Author Archives: Panarat

About Panarat

♡ พระเกียรติทั้งสิ้นมอบแด่พระจ้าแต่ผู้เดียว นามเดียว ♡ แต่ขอพระพรตกแก่ข้าพเจ้าและครัวเรือนอย่างเต็มขนาด

ทูตสวรรค์ : ครั้งแรกกับการเห็นทูตสวรรค์‏

วันนั้นเป็นวันที่บรรยากาศหลายๆ อย่างดูเศร้าสร้อย ทุกคนต่างเหนื่อยล้าจากการงานและสภาวะต่างๆ ที่เผชิญกันมา เมื่อถึงเวลานมัสการ … การนมัสการเริ่มขึ้นสักครู่หนึ่ง ข้าพเจ้าได้ยินเสียงบางอย่างดังพรึบพรับอยู่ข้างหู จึงลืมตาขึ้นมอง(เป็นปกติที่ข้าพเจ้าจะหลับตานมัสการ) สิ่งที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า คือ…สิ่งมีชีวิตชนิดหนึ่ง 2 ตัว สูงใหญ่มาก ใหญ่จนคับบ้านเลยทีเดียว   ลักษณะเป็นดังนี้ ลำตัวเหมือนคน หน้าเหมือนคน ตามีแสงออกมา จ้องมองด้วยความเคร่งขรึมและดุดัน มีปีก 6 ปีก 2ปีกคลุมเท้า 2ปีกปิดตา (ที่เขาปิดตาแล้วข้าพเจ้ายังเห็นดวงตาเขา เป็นเพราะมีเสี้ยวนาทีหนึ่งที่เขาหันมามองข้าพเจ้า) 2ปีกเก็บคำอธิษฐานของพวกเราที่อยู่ ณ ที่นั่น พวกเขาเก็บคำอธิษฐานของบางคนในพวกเรา และเลือกเก็บแค่บางคำอธิษฐานเท่านั้น ไม่ใช่ทุกคนที่เขาจะเก็บคำอธิษฐาน และไม่ใช่ทุกคำอธิษฐานที่เขาเก็บ  เขาทำเช่นนั้นไปเรื่อยๆ …   ในขณะนั้นทุกคนกำลังนมัสการกันอยู่ตามปกติ ส่วนข้าพเจ้าได้แต่นั่งอึ้ง ไม่กล้าขยับเขยื้อนตัว ไม่กล้ากระดิก ไม่กล้าแม้แต่จะนมัสการหรืออธิษฐานต่อด้วยซ้ำ พยายามที่จะหายใจให้เบาที่สุด บางครั้งก็กลั้นหายใจ ด้วยเกรงว่าเขาจะหันมาเห็นข้าพเจ้านั่งมองอยู่ มันตะลึงและงงงวยกับสิ่งที่เห็น ไม่รู้ว่ามันคืออะไร? แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเห็นมันด้วยตาทั้งสองข้างของข้าพเจ้าเอง  พวกเขาหันมามองข้าพเจ้าเป็นพักๆ ….   หลังจากการนมัสการสิ้นสุดลง…. ข้าพเจ้าก็ได้แต่นิ่งเงียบพูดอะไรไม่ออก เพราะยังคงตกตะลึงกับสิ่งที่ตาเห็นอยู่… Read More »

ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู

มธ.10:24-25 24 ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู และทาสไม่ใหญ่กว่านายของตน 25 ซึ่ง ศิษย์จะได้เป็นเสมอครูของตน และทาสเสมอนายของตนก็พออยู่แล้ว ถ้าเขาได้เรียกเจ้าบ้านว่าเบเอลเซบูล เขาจะเรียกลูกบ้านของเขามากยิ่งกว่านั้นสักเท่าใด ลก.6:40 40 ศิษย์ไม่ใหญ่กว่าครู แต่ศิษย์ทุกคนที่ได้รับการฝึกสอนครบแล้วก็จะเป็นเหมือนครูของตน หากโลกนี้เป็นเหมือนหนังจีนกำลังภายในที่ครูหรืออาจารย์มักเก็บวิชาสุดยอดไว้สำหรับตัวเอง เช่นมี 10 ถ่ายทอดได้ไม่เกิน 9 คงจะมีคนรุ่นถัดไปไม่เกิน 10 รุ่นก็ต้องล้มหายตายจากไปหมดแล้ว แต่โลกเราจนถึงทุกวันนี้กว่า 2,000 ปี (กว่ามากๆ หลายพันปี) พัฒนาการด้านต่างๆ กลับไปไกลมากขึ้น เร็วขึ้น หากศิษย์ใหญ่กว่าครูไม่ได้ ดีกว่าหรือเก่งกว่าครูไม่ได้ โลกยิ่งต้องเดินถอยหลังไปเรื่อยๆ แท้จริงการอวยพรและสร้างของพระเจ้าในชีวิตเรานั้น จำเป็นต้องมีครูเป็นแน่นอน ไม่ว่าจะเป็นพ่อแม่ซึ่งเป็นครูคนแรกของเรา หรือจะเป็นครูที่โรงเรียน ต่อมาครูที่คริสตจักร ทุกคนล้วนเข้ามาเพียงเพื่อพัฒนาและสร้างพื้นฐานแต่ละด้าน แต่ละช่วงเวลาให้กับเรา ส่วนการจะไปต่อได้มากน้อยเพียงใด เป็นเอกลักษณ์จนโบยบินอย่างมีอิสระเสรีภาพและชำนาญเพียงใด ก็ขึ้นอยู่กับ…ตัวเราเองเป็นปัจจัยหลัก แต่ครูเหล่านี้ต่างก็มีบทบาทอย่างมากเลยทีเดียว ทั้งอดทน ปล้ำสู้ และจ่ายราคาในชีวิตของเรา พวกเขาจึงเป็นบุคคลที่สมควรได้รับเกียรติอย่างยิ่ง การให้เกียรติจึงเป็นเงื่อนไขสำคัญที่พระเจ้าให้เรามีต่อครู เราสามารถพัฒนาตนเองไปได้ไกลแสนไกล หากชีวิตเรามีคนนำทาง ปูทางให้กับเรามาอย่างดี โอกาสของคนมีครูย่อมสูงกว่าคนที่ไม่มีครู หรือไม่มีครูที่ดี บางเวลาครูอาจหมายถึงสถานการณ์หรือสภาพแวดล้อมก็เป็นได้… Read More »

