Author Archives: Panarat

About Panarat

♡ พระเกียรติทั้งสิ้นมอบแด่พระจ้าแต่ผู้เดียว นามเดียว ♡ แต่ขอพระพรตกแก่ข้าพเจ้าและครัวเรือนอย่างเต็มขนาด

เหตุผลที่ต้องวิงวอนต่อรองเพื่อผู้อื่น

เหตุใดที่ผู้วิงวอนบางคนทุ่มเทชีวิตเพื่อต่อรองกับพระเจ้าทั้งที่หลายต่อหลายครั้งไม่ใช่เรื่องของตนเอง เช่น อับราฮัมที่ร้องทูลต่อรองพระเจ้าเพื่อโสโดมโกโมรา , โมเสสที่ต่อรองกับพระเจ้าเพื่อชนอิสราเอล บางครั้งคนเหล่านี้เอาตัวเข้าแลกเพื่อให้พระเจ้าระลึกถึงและหันหลังกลับจากพระพิโรธด้วยพระเมตตาของพระองค์ แม้หลายครั้งพวกเขาเองก็รู้สึกไม่ชอบหรือไม่เห็นด้วยกับสิ่งที่ได้รับรู้ถึงบาปนั้นด้วยเช่นกัน ดั่งเห็นได้จากอับราฮัมก็เลือกที่จะไม่เอาตัวเข้าใกล้โสโดมด้วย นั่นเพราะเขารู้ถึงบาปนั้นและไม่อยากแม้แต่จะเฉียดเข้าใกล้ด้วยซ้ำ หรือโมเสสเองก็เช่นกัน เขารังเกียจบาปที่ชนอิสราเอลทำจนกระทั่งโกรธบดเอาศิลา 2 แผ่นในมือให้พวกเขากิน และให้เลือกพระเจ้า พวกเขาต่างมีอารมณ์ความรู้สึกของตนเองทั้งสิ้น…แต่เหตุใดพวกเขากลับร้องทูลวิงวอนต่อรองกับพระเจ้าเพื่อบาปที่แม้แต่ตัวเอง ก็ยังรังเกียจ หัวใจเช่นนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร? ปฐก.18:17-33 17 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เราจะซ่อนสิ่งซึ่งเรากระทำจากอับราฮัมหรือ 18 ด้วยว่าอับราฮัมจะเป็นประชาชาติใหญ่โตและมีกำลังมากอย่างแน่นอน และบรรดาประชาชาติทั้งหลายในแผ่นดินโลกจะได้รับพระพรเพราะเขา 19 เพราะว่าเรารู้จักเขา เขาจะสั่งลูกหลานและครอบครัวของเขาที่สืบมา พวกเขาจะรักษาพระมรรคาของพระเยโฮวาห์ เพื่อทำความเที่ยงธรรมและความยุติธรรม เพื่อพระเยโฮวาห์จะประทานแก่อับราฮัมตามสิ่งซึ่งพระองค์ได้ตรัสไว้เกี่ยวกับ เขา” 20 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า “เพราะเสียงร้องของเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์ดังมากและเพราะบาปของพวกเขาก็หนักเหลือเกิน 21 เราจะลงไปเดี๋ยวนี้ดูว่าพวกเขากระทำตามเสียงร้องทั้งสิ้นซึ่งมาถึงเราหรือไม่ ถ้าไม่ เราจะรู้” 22 บุรุษเหล่านั้นหันหน้าจากที่นั่นไปทางเมืองโสโดม แต่อับราฮัมยังยืนอยู่ต่อพระพักตร์พระเยโฮวาห์ 23 อับราฮัมเข้ามาใกล้ทูลว่า “พระองค์จะทรงทำลายคนชอบธรรมพร้อมกับคนชั่วด้วยหรือ 24 บางทีมีคนชอบธรรมห้าสิบคนในเมืองนั้น พระองค์จะทรงทำลายและไม่ละเว้นเมืองนั้นเพราะคนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ในนั้นด้วยหรือ 25 ขอพระองค์อย่ากระทำเช่นนี้เลย ที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนชั่ว และให้คนชอบธรรมเหมือนอย่างคนชั่ว ให้การนั้นอยู่ห่างไกลจากพระองค์ ผู้พิพากษาของทั่วแผ่นดินโลกจะไม่กระทำการยุติธรรมหรือ” 26 พระเยโฮวาห์ตรัสว่า… Read More »

