??? ภาระกิจเดียวกัน แต่ประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ได้ช่างแตกต่างกันเหลือเกิน เพราะเหตุใด?
ทหารหาญของพระเจ้า
ทหารทั้ง 3 ประเภทในสนามรบ
1. ทหารอาสา
= คนที่มีใจอาสา อยากทำ อยากออกรบ พวกเขาขับเคลื่อนด้วยใจ อาจขาดซึ่งประสิทธิภาพและความชำนาญ แต่สามารถฝึกฝนได้ เพราะมีพื้นฐานที่ใจ คนกลุ่มนี้ใจสู้มากกว่าพวกทหารเกณฑ์แน่นอน
2. ทหารเกณฑ์
= คนที่ถูกเกณฑ์ให้เข้าร่วม อาจด้วยกระแส ความจำเป็น หรือเหตุผลบางประการ แต่ไม่ได้มีใจอยากร่วม หรือยื่นออกก่อนแต่แรก อาจขาดความชