต่อเราแต่แรกเริ่ม >> สะท้อนผ่านกระบวนการสร้างชีวิตของเรา ตั้งแต่ครอบครัว พ่อแม่ญาติพี่น้อง สภาพแวดล้อม ที่สร้างและหล่อหลอมเรามาให้โตและกลายเป็นคนประเภทไหน จนเป็นเราแต่ละคนในวันนี้ เพราะพื้นฐานเหล่านี้เองเมื่อถึงเวลาที่เราเติบโตจนถึงจุดที่เราจะพัฒนาความสัมพันธ์กับพระเจ้าด้วยตนเอง หรือการรับใช้ หรือค้นพบการทรงเรียก เราจะพบและมองเห็นว่ากระบวนการตั้งแต่แรกเริ่มในชีวิตของเราช่างส่งเสริมการที่เราได้รู้จักพระเจ้ามากขึ้น ลึกซึ้งขึ้น เสียนี่กระไร… เช่น คนที่พบเจอความยากลำบากมาตั้งแต่เด็กจะมีพลังในความอดทนสูงกว่าคนปกติทั่วๆไป เมื่อเติบโตขึ้นมาไม่ว่าสถานการณ์จะยากลำบากแค่ไหน ในขณะที่คนอื่นทนไม่ได้… Read More »

มนุษย์เท่านั้นที่กระวนกระวายใจ

ปลาไม่สนใจว่าน้ำมากหรือน้อย มันแค่แหวกว่ายไปอย่างมีสุข ที่ใดก็ตามที่มีสายน้ำ ปลาก็สามารถมีชีวิตอยู่ได้ บางเวลาหน้าแล้งน้ำอาจน้อยอยู่บ้าง แต่พวกมันก็ไม่ทุกข์ร้อนใดๆ ทั้งสิ้น มันสามารถใช้ชีวิตอย่างเป็นสุข ตอดอาหารได้อย่างปกติสุขของมัน แม้ในยามน้ำมากหลาก พวกมันก็ยังคงดำเนินชีวิตอย่างเช่นเคย มันแหวกว่ายในลำธารใหญ่ ดำผุดดำว่ายขึ้นลง อย่างมีอิสระและเสรีภาพ พวกมันไม่ได้ทุกข์ร้อนใดๆกับปริมาณน้ำเลย นั่นเพราะการทรงสร้างที่แสนลงตัวขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงจัดเตรียมทุกสิ่ง มาอย่างเพียงพอและลงตัว มีแต่ละวาระเวลาบ้างพวกมันก็ใช้ชีวิตตามที่พระเจ้าบรรจงสร้างและตั้งไว้แต่ ดั้งเดิม นกในอากาศก็เช่นกัน พวกมันโบกโบยบินผลาขึ้นลงได้อย่างเต็มที่ แม้อากาศร้อน หนาว ฝนพรำ แดดจัด ก็หาได้มีผลต่อการโบยบินของมันไม่ ไม่ได้ทำให้พวกมันขาดใจตายเพราะอากาศน้อย หรือความกดอากาศมาก แต่พวกมันโบยบินไปตามแรงลมที่ลู่ปะทะตัวของมัน หยุดอยู่เพื่อหาอาหารเลี้ยงชีพบ้าง แต่สิ่งที่กลับมีผลต่อปลาในน้ำและนกในอากาศ มีเพียงมลพิษเท่านั้น น้ำเน่าปลาก็ตาย อากาศเสียนกก็พลัดถิ่นฐาน… แต่มนุษย์เล่า…ทำไม?? ถึงกระวนกระวายใจว่าจะเอาอะไรกินเอาอะไรดื่ม เอาอะไรนุ่งห่ม กระวนกระวายใจถึงวันพรุ่งนี้เป็นนักหนา… แน่นอนว่าเราต้องดำเนินชีวิตบนโลกที่เต็มไปด้วยอัตราการแลกเปลี่ยน เงินตรา แต่จริงหรือ? ที่เราหาแล้วก็ยังขาด ทำแล้วก็ไม่พอ ใช่ว่านกจะไม่บินเพื่อหาอาหาร ใช่ว่าปลาจะไม่แหวกว่ายเพื่อหาอาหาร แต่มันมีความสุขโดยไม่ให้ความมากน้อยมาเป็นผลต่อวิถีการดำเนินชีวิตของมัน ความมากน้อยไม่ได้ทำให้มันกระวนกระวายเลย แต่มันใช้ชีวิตปกติสุขของมันอย่างมีอิสระและเสรีภาพ แต่เหตุใดมนุษย์จึงมักกระวนกระวายใจต่อปริมาณที่มากหรือน้อยเหล่านั้น บางครั้งถึงกับขาดความสุขกันเลยทีเดียว ที่ยังขาดอยู่ ที่ยังไม่พอ เพราะสิ่งนั้นคือพื้นฐานการดำเนินชีวิตจริง หรือส่วนเกินที่เกิดจากความอยาก ความปรารถนา… Read More »

กลับหลังหัน

เคยไหม? ที่รู้สึกเช่นนี้ ¤ หนทางข้างหน้าช่างยาวไกลเหลือเกิน… ¤ กำลังและเรี่ยวแรงก็ลดน้อย หดหายไปหมด… ¤ ไม่เห็นมีอะไรดีเลย มองไปรอบๆตัวก็ว่างเปล่า… ¤ แม้จะมั่นใจปลายทางเหลือเกิน แต่หากไปไม่ถึงคงไม่เป็นไร ก็แค่นี้ก็พอใจแล้ว ********* หากความรู้สึกนี้คลืบคลานเข้ามา หนทางเกือบท้ายๆ ที่ข้าพเจ้าทำคือ หยุดเดิน แล้วหันหลังกลับไปมอง และสิ่งที่ข้าพเจ้าเห็นคือ ♡ เราผ่านมาไกลแค่ไหนแล้ว 》ณ จุดๆนี้ ห่างไกลจากจุดเริ่มต้น จนกระทั่งบางทีเรามองไม่เห็นจุดเริ่มต้นแล้วด้วยซ้ำ นั่นหมายถึง การลงแรง การตัดสินใจ ซึ่งแสดงว่า ณ เวลาเหล่านั้น หัวใจที่เต้นโลดและมุมานะเต็มร้อยเพียงใดที่จะก้าวไปข้างหน้า … ยิ่งเราออกมาไกลจากจุดเริ่มต้นมากเท่าไร เท่ากับใกล้จุดหมายมากเท่านั้น ♡ เราผ่านอะไรมาบ้างแล้ว 》เมื่อมองย้อนกลับไปกลับเห็นว่าเส้นทางที่ผ่านมาก็หาใช่ราบเรียบ แต่เราก็ผ่านมาได้ ทั้งทุกข์ สุข เศร้า อ้างว้าง ละทิ้ง ลงทุน กล้า กลัว ล้มลุกคลุกคลาน ♡ เราเห็นพระคุณการช่วยกู้ของพระเจ้าเพียงใด 》ไม่เคยมีสักครั้งที่การช่วยกู้ของพระเจ้ามาไม่ทัน หรือไม่อยู่ด้วย ในเมื่อไม่ทรงทอดทิ้งข้าพเจ้าแล้ว… Read More »

เชื่อใจ

ในวันเวลาแห่งความยากลำบาก บางครั้งคนที่เราเลือกจะระบายให้เขาฟังอาจไม่ใช่คนที่เรามักนึกถึงในยามปกติ แต่กลับเป็นคนที่เรามั่นใจว่าเขาจะเชื่อใจเรา เพราะในวันเวลาเหล่านั้นดูเหมือน…. ♥    ความมั่นคงในชีวิตก็แสนจะเบาบาง ♥    คำตอบที่ชัดเจนก็แสนจะเลือนลาง ดังนั้นคนที่พร้อมจะให้โอกาสและไม่กดดันเราในสภาพที่เราเองก็ประคองตัวให้ยืนได้ลำบาก คนๆนั้นคือ คนที่พร้อมจะเชื่อใจเรา ความเชื่อใจเป็นอีกความสัมพันธ์หนึ่งที่บ่งบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครจะพูดถึงอย่างไร เห็นอย่างไรก็ยังคงเชื่อมั่นในบุคคลที่เราเชื่อใจ เป็นความมั่นใจลึกๆ และไม่สั่นไหวไปตามสถานการณ์ หรือลมปากของใคร แต่มั่นใจและพร้อมจะอยู่เคียงข้างคนๆนั้น แม้จะช่วยอะไรไม่ได้ก็ตาม ☺    ไม่ว่าใครก็ตามย่อมปรารถนาจะมีคนที่เชื่อใจในตัวเราแบบนี้ ในขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปรารถนาจะให้เราเป็นคนๆนั้นที่เชื่อใจพระองค์ และพระองค์เป็นคนๆนั้นที่เชื่อใจเรา ความเชื่อใจเป็นส่วนที่ลึกกว่าความวางใจ เราวางใจพระเจ้าเมื่อเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า ยิ่งใกล้ชิดมาก ยิ่งนิ่งสงบมาก และวางใจเพราะคาดหวังการช่วยกู้ของพระเจ้ามาถึงเรา (ส่วนใหญ่เป็นการเชื่อในสิ่งที่พระเจ้าจะทำเพื่อเรา) แต่ความเชื่อใจเป็นความมั่นใจในพระลักษณะของพระเจ้า เป็นความมั่นใจในตัวพระองค์เอง ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ทรงทำ ดังนั้นไม่ว่าจะทรงทำสิ่งใดเราก็ยังคงมั่นใจว่าสิ่งนั้นย่อมดี เป็นแน่ แม้บางทีมองด้วยสายตาแล้ว อาจไม่ดี ไม่สะดวกสบาย หรือคนอื่นอาจมองว่าไม่ดี แต่เพราะความเชื่อใจ จึงมั่นใจว่ามันจะดี ที่มั่นใจเช่นนั้นไม่ใช่ เพราะสิ่งที่ตาเห็น แต่เพราะเรารู้และมั่นใจว่าพระองค์ทรงดีต่างหาก… 29/10/2013 12:43