คนในยุคนี้… ช่างมีความเชื่อน้อยเสียเหลือเกิน

? เหตุใดพระเยซูจึงมักตำหนิว่า “คนในยุคนี้ ช่างมีความเชื่อน้อยเสียเหลือเกิน” คำตรัสนี้สะท้อนบางสิ่งบางอย่างให้เราได้เห็น ได้เรียนรู้ พวกเขาไม่กล้ามอบถวายให้พระเจ้า เพราะว่าลึกๆ เขาไม่เชื่อในความสามารถของพระเจ้า…ว่า… •    พระองค์ยิ่งใหญ่เพียงพอที่จะช่วยเขาได้ •    พระเจ้าจะมาทันเวลา   •    พระองค์จะกอบกู้ คนจำนวนมาก จึงเลือกที่จะตัดสินใจสิ่งต่างๆ ตามความรู้สึก ความคิด และตามแผนการณ์ของตนเอง ด้วยแรงกำลังความสามารถและประสบการณ์ของเขา โดยใช้กระบวนการประมวลผล ชั่งตวงน้ำหนัก ของผลประโยชน์ที่จะได้กลับมา … แทนที่ความเชื่อ … เพราะความเชื่อวางใจเป็นเรื่องที่มองไม่เห็น วัดไม่ได้ เว้นเสียแต่ต้องเสี่ยงลงทุน ด้วยหัวใจจ่ายออกไปก่อน  ดังนั้นผู้ที่จะเชื่อฟังได้  จึงต้องสงบนิ่งเสียก่อน ฮบ.11:1  บัดนี้ความเชื่อคือความแน่ใจในสิ่งที่เราหวังไว้ เป็นหลักฐานมั่นใจว่า สิ่งที่ยังไม่ได้เห็นนั้นมีจริง เป็นไปได้หรือ? ที่พระเจ้าจะเสี่ยงกับเรา เพียงแค่เรื่องเล็กน้อย เพื่อลบพระลักษณะแท้แต่ดั้งเดิมที่ทรงเป็นอยู่นิรันดรนั้น ด้วยการผิดจากที่พระองค์ตรัส หรือสัญญา … แท้จริงคนที่เชื่อไม่ได้ คือ คนที่ไม่รู้จักกับพระลักษณะแท้ของพระเจ้าในแต่ละด้านต่างหาก … ทรงมีพระนามว่า “เราเป็น” ♣ ♣ ♣ ปัญหาของเรา… Read More »