หอบาเบล

? พระเจ้าปล่อยให้มนุษย์สร้างหอบาเบลที่สูงเสียดฟ้าจนเสร็จสิ้น แล้วจึงทำลายเพื่ออะไรกัน ? แท้จริงพระเจ้าไม่ทรงรู้หรือว่ามนุษย์มีท่าทีในการสร้างสิ่งนี้เพื่ออะไร ? เวลาของพระเจ้าในแต่ละช่วง เพื่อเปิดเผยแต่ละเรื่องนั้นสำคัญไฉน พระเจ้าทรงรู้ตั้งแต่กระบวนการแรกของการลงมือสร้างหอบาเบลนี้แล้ว ทรงรู้ตั้งแต่เค้าโครงแห่งจิตใจเริ่มแรกด้วยซ้ำ แต่ก็ไม่ได้ทรงทำอันใด แต่กลับปล่อยให้มนุษย์สร้างหอบาเบลนั้นอย่างง่ายดาย ผ่านพ้นไปด้วยดี และรวดเร็ว หอนั้นมีความสูงเสียดฟ้า หวังเทียบเทียมองค์พระผู้เป็นเจ้า ยิ่งสูงขึ้นเท่าไรใจมนุษย์ผู้หยิ่งผยองยิ่งก็มากขึ้นเท่านั้น ความภาคภูมิในความสำเร็จ ในศักยภาพของตนก็ยิ่งทวีมากขึ้นเป็นเงาตามตัว แท้จริงพระเจ้าทรงต้องการให้มนุษย์เห็นศักยภาพและความสามารถที่พระเจ้าทรงใส่ไว้ให้กับมนุษย์เอง พวกเขาใช้ความสามารถที่องค์พระผู้เป็นเจ้าประทานให้อย่างเต็มที่ เป็นการบ่งบอกถึงสิ่งที่พระเจ้าใส่ไว้ในเราแต่ละคน ไม่ได้เล็กน้อยเลย แต่ยิ่งใหญ่เพียงพอจะสร้างอะไรก็ได้ ทำสิ่งใดก็ได้ แต่สิ่งใดๆ ก็ตามที่ทำแล้วผิดแม้เริ่มต้นจะดูเหมือนไปได้ดี แต่เมื่อถึงเวลาที่พระเจ้าทรงจัดการ มันเป็นการง่ายสำหรับพระองค์เหลือเกินที่จะทำลายสิ่งที่มนุษย์อุตส่าห์สร้างขึ้น 1.    ศักยภาพที่พระเจ้าใส่ไว้ในเรามันมีพลังในการทำสิ่งยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอน 2.    หากท่าทีหรือการกระทำใดๆ ที่ไม่ถูกต้อง แม้ดูจะไปได้ดี แต่สุดท้ายมันจะถูกโค่นลงมา โดยพระเจ้า 3.    การที่พระเจ้าทรงเปิดเผยและปล่อยให้แต่ละสิ่งเป็นไป เพื่อสอนให้เรารู้และเข้าใจความจริงเกี่ยวกับพระองค์ในอีกหลายๆ ด้าน พระองค์ทรงยิ่งใหญ่เมื่อทรงตัดสิน ..เพียงแค่เล็กน้อยที่ทรงทำก็สามารถหยุดสิ่งที่เราคิดว่ายิ่งใหญ่เสียเต็มประดาได้อย่างง่ายดาย 200813

เล็กน้อย

แม้ข้าพเจ้าจะเล็กน้อยแต่พระเจ้าก็ไม่เคยหมิ่น แต่กลับให้เกียรติ พระเจ้าผู้แสนดีไม่เคยหมิ่นประมาทหรือประเมินคุณค่าของเราให้ด้อยค่าต่ำลงด้วยการมองว่าเราเล็กน้อย แต่ทรงให้เกียรติแก่ผู้ที่แสวงหาและมีใจปรารถนาหาพระองค์เสมอ เพราะแท้จริงพระองค์ไม่เคยสร้างใครให้ด้อยหรือต่ำกว่าใครเลย แต่ทรงใส่คุณค่า ศักยภาพ ความสามารถให้แตกต่างกันในแต่ละด้าน เพื่อบรรจบลงที่การเสริมสร้าง แต่มนุษย์มักคิดผิดตามแบบฉบับของโลกที่เสื่อมลงด้วยบาปแห่งการแก่งแย่งชิงดีและแข่งขัน ยอมรับไม่ได้ที่ตนเองจะมีน้อยกว่าผู้อื่นในบางด้าน ไขว่คว้าที่จะอยู่เหนือกว่าผู้อื่นในทุกๆ ด้าน จนลืมไปว่าแท้จริงแล้วในบางด้านเราเองก็เด่นกว่า เหนือกว่า เพราะพระเจ้าปรารถนาให้ความสัมพันธ์เกิดขึ้นระหว่างมนุษย์ต่อมนุษย์ด้วยกันโดยการพึ่งพากันและกัน และมนุษย์ต่อพระเจ้าโดยการพึ่งพาพระองค์ สิ่งที่จุดประกายทำให้คนเรามองว่าตนเองเล็กน้อย คือ การไม่พึงพอใจในสิ่งที่ตนมี หรือเท่ากับไม่พอใจในสิ่งที่พระเจ้าให้ หรือเท่ากับต่อว่าพระเจ้าว่าบกพร่องนั่นเอง อยากจะมี อยากจะได้ อยากจะเป็นแบบที่คนอื่นเป็น มี ได้… แท้จริงพระเจ้าทรงสมบูรณ์รอบด้าน ทั้งเงื่อนเวลา ปริมาณ คุณภาพ ทั้งปลีกย่อยและภาพรวม ทั้งมิติกาย ใจ วิญญาณ มนุษย์หรือจะเทียบเท่า… ไม่ติดแม้แต่ผงฝุ่น ดังนั้นการภาคภูมิใจในสิ่งที่พระเจ้าให้เป็นความมั่นคงในพระเจ้าผู้ทรงสร้าง และประหารเนื้อหนังที่ตั้งตนเป็นใหญ่ต่อสู้พระเจ้า … มีหรือ? ที่พระเจ้าจะทอดทิ้งคนที่รักพระองค์ เพราะด้วยพระสัญญาแล้วจะไม่ทรงทอดทิ้งผู้ที่รักพระองค์เป็นแน่ อีกทั้งพระลักษณะที่เป็นความรักที่แสนมั่นคงจึงไม่ทรงปล่อยให้เราต้องขาดสิ่งดีอันใด คำว่า “เล็กน้อย” หมายถึง เมื่อเทียบกับความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า ไม่ได้หมายถึง เมื่อเทียบกับมนุษย์ด้วยกัน เพราะเราไม่ได้เล็กน้อยกว่าใครเลย 14/01/2014 11:38