วงปี

ต้นไม้มีวงปีเป็นตัวบ่งชี้ถึงอายุและสิ่งที่มันผ่านอะไรมาบ้าง ไม่ว่าต้นไม้นั้นจะอยู่ในที่ใดก็ตามก็ย่อมมีวงปีของมันเฉพาะต้นๆไป บางต้นอาจอยู่ในป่าลึก บางต้นอาจขึ้นอยู่กลางใจเมือง บางต้นก็ถูกวางไว้เป็นต้นไม้ประดับ แต่ไม่ว่าจะต้นไหนๆ ก็มีวงปีที่บ่งบอกอายุไขของมัน ซึ่งวงปีเป็นส่วนที่อยู่ภายในจะเห็นได้ต้องตัดไม้ออกเป็นท่อน     มนุษย์ก็เช่นกันย่อมมีสิ่งที่บ่งบอกได้ว่าชีวิตเราผ่านอะไรมาบ้าง นั่นคือ ประสบการณ์ อาจสะท้อนออกมาเป็นทัศนคติ แนวคิด หลักการในการดำเนินชีวิต วิถีการตัดสินใจ ซึ่งล้วนแล้วแต่ออกมาจากภายใน(เปรียบเหมือนวงปีนั่นแหละ) รูปลักษณะภายนอกไม่สามารถเป็นตัวบ่งชี้ได้ 100% ว่าเป็นเช่นไร แท้จริงภายนอกเป็นเพียงสิ่งบ่งชี้ได้น้อยนิดเหลือเกิน 1 ซมอ 16:7 แต่พระเยโฮวาห์ตรัสกับซามูเอลว่า “อย่ามองดูที่รูปร่างหน้าตาหรือที่ความสูงแห่งร่างกายของเขา ด้วยเราไม่ยอมรับเขา เพราะพระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรไม่เหมือนกับที่มนุษย์ดู ด้วยว่ามนุษย์ดูที่รูปร่างภายนอก แต่พระเยโฮวาห์ทอดพระเนตรจิตใจ” พระคัมภีร์บอกว่า : อย่ามองที่ภายนอก เพราะพระเจ้าชันสูตร(พิสูจน์) ภายในใจ ท่าทีของเรา … แน่หละใครที่มองเพียงภายนอกย่อมพลาดที่จะพบความจริงซึ่งซ่อนอยู่ ดังนั้นการจะรู้จักคนและประเมินคนต้องวัดกันที่ภายใน สิ่งที่สะท้อนภายในออกมาย่อมทำให้เราได้เห็นว่าชีวิตนั้นๆ ได้ผ่านอะไรมาบ้างแล้ว และนี่คืออีกหนึ่งความงดงามที่พระเจ้าทรงสร้าง  สิ่งต่างๆบนโลกเกิดขึ้นทันทีเพราะคำตรัส แต่ชีวิตกลับเป็นสิ่งที่พระเจ้าทรงค่อยๆ บรรจงสร้างอย่างงดงาม บางเรื่อง บางชีวิตอาจใช้เวลาเนิ่นนาน ** แต่ชีวิตคือ การเจริญเติบโตต่างหาก ** Series korea มักมีคำพูดว่า… Read More »

เมื่อข้าพเจ้าถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตำหนิ T____T

เมื่อข้าพเจ้าถูกวิพากษ์วิจารณ์และถูกตำหนิ ข้าพเจ้ามักทำ 2 สิ่ง คือ 1. กลับมาค้นหาใน พระคัมภีร์ ว่าข้าพเจ้าทำผิดจริงหรือไม่? ★หากทำผิดจริง พระคัมภีร์ มีทางออกและทางแก้ไขให้ข้าพเจ้าอย่างไร? เพราะข้าพเจ้าเชื่อและมั่นใจว่าพระเจ้าต้องการสร้างเราให้งดงามเหมือนพระองค์มากยิ่งๆขึ้น ดังนั้นจะไม่ทรงชี้จุดผิดพลาดโดยปราศจากทางออกหรือหนทางแก้ไขเปลี่ยนแปลง แต่ฝ่ายมนุษย์นั้นมักชอบชี้จุดผิด ซึ่งหลายครั้งที่ผิดไม่ใช่ผิด พระคัมภีร์ แต่ผิดใจและผิดขนบธรรมเนียมของเขาต่างหาก หลายๆครั้งจึงไม่มีทางออกหรือทางแก้ไขให้กับเรา หรือไม่มีคำตอบเพื่อให้เราจำเริญขึ้น ★ หากไม่ผิด พระคัมภีร์ นั่นหมายความว่ามนุษย์ไม่เข้าใจหรืออาจใช้มาตรฐานอื่นประเมินและวัดค่าเราอยู่ ซึ่งมันก็ขึ้นอยู่กับว่า … เราจะยอมให้ใครเป็นฝ่ายประเมินผลชีวิตของเรา หากผู้ประเมินผลเราคือพระเจ้า ข้าพเจ้าจะละทิ้งและก้าวข้าม คำเหล่านั้นไป แน่นอนว่าในความเป็นคน ข้าพเจ้าก็มีความรู้สึก โกรธ น้อยใจ เซ็ง เบื่อ ชั้นเป็นแพะรับบาปอีกหรอเนี่ยะ T_T …. ย่อมเกิดขึ้น … … … แต่ … … … ข้าพเจ้าสามารถก้าวข้ามสิ่งเหล่านั้นไปได้ โดยจะมองว่าไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามหากไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้าจำเริญขึ้นกับองค์พระผู้เป็นเจ้า ข้าพเจ้าสามารถก้าวข้ามเพื่อไปหาพระเจ้าของข้าพเจ้าได้ แน่นอนการยอมรับจากมนุษย์อาจไม่มีให้เห็น แต่หากเดินตามพระเจ้าแล้ว พระองค์จะต้องรับรองข้าพเจ้า แม้ข้าพเจ้าล้มลงจะล้มในพระหัตถ์ของพระองค์ การช่วยกู้และการรองรับ… Read More »

☆แม้ข้าพเจ้าจะไม่ใช่คนยิ่งใหญ่กว่าใครๆ แต่ก็ไม่ยิ่งหย่อนที่พระเจ้าจะทำอะไรในข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน☆

☆ แม้ข้าพเจ้าจะไม่ใช่คนยิ่งใหญ่กว่าใครๆ แต่ก็ไม่ยิ่งหย่อนที่พระเจ้าจะทำอะไรในข้าพเจ้าด้วยเช่นกัน☆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงได้รับสิทธิในการตอบสนองพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างเต็มที่ แท้จริงแล้วนี่คือ สิทธิพื้นฐานที่เราแต่ละคนได้รับจากพระเจ้าอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเชื่อพระเจ้าหรือไม่ แต่หลายต่อหลายคนและหลายต่อหลายครั้งที่คนเรามักละทิ้งสิทธินั้นอย่างไร้ปราณี ในหลายๆครั้งข้าพเจ้าเองก็เป็นเช่นนั้น แต่นี่แหนะ!! บัดนี้!! ข้าพเจ้าตระหนักเป็นอย่างดีว่าแม้ข้าพเจ้าจะสูญเสียสิทธิใดๆ หรือไม่มีสิทธิใดๆ ก็ตาม แต่ข้าพเจ้ายังคงมีสิทธิในการตอบสนองพระเจ้าของข้าพเจ้าอย่างเต็มขนาด แม้ข้าพเจ้าจะเสียสิทธิในการพูด ในการอธิบาย ในการทำสิ่งที่อยากทำ อยากได้ อยากเป็น สิทธิการเป็นตัวของตัวเองบางด้าน แต่แน่หละ ข้าพเจ้ายังคงรักษาสิทธิในการตอบสนองพระเจ้าของข้าพเจ้าได้ และเมื่อข้าพเจ้าตอบสนองพระเจ้าแล้ว ใครหรือจะชี้นิ้วว่ากล่าวข้าพเจ้าได้ เพราะ***ข้าพเจ้าเป็นที่รักและหวงแหนของพระองค์*** อย่ากล่าวว่าผู้ใดที่ตอบสนองพระเจ้าของเขาเลย แม้จะไม่เหมือนกับปกติโลกทั่วๆไป แต่ก็ไม่มีใครมีสิทธินั้นๆเลยสักคนเดียว เพราะสิทธิขาดนั้นอยู่ที่พระเจ้าแต่ผู้เดียว หากผู้นั้นตอบสนองผิดมีหรือ? พระเจ้าจะปล่อยไว้ ถ้านั่นมาจากพระเจ้าจริง httpv://www.youtube.com/watch?v=PfpL155MciY 28/10/2013 12:44