ความเชื่อที่ต้องเติบโตขึ้น

เปโตรต้องโตขึ้นในความเชื่อ ลก.5:4-6 5:4 เมื่อพระองค์ตรัสสอนเสร็จแล้ว จึงตรัสแก่ซีโมนว่า “จงถอยออกไปที่น้ำลึกหย่อนอวนต่าง ๆ ลงจับปลา” 5:5 ซีโมนทูลตอบพระองค์ว่า “พระอาจารย์เจ้าข้า ข้าพระองค์ทั้งหลายทอดอวนคืนยังรุ่ง ไม่ได้อะไรเลย แต่ข้าพระองค์จะหย่อนอวนลงตามพระดำรัสของพระองค์” 5:6 เมื่อเขาหย่อนลงแล้ว ก็ล้อมปลาไว้เป็นอันมาก จนอวนของเขาขาด เมื่อเปโตรยังไม่เคยรู้จักพระเยซู ความเชื่อยังไม่มี แต่ก็ก้าวออกไปก่อนด้วยความเชื่อฟัง นั่นก็เพียงพอที่จะเห็นอัศจรรย์ของพระเยซูแล้ว   ความเชื่อที่ต้องเติบโตขึ้น มธ.14:25-32 14:25 ครั้นเวลาสามยามเศษ พระเยซูจึงทรงดำเนินบนน้ำทะเลไปยังเหล่าสาวก 14:26 เมื่อเหล่าสาวกเห็นพระองค์ทรงดำเนินมาบนทะเล เขาก็ตกใจนัก พูดกันว่า “เป็นผี” เขาจึงร้องอึงไปเพราะความกลัว 14:27 ในทันใดนั้นพระเยซูตรัสกับเขาว่า “จงชื่นใจเถิด คือเราเอง อย่ากลัวเลย” 14:28 ฝ่ายเปโตรจึงทูลตอบพระองค์ว่า “พระองค์เจ้าข้า ถ้าเป็นพระองค์แน่แล้ว ขอทรงโปรดให้ข้าพระองค์เดินบนน้ำไปหาพระองค์” 14:29 พระองค์ตรัสว่า “มาเถิด” เมื่อเปโตรลงจากเรือแล้ว เขาก็เดินบนน้ำไปหาพระเยซู 14:30 แต่เมื่อเขาเห็นลมพัดแรงก็กลัว และเมื่อกำลังจะจมก็ร้องว่า “พระองค์เจ้าข้า ช่วยข้าพระองค์ด้วย” 14:31… Read More »

เชื่อใจ

ในวันเวลาแห่งความยากลำบาก บางครั้งคนที่เราเลือกจะระบายให้เขาฟังอาจไม่ใช่คนที่เรามักนึกถึงในยามปกติ แต่กลับเป็นคนที่เรามั่นใจว่าเขาจะเชื่อใจเรา เพราะในวันเวลาเหล่านั้นดูเหมือน…. ♥    ความมั่นคงในชีวิตก็แสนจะเบาบาง ♥    คำตอบที่ชัดเจนก็แสนจะเลือนลาง ดังนั้นคนที่พร้อมจะให้โอกาสและไม่กดดันเราในสภาพที่เราเองก็ประคองตัวให้ยืนได้ลำบาก คนๆนั้นคือ “คนที่พร้อมจะเชื่อใจเรา”   เชื่อใจ ความเชื่อใจเป็นอีกความสัมพันธ์หนึ่งที่บ่งบอกว่า ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ไม่ว่าใครจะพูดถึงอย่างไร เห็นอย่างไรก็ยังคงเชื่อมั่นในบุคคลที่เราเชื่อใจ เป็นความมั่นใจลึกๆ และไม่สั่นไหวไปตามสถานการณ์ หรือลมปากของใคร แต่มั่นใจและพร้อมจะอยู่เคียงข้างคนๆนั้น แม้จะช่วยอะไรไม่ได้ก็ตาม ☺    ไม่ว่าใครก็ตามย่อมปรารถนาจะมีคนที่เชื่อใจในตัวเราแบบนี้ ในขณะที่องค์พระผู้เป็นเจ้าก็ปรารถนาจะให้เราเป็นคนๆ นั้นที่เชื่อใจพระองค์ และพระองค์เป็นคนๆ นั้นที่เชื่อใจเรา   เชื่อใจ ความเชื่อใจเป็นส่วนที่ลึกกว่าความวางใจ เราวางใจพระเจ้าเมื่อเรามีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับพระเจ้า ยิ่งใกล้ชิดมาก ยิ่งนิ่งสงบมาก และวางใจเพราะคาดหวังการช่วยกู้ของพระเจ้ามาถึงเรา (ส่วนใหญ่เป็นการเชื่อในสิ่งที่พระเจ้าจะทำเพื่อเรา) แต่ความเชื่อใจเป็นความมั่นใจในพระลักษณะของพระเจ้า เป็นความมั่นใจในตัวพระองค์เอง ไม่ใช่เพียงสิ่งที่ทรงทำ *** ดังนั้นไม่ว่าจะทรงทำสิ่งใดเราก็ยังคงมั่นใจว่าสิ่งนั้นย่อมดีเป็นแน่!!! แม้บางทีมองด้วยสายตาแล้ว อาจไม่ดี ไม่สะดวกสบาย หรือคนอื่นอาจมองว่าไม่ดี แต่เพราะความเชื่อใจ จึงมั่นใจว่ามันจะดี ที่มั่นใจเช่นนั้น… ไม่ใช่ เพราะสิ่งที่ตาเห็น แต่เพราะเรารู้และมั่นใจว่าพระองค์ทรงดีต่างหาก… 29/10/2013 12:43