ทางผ่านหรือภาชนะ

พระเจ้าไม่ทรงจำกัด และด้วยพระลักษณะนี้เอง การทำงานของพระองค์ก็ไม่จำกัดด้วยเช่นกัน 1.    ทางผ่าน ◊ คือ เป็นสิ่งที่พระเจ้าใช้เพื่อผ่านไปยังเป้าหมาย ซึ่งทางผ่านเป็นเพียงวิธีการหรือกระบวนการหนึ่งเท่านั้น อาจเป็นคน สภาพแวดล้อม หรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่พระองค์ทรงทำและทรงสามารถอย่างแน่นอน ◊ นั่นหมายความว่าทางผ่านไม่ใช่เป้าหมาย อย่าให้ตาหรือใจจดจ่อและด่วนสรุปผิดที่ผิดทาง หมายว่าทางผ่านคือเป้าหมาย เพราะมันอาจเบี่ยงเบนความสนใจและทำให้หยุดชะงักได้ ◊ ทางผ่านเป็นได้ทั้ง พระพรและอุปสรรค แต่ปลายทางคือพระพรอย่างแน่นอน พระเจ้าทรงสร้างเราได้ทั้งจากความสะดวกสบายและใช้อุปสรรคเพื่อสร้างความแข็งแกร่งและหนักแน่นให้เราได้ด้วย ◊ ทั้งนี้เราต้องทำความเข้าใจเสียก่อนว่า ทางผ่านเป็นเพียงอุปกรณ์หนึ่งที่พระเจ้าทรงทำขึ้นเพื่อให้เราก้าวต่อไป แต่บางคนอาจล้มลงและหยุดอยู่ที่ทางผ่านด้วยความยากเย็นแสนลำเค็ญ เพราะขาดการพึ่งพาพระคุณพระเจ้า จึงทำให้ไม่สามารถก้าวต่อไปได้ แท้ที่จริงทางผ่านจะไม่มีผลใดๆ ต่อชีวิตเราเลย มันไม่สามารถทำลายหรือทำร้ายเราได้ เพียงแค่เราต้องเดินผ่านมันออกไปจนถึงปลายทางให้ได้เท่านั้น ในทางตรงกันข้ามบางเวลาพระเจ้าก็ใช้ทางผ่านนี้เองในการให้เราก้าวไปสู่สิ่งซึ่งสมบูรณ์ แต่บางคนกลับพึงพอใจกับทางผ่านเสียมากกว่าและหยุดเดิน รับเพียงพระพรหยุมหยิมที่ทางผ่าน นั่นเพราะสายตาที่สั้น ขาดวิสัยทัศน์ที่มั่นคงต่อจุดหมายปลายทาง ◊ ไม่ว่าจะด้วยเหตุอันใดก็ตาม….ทางผ่านมีไว้เพียงแค่ให้เราผ่านมันไปให้ได้ จนถึงจุดหมายปลายทาง นั่นจึงเรียกว่า “สำเร็จ” และไม่ควรใช้เวลากับทางผ่านเนิ่นนานเกินไป เกินกว่าที่พระเจ้าให้เรา เพราะมันอาจทำให้เราทั้งบั่นทอนและพึงพอใจจนลืมตัว ละทิ้งจุดหมายได้อย่างง่ายดาย 1.1 ทางผ่านแง่บวก พระเจ้าอาจส่งใครบางคน หรือสถานการณ์บางอย่างเข้ามาเพื่อสนับสนุนเราให้ก้าวไปได้อย่างถูกต้องและรวดเร็วยิ่งขึ้น เช่น ผู้นำ ระบบการสร้างของ คจ.… Read More »