“บ้านทั้งหลังไม่สามารถพังทลายได้ด้วยนาฬิกาแขวนผนังเพียงเรือนเดียว”

อาจมีปัจจัยต่างๆนาๆที่ทำให้บ้านไม่สามารถตั้งมั่นคงอยู่ได้ อาจคลอนแคลน ทรุดโทรม หรือพังทลายลงมาได้ด้วยจุดเล็กๆ ก็จริง แต่หาใช่ทุกสิ่งที่เป็นเหตุให้บ้านพังทลายได้ การมองในสิ่งที่ไม่อาจทำให้เกิดความเสียหาย ว่าเป็นเหตุแห่งความเสียหาย ย่อมไม่สามารถหยุดหยั้งการลุกลามความเสียหายนั่นได้ เพราะหากจะหยุดยั้งต้องหาสาเหตุที่แท้จริงให้เจอ การโทษโน่นนี่หรือหาแพะมารับบาปแทน หาใช่ปัญหาจะหยุดยั้งได้ อาจทำให้หลงเข้าใจผิดว่าดีแล้ว หายแล้ว หรืออาจแค่ปลอบใจตนเองในด้านความรู้สึก แต่ไม่สามารถช่วยในด้านความเป็นจริง เพราะความเป็นจริงคือปัญหายังคงเดินต่อไป การพังทลายก็ยังคืบคลานเข้ามาไม่หยุดยั้ง !!! แต่บ้านอาจพังทลายได้ด้วย สาเหตุเหล่านี้ … 1. พื้นฐานไม่มั่นคง หรือสึกกร่อน แต่แรกเดิมการวางพื้นฐานเป็นสิ่งสำคัญ แต่เมื่อวันเวลาผ่านไปมันก็อาจสึกกร่อนได้เป็นธรรมดา ดังนั้นการเอาใจใส่พื้นฐาน ไม่เพียงแค่ระยะเริ่มต้น แต่ต้องมั่นตรวจตราสม่ำเสมอ 2. นกกาที่มาอาศัย พวกที่มาอาศัยดูเหมือนไม่นำความเดือนร้อนมา แต่เมื่อใดก็ตามที่มันเริ่มทำรังบนอาคารบ้านเรือน แล้วหละก็ ความเสียหายก็ได้เริ่มต้นเมื่อนั้น ทั้งขี้นก เสียงนก หรือธรรมชาติของมันย่อมทำให้เกิดการแตก แยกตัวออกของสีและอิฐบนตัวอาคาร เมื่อขี้นกตกลงไปในส่วนของร่องอาคาร มันจะทำให้ต้นไม้ขึ้นเพราะเศษไม้ที่นกคาบมาเป็นอาหารและทำรัง เพราะขี้นกเป็นปุ๋ยชั้นเลิศให้กับพืชเหล่านั้น เมื่อรากเริ่มชอนไชไปตามร่องของอาคารการแตกแยกออกจะเริ่มกว้างขึ้นเพราะธรรมชาติของรากไม้ย่อมมีแรงมากกว่าสีหรือปูนที่ฉาบบนตัวอาคาร อีกทั้งหากขี้นกมีจำนวนมากก็ส่งกลิ่นเหม็นแก่ผู้อาศัยที่แท้จริงหรือเจ้าของบ้าน… แท้จริงนกต้องสร้างรังบนต้นไม้ ไม่ใช่อาคารบ้านเรือน 3. ปลวกที่กัดกิน สิ่งที่อาศัยภายในบ้านแต่เป็นภัยมืดเล็กๆที่ไม่รู้ตัว ไม่ปรากฏตัวตนและที่อยู่อาศัยที่ชัดแจ้ง (ทำตัวลึกลับ) กว่าจะรู้ตัวอีกทีก็ใหญ่โตบานปลายไปด้วยความเสียหายที่ปรากฏให้เห็น หากจะเปรียบบ้านดั่งคริสตจักร พื้นฐาน… Read More »