อย่าให้สิ่งใดหยุดเราไว้

ตัวอย่างของคนในพระคัมภีร์ ที่รับใช้พระเจ้าอย่างมาก ต่างก็มีจุดด่างพร้อย แต่เขาก็ไม่อาจให้สิ่งเหล่านั้นเป็นเหตุ ทำให้ไม่ก้าวไปกับพระเจ้า โมเสส >> มีหญิงต่างชาติเป็นภรรยา , เคยฆ่าคน ดาวิด >> ล่วงประเวณี , ไม่ลงโทษลูกที่ทำผิดในการข่มขืนคนอื่น อับราฮัม >> มีเมียน้อย , โกหก ยาโคบ >> ขี้โกง เซาโล >> ข่มเหงคริสเตียน  อย่าให้สิ่งใดหยุดเราไว้ ♥ ทุกคนล้วนแต่มีสิ่งที่ต้องก้าวข้ามทั้งสิ้น แม้เรากลับใจใหม่แล้ว เริ่มต้นชีวิตใหม่ หลายครั้งมารก็ไม่ปล่อยเรา … ด้วยการหยิบอดีตที่ผิดพลาดมาคอยฟ้อง เพื่อขัดขวาง บั่นทอนการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าของเรา … แต่ถึงกระนั้นก็ไม่ยากเท่ากับการที่มนุษย์ คนที่รู้จักและคุ้นเคยคอยยกสิ่งเหล่านี้มาบั่นทอน *** เพราะในความเป็นจริง … ก็คือ… เราเคยผิดพลาดจริงๆ แต่ความจริงอีกอย่างที่ทำให้เรามีชัยเหนือความจริงที่ผิดพลาดของเราคือ… *** เรากลับใจใหม่แล้ว โลหิตพระคริสต์ชำระเราแล้ว ใครหรือ? จะปรับโทษเราได้ ♥♥♥ เหตุนี้เองบรรดาผู้รับใช้พระเจ้าในพระคัมภีร์ จึงสามารถก้าวต่อไปได้ แม้คำครหายังไม่หมดสิ้นไป ***… Read More »