อย่าเสียดายเมื่อถึงเวลาก้าว

อพย.13:4 ท่านทั้งหลายยกออกไปในวันนี้ในเดือนอาบีบ พระเจ้านำอิสราเอลออกจากอียิปย์ในเดือนอาบีบ คือเดือนมี.ค.-เม.ย.ซึ่งเป็นฤดูใบไม้ผลิ ปลายฝน เริ่มเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เลย์และป่าน 1. หากมัวเสียดายพืชผลที่หว่านยังไม่ทันเกี่ยว อยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวพอดี จะทำให้พลาดสิ่งที่ต้องได้รับ แม้จะต่อสู้ อดทน หรือคร่ำครวญมานาน ดังนั้นเมื่อพระเจ้าเรียกมันคือเวลาที่ดีที่สุดที่ต้องก้าวโดยไม่ต้องห่วงผลประโยชน์ สิ่งที่มี สิ่งที่ทำไว้ แต่ก้าวออกไป 2.พระเจ้าจะทรงรับรองเราอย่างแน่นอนเมื่อเรากล้าก้าวตามพระองค์ด้วยใจเชื่อฟัง การที่อียิปต์โปรดปรานชาวอิสราเอลให้ข้าวของเครื่องใช้แก่เขา เล็งให้เห็นว่าพระเจ้าสามารถประทานให้เราได้ แม้สิ่งที่ไม่ได้ลงแรงเอง หากพระองค์จะให้ก็จะทำ  เราจะไม่ขาดสิ่งดีอันใด 150313

ถูกหรือผิดใครกำหนด??

ปฐมกาล 19:26-38 19:26 แต่ภรรยาของเขาผู้ตามข้างหลังเขาเหลียวกลับไปมองดูและนางจึงกลายเป็นเสาเกลือ 19:27 อับราฮัมลุกขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ไปยังสถานที่ที่ท่านเคยยืนต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ 19:28 ท่านมองไปทางเมืองโสโดม เมืองโกโมราห์และดินแดนที่ราบลุ่มทั้งหลาย และดูเถิด ก็เห็นควันจากแผ่นดินนั้นพลุ่งขึ้นเหมือนควันจากเตาไฟใหญ่ 19:29 ต่อมาเมื่อพระเจ้าทรงทำลายเมืองทั้งหลายในที่ราบลุ่มแล้วนั้น พระเจ้าทรงระลึกถึงอับราฮัม และส่งโลทออกไปจากท่ามกลางการทำลายล้าง เมื่อพระองค์ทรงทำลายล้างเมืองทั้งหลายซึ่งโลทอาศัยอยู่ 19:30 โลทขึ้นไปจากเมืองโศอาร์ไปอาศัยอยู่บนภูเขาพร้อมกับบุตรสาวสองคนของเขา เพราะเขากลัวที่อาศัยในเมืองโศอาร์ เขาจึงไปอาศัยอยู่ในถ้ำทั้งเขากับบุตรสาวสองคนของเขา 19:31 บุตรสาวหัวปีพูดกับน้องสาวว่า “บิดาของเราแก่แล้วและไม่มีชายใดในแผ่นดินโลกเข้ามาหาพวกเราตามธรรมเนียมของทั่วโลก 19:32 มาเถิด พวกเราจงให้บิดาของพวกเราดื่มเหล้าองุ่น และพวกเราจะนอนกับท่าน เพื่อพวกเราจะสงวนเชื้อสายของบิดาพวกเรา” 19:33 ในคืนวันนั้นพวกเธอจึงให้บิดาของพวกเธอดื่มเหล้าองุ่น บุตรสาวหัวปีเข้าไปนอนกับบิดาของเธอ และเขาไม่สังเกตว่าเธอมานอนด้วยเมื่อไรและเธอลุกขึ้นไปเมื่อไร 19:34 ต่อมาวันรุ่งขึ้นบุตรสาวหัวปีพูดกับน้องสาวว่า “ดูเถิด เมื่อคืนนี้เราได้นอนกับบิดาของเรา พวกเราจงให้ท่านดื่มเหล้าองุ่นในคืนนี้อีก และเจ้าจงเข้าไปนอนกับท่านเพื่อพวกเราจะสงวนเชื้อสายของบิดาพวกเรา” 19:35 พวกเธอจึงให้บิดาของพวกเธอดื่มเหล้าองุ่นในคืนวันนั้นด้วย น้องสาวก็ลุกขึ้นไปนอนกับเขา และเขาไม่สังเกตว่าเธอมานอนด้วยเมื่อไรและเธอลุกขึ้นไปเมื่อไร 19:36 ดังนั้น บุตรสาวทั้งสองของโลทก็ตั้งครรภ์กับบิดาของพวกเธอ 19:37 บุตรสาวหัวปีคลอดบุตรชายคนหนึ่งและเรียกชื่อของเขาว่า โมอับ เขาเป็นบรรพบุรุษของคนโมอับมาจนถึงทุกวันนี้ 19:38 ส่วนน้องสาว เธอคลอดบุตรชายคนหนึ่งด้วยและเรียกชื่อของเขาว่า เบน-อัมมี เขาเป็นบรรพบุรุษของคนอัมโมนมาจนถึงทุกวันนี้ หญิงที่มีความสัมพันธ์กับพ่อตัวเอง… Read More »