แผ่นดินสวรรค์เป็นของคนแบบไหนกันแน่

? 10 คนที่ได้รับการรักษาโรค มีเพียง 1 คนกลับมา พระเยซูมีนัยยะอะไร? ในการถามนั้น ลก.17:11-19 17:11 ต่อมาเมื่อพระองค์กำลังเสด็จไปยังกรุงเยรูซาเล็ม พระองค์จึงเสด็จเลียบระหว่างแคว้นสะมาเรียและกาลิลี 17:12 เมื่อพระองค์เสด็จเข้าไปในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง มีคนเป็นโรคเรื้อนสิบคนมาพบพระองค์ยืนอยู่แต่ไกล 17:13 และส่งเสียงร้องว่า “เยซูนายเจ้าข้า โปรดได้เมตตาข้าพเจ้าทั้งหลายเถิด” 17:14 เมื่อพระองค์ทอดพระเนตรเห็นแล้วจึงตรัสแก่เขาว่า “จงไปแสดงตัวแก่พวกปุโรหิตเถิด” ต่อมาเมื่อกำลังเดินไป เขาทั้งหลายก็หายสะอาด 17:15 ฝ่ายคนหนึ่งในพวกนั้น เมื่อเห็นว่าตัวหายโรคแล้ว จึงกลับมาสรรเสริญพระเจ้าด้วยเสียงดัง 17:16 และกราบลงที่พระบาทของพระองค์ ขอบพระคุณพระองค์ คนนั้นเป็นชาวสะมาเรีย 17:17 ฝ่ายพระเยซูตรัสว่า “มีสิบคนหายสะอาดมิใช่หรือ แต่เก้าคนนั้นอยู่ที่ไหน 17:18 ไม่เห็นผู้ใดกลับมาสรรเสริญพระเจ้า เว้นไว้แต่คนต่างชาติคนนี้” 17:19 แล้วพระองค์ตรัสกับคนนั้นว่า “จงลุกขึ้นไปเถิด ความเชื่อของเจ้าได้กระทำให้ตัวเจ้าหายปกติ” หากคนที่รับเชื่อแล้วยังคงมีชีวิตต่อไปโดยปราศจากพระเยซู โดยปราศจากการติดตามพระเยซูอย่างตามติดแล้ว เขาจะคู่ควรต่อแผ่นดินพระเจ้าได้อย่างไร? เมื่อเกิดสิ่งใดๆ ขึ้น อะไรหรือ? ที่จะช่วยเขา ในเมื่อพระเยซูไม่ได้อยู่ตรงนั้น…  เขาต้องวิ่งย้อนกลับมา ไกลเพียงใด? = เท่าที่เขาเดินไกลออกไป… Read More »

ทหารหาญของพระเจ้า

??? ภาระกิจเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ได้ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เพราะเหตุใด?   ทหารหาญของพระเจ้า ทหารทั้ง 3 ประเภทในสนามรบ 1. ทหารอาสา =  คนที่มีใจอาสา อยากทำ อยากออกรบ พวกเขาขับเคลื่อนด้วยใจ อาจขาดซึ่งประสิทธิภาพและความชำนาญ แต่สามารถฝึกฝนได้ เพราะมีพื้นฐานที่ใจ คนกลุ่มนี้ใจสู้มากกว่าพวกทหารเกณฑ์แน่นอน 2. ทหารเกณฑ์ =  คนที่ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วม อาจด้วยกระแส ความจำเป็น  หรือเหตุผลบางประการ  แต่ไม่ได้มีใจอยากร่วม หรือยื่นออกก่อนแต่แรก  อาจขาดความชำนาญ ความเข้าใจ และอาจขาดใจในการร่วมด้วย  สำหรับบางกรณี  ใจฝ่อง่าย ล้มเลิกง่าย ฝึกฝนได้ทางด้านทักษะเท่านั้น  แต่หากใจไม่ไป  ก็จะหยุดการพัฒนาไว้เท่าที่ถูกผลักดัน ไม่มีส่วนของการแสวงหาเองเพิ่มเติม เนื่องจากเริ่มต้นด้วยการไม่มีใจ 3. ทหารประจำการ =  ไม่ว่าเขาจะเริ่มต้นด้วยเหตุประการใดก็ตาม คนกลุ่มนี้ถูกฝึกฝนจนชำนาญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งถูกสร้างใจให้ร่วมไปพร้อมๆ กับแม่ทัพและเพื่อนร่วมทัพ  จะมีความชำนาญอย่างมากในการใช้อาวุธ ทักษะต่างๆ เข้าใจภาษาเดียวกับ แม่ทัพและเพื่อนร่วมทัพ  มองภาพเดียวกันออก และอยู่ในทีมเดียวกัน  สามารถใช้อาวุธของตนเองได้อย่างคล่องแคล่วในสนามรบ  ไม่ว่าจะเพื่อฟาดฟันศัตรู … Read More »