ตะกละตะกลาม

คนที่ตะกละมักไม่เคยลิ้มรสดีของอาหารที่อยู่ตรงหน้า เขายัดๆ มันเข้าไปอย่างรวดเร็วโดยไม่รู้ด้วยซ้ำว่าอาหารนั้นรสดีหรือไม่ , ใหม่สดหรือไม่ อย่างไร ผลที่ได้คือ นอกจากอิ่มจนอ้วก จนไม่เหลือส่วนดีอันใดอยู่ในร่างกายเลย  เขาไม่สามารถแยกแยะระหว่างอาหารรสเลิศกับเศษอาหารจากขยะได้ เพราะเขาได้แต่ยัดๆ    ๆๆ มันเข้าปากอย่างรวดเร็วจนไม่ลืมหูลืมตา คนโลภก็เป็นเช่นนั้นแหละ พวกเขาไม่มีความสามารถในการแยกแยะสิ่งดี ออกจากสิ่งชั่ว และไม่สนใจว่าจะด้วยวิธีการใด , ที่มาเป็นอย่างไร , กับใคร แต่ที่แน่ๆ ขอให้กอบโกยได้เป็นพอ แม้เขาอ้วกแตกหรือสำรอกออกมา ก็ไม่ทำให้สำนึกขึ้นมาได้สักน้อยนิด เพราะความโลภนั้นไม่สามารถหยุดยั้งปาก (ที่อ้าขึ้น) ให้สัมพันธ์กับกระเพาะ(ที่อิ่ม) ได้ พระเจ้าให้เรามีใจหิวกระหายหาพระองค์ เพื่อเราจะสามารถกินจนอิ่ม ได้รับจนพอ แบบซึมซับและรับรู้สิ่งดีอย่างเต็มที่ ดังนั้นพระองค์จึงมีเวลาแต่ละสิ่งสำหรับเราเสมอๆ ไม่เร่งรีบจนเกินไป มองดูสิ่งรอบตัวอย่างค่อยเป็นค่อยไป  ค่อยๆ รับรู้ทางของพระองค์  ดื่มด่ำจนกว่าจะเต็มอิ่ม ก้าวทีละก้าว อย่างสัตย์ซื่อและเที่ยงตรงต่อพระองค์ ตนเอง และผู้อื่น เหตุนี้เองผู้ที่หิวและกระหายจึงได้ลิ้มรสแห่งความชื่นบาน เห็นถึงความสวยงามของสิ่งต่างๆ ผ่านพระหัตถ์พระเจ้า เรียนรู้ที่จะซึมซับเพื่อเติบโตและเข้าใจ มองเห็นพระพรที่จะเกิดขึ้นตามมา อาหารรสเลิศจะต้องใช้เวลาในการปรุง เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ทั้งรสชาติ คุณค่าทางโภชนาการ ความสะอาด และความสวยงาม ในขณะที่เมื่อเราได้ลิ้มรสก็จะค้นพบความแตกต่าง… ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องรีบเร่งเพื่อทำให้ตนเองอิ่ม… Read More »

สิ่งที่พระเจ้ารับจากเรา

ภาพ : การมอบของขวัญให้ แต่ผู้รับไม่สามารถใช้งานได้จริง ก็เก็บไว้ในห้องเก็บของ หากให้ซ้ำๆ เมื่อเวลาผ่านไปเปิดประตูห้องเก็บของก็จะรู้ว่าของที่ผู้รับๆ มาแล้วใช้การไม่ได้จริงอยู่เต็มห้องเก็บของไปหมด แต่ผู้ให้ไม่เคยรับรู้เลยหรือไม่เคยสนใจหรือสังเกตุเห็นเลยว่าผู้รับไม่สามารถใช้งานได้จริง การมอบถวายแด่พระเจ้าก็เช่นกัน แน่นอนว่าด้วยความเป็นมนุษย์คงไม่มีสิ่งใดสมบูรณ์โดยเฉพาะมนุษย์คนบาปมอบให้ กับพระเจ้าผู้บริสุทธิ์ แต่นั่นไม่เป็นเหตุใช้อ้างได้ อันเนื่องมาจากพระเจ้าทรงพยายามช่วยเราเสมอ หากการมอบถวายเป็นการมอบในส่วนที่พระเจ้าสามารถรับได้สิ่งนั้นย่อมไม่สูญเปล่า หญิงที่ถวาย 2 ตะลันต์สุดท้ายในมือยังมีมูลค่าน้อยกว่าเครื่องบูชาของของคาอินเป็นยิ่งนัก  แต่เหตุไฉนพระองค์จึงทรงชอบพระทัย พอพระทัย และชื่นชมหญิงนั้น 1. มาจากจิตใจ จิตวิญญาณ ที่เทออกให้พระเจ้าทั้งหมดไม่เก็บบางส่วนไว้สำหรับตนเอง 2. เป็นสิ่งที่พระเจ้าเรียกจากเรา แม้เราให้สิ่งต่างๆมากมาย ตามความคิดเห็นของเราว่ามันดีเสียเหลือเกิน แต่หากพระเจ้าไม่ยอมรับก็เท่านั้น *** สิ่งที่มีมูลค่าจะมากน้อยไม่สำคัญเท่ากับสิ่งที่มีคุณค่าในสายพระเนตรพระเจ้า เพราะพระ เจ้าทรงบริสุทธิ์สิ่งใดก็ตามที่มลทิน แม้เพียงน้อยนิด ก็ไม่สามารถนำกลับมาถวายให้กลับพระเจ้าได้อีกเลย ในส่วนของมนุษย์อาจมองว่าไม่เป็นไร มองไม่เห็นถึงความสำคัญ การมอบถวายสิ่งที่มลทิน นอกเสียจากพระเจ้าไม่ยอมรับแล้ว อาจนำการแช่งสาปมาถึงได้ แทนที่การเก็บเกี่ยวพระพรจากการมอบถวายนั้น การมอบถวายเป็นปกติธรรมชาติของผู้ที่ใกล้ชิดพระองค์ ที่มีความปรารถนาภายในที่อยากมอบให้กับพระองค์ เพราะความรักและการสำนึกถึงพระคุณของพระเจ้า และจะมีบางช่วงเวลาที่พระเจ้าเรียกร้องให้เราถวายเครื่องบูชาแด่พระองค์เอง ซึ่งความเสียดายและไม่เห็นคุณค่าในการมอบถวายย่อมสะท้อนออกผ่านสิ่งที่มอบถวายแด่พระเจ้า 260713

การตั้งชื่อ การถือฤกษ์ยาม

ในเอเดนที่สมบูรณ์พระเจ้าทรงให้สิทธิอำนาจกับอาดัมในการตั้งชื่อสัตว์และสิ่งมีชีวิตบนแผ่นดินโลก เพื่อการครอบครอง นั่นแสดงว่าพระเจ้าให้ความสำคัญกับการตั้งชื่อ เพราะมันหมายถึงการครอบครอง ซึ่งแน่นอนว่า คริสเตียนไม่เชื่อเรื่องดวง ไม่เชื่อเรื่องการถือฤกษ์ยาม แต่การตั้งชื่อเป็นคนละประเด็น เพราะเป็นเหมือนการกำหนดทัศนคติต่อสิ่งนั้นๆ ตัวอย่างเช่น พระเจ้าทรงเปลี่ยนชื่อให้อับรามเป็นอับราฮัม (บิดาของชนชาติ) พระเยซูเปลี่ยนชื่อจากซีโมนเป็นเปโตร (ศิลา) ดังนั้นการตั้งชื่อจึงเป็นเสมือนการบ่งบอกว่าจะเป็นอย่างไร หรือแสดงความเป็นเอกลักษณ์ของชื่อนั้นๆ ด้วย แต่มีบางคนที่แช่งสาปตนเองและคนรอบข้างด้วยชื่อตั้งและติดตัว เช่น แม่ของยาเบส (ตัวซวย) นาโอมี(ชื่นชม) เป็นมารา (ขมขื่น) นรธ.1:20 นาโอมีตอบเขาว่า “ขออย่าเรียกฉันว่านาโอมีเลย ขอเรียกฉันว่ามาราเถอะ เพราะว่าองค์ผู้ทรงมหิทธิฤทธิ์ได้ทรงกระทำแก่ฉันอย่างขมขื่น ดังนั้นหากเราปรารถนาจะมีสิทธิครอบครองแบบที่พระเจ้าให้อาดัมตั้งแต่แรกเริ่ม เราก็ควรอย่างยิ่งที่จะตั้งชื่อให้งดงามสมกับที่พระเจ้าให้สิทธินั้นแก่เรา   210613