ขอบพระคุณทุกกรณี

ขอบพระคุณทุกกรณี การขอบพระคุณพระเจ้าทุกกรณี เป็นการหวังใจ ว่าจะไม่ทรงทอดทิ้ง และเป็นการประกาศว่า >> “ข้าพเจ้ายังรอคอยการช่วยกู้ คำตอบ และการอวยพระพรจากพระเจ้าอยู่ตรงนี้” วางใจ แทนการบ่นต่อว่า ตัดพ้อ แม้จะถูกบั่นทอนด้วยรอบด้าน ทั้งเหตุการณ์ สถานการณ์ ผู้คน เหตุผล แม้แต่ความคิดของตัวเอง อันเนื่องจากประสบการณ์ในอดีต  หรือ อนาคตที่รำไรมองไม่เห็นทางออกก็ตาม แต่ ความวางใจนี้เป็นการประกาศว่า >> “ไม่ว่าอย่างไร ข้าพเจ้าก็จะพึ่งพาเพียงพระองค์เท่านั้น” ด้วยเหตุนี้ผู้ที่ขอบพระคุณพระเจ้าในทุกกรณี  จึงมีชัยชนะด้านจิตใจไปกว่าครึ่ง  เพราะจุดยืนที่ยึดไว้  และเขาจะไม่พลาดการช่วยกู้และพระพรจากพระเจ้าเป็นแน่   ขอบพระคุณพระเจ้าทุกกรณี ฉธบ.4:29-39 4:29 แต่ ณ ที่นั่นแหละท่านทั้งหลายจะแสวงหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน ถ้าพวกท่านค้นหาพระองค์ด้วยสุดจิตและสุดใจ พวกท่านจะพบพระองค์ 4:30 เมื่อพวกท่านมีความทุกข์ลำบาก ซึ่งสิ่งสารพัดเหล่านี้มาถึงท่าน ในกาลภายหลัง ถ้าพวกท่านจะกลับมาหาพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่าน และเชื่อฟังพระสุรเสียงของพระองค์ 4:31 (เพราะว่าพระเยโฮวาห์พระเจ้าของท่านทั้งหลายเป็นพระเจ้าผู้ทรงเต็มด้วยพระ กรุณา) พระองค์จะไม่ทรงละทิ้งหรือทำลายท่านทั้งหลาย หรือลืมพันธสัญญาซึ่งพระองค์ทรงกระทำไว้กับบรรพบุรุษของท่านโดยการปฏิญาณ 4:32 เพราะบัดนี้จงถามดูเถอะว่า ในกาลวันที่ล่วงมาแล้วนั้น คือวันที่อยู่ก่อนท่านทั้งหลาย ตั้งแต่วันที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ไว้บนโลก… Read More »

ถ้าทรงใช้…จะเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราเอง

ลก.9:1-6 9:1 พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์มาพร้อมกัน แล้วทรงประทานให้เขามีอำนาจและสิทธิอำนาจเหนือผีทั้งปวงและรักษาโรคต่าง ๆ ให้หาย 9:2 แล้วพระองค์ทรงใช้เขาไปประกาศอาณาจักรของพระเจ้า และรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย 9:3 พระองค์จึงตรัสสั่งเขาว่า “อย่าเอาอะไรไปใช้ตามทาง เช่น ไม้ตะบอง หรือย่าม หรืออาหาร หรือเงิน หรือเสื้อคลุมสองตัว 9:4 และถ้าเข้าไปในเรือนไหน จงอาศัยอยู่ในเรือนนั้นจนกว่าจะไป 9:5 ผู้ใดไม่ต้อนรับพวกท่าน เมื่อท่านจะไปจากเมืองนั้น จงสะบัดผงคลีดินจากเท้าของท่านออกส่อให้เห็นความผิดของเขา” 9:6 เหล่าสาวกจึงออกไปตามเมืองต่าง ๆ ประกาศข่าวประเสริฐ และรักษาคนเจ็บป่วยทุกแห่งให้หาย ถ้าทรงใช้ จะเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราเอง   เมื่อพระเจ้าใช้เราออกไปย่อมเจิมด้วยสิทธิอำนาจที่ให้ออกไป เทียบเท่ากับพระเยซูทรงทำเอง อันเนื่องมาจากพระเยซูทรงทำเองผ่านตัวเรา แท้จริงมนุษย์ไม่ได้มีสิทธิอำนาจนั้น เว้นเสียแต่พระเยซูที่ทรงทำในตัวเราต่างหาก เหตุนี้พระองค์จึงตรัสสั่งห้ามเราจัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อตนเอง เนื่องจากเราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเจ้า จำเป็นต้องให้พระเจ้าเป็นที่พึ่งเดียวของเรา ~ ไม่ใช่สิ่งที่เรามี = เสื้อผ้า อาหาร ~ ไม่ใช่สิ่งที่โลกนี้ให้ = เงินทอง ~ ไม่ใช่ความสามารถ =… Read More »

BOWL การเทและมอบให้พระเจ้า

ในแต่ละครั้งที่เราก้าวเข้ามาหาพระเจ้าต้องเป็นเหมือนภาชนะเปล่าที่พร้อมจะให้พระเจ้าเทสิ่งใด แบบไหนก็ได้ให้กับเรา หากเราเข้ามาแบบภาชนะที่มีน้ำอยู่แล้ว มีอะไรอยู่ในภาชนะอยู่แล้ว ปริมาณที่เราจะได้รับ คือ … ปริมาณเท่ากับช่องว่างที่เหลือเท่านั้น  เหลือช่องว่างมากเพียงใดพระเยซูก็จะทรงเติมให้เต็มได้เพียงนั้น ภาพ : อ่างที่มีน้ำอยู่แล้วบางส่วน / อ่างที่มีน้ำเต็มแล้ว / อ่างที่ว่างเปล่า ขนาดของการรับน้ำทั้ง 3 อ่าง ย่อมได้ขนาดต่างกัน >> การรับจากพระเจ้า คือ ขนาดช่องว่างที่ระดับน้ำถึงปากอ่างนั้นเอง   BowL : การรับจากพระเจ้า ดังนั้นทุกครั้งที่เราเข้ามาหาพระเจ้า เราควรเคียร์อ่างของเราให้ว่างเปล่า เพื่อจะสามารถรับน้ำใหม่อย่างเต็มขนาดจากพระเจ้าในทุกครั้ง *** เหตุนี้เองแม้หลายคน แสวงหาพระเจ้าเหมือนกัน  มีความต้องการอย่างแรงกล้าเช่นเดียวกัน … แต่กลับได้รับต่างกัน อันเนื่องจากช่องว่างนี้นั่นเอง แน่นอนว่าขนาดอ่างที่ใหญ่ย่อมมีช่องว่างมากกว่าเมื่อเทียบพื้นที่สมมาตร  ชีวิตที่ได้รับการขยายให้ใหญ่มากขึ้นกว่าเดิม ย่อมมีพื้นที่ที่พระเจ้าใส่ให้ได้มากกว่าเดิม แต่ในขณะที่บางคนขนาดใหญ่กลับเข้ามาด้วยน้ำที่มีอยู่เดิม ย่อมเหลือพื้นที่เพียงน้อยนิด แทนที่การถูกเติม … ดังนั้นการเข้าหาพระเจ้าขนาดเล็กใหญ่หาใช่ตัวกำหนดทั้งหมด  หากไม่เคียร์ให้พื้นที่ว่างมากเท่าไร ก็เป็นที่น่าเสียดายที่ขนาดใหญ่เสียเปล่ากลับรับได้เพียงน้อยนิด อาจน้อยเสียกว่าคนที่ขนาดเล็กแต่เคียร์พื้นที่ในอ่างของตน จนเหลือช่องว่างให้พระเจ้าได้มากกว่าก็เป็นได้ BowL : การเทออก มอบให้พระเจ้า ในขณะที่เมื่อเราเทออกให้กับพระเจ้า… Read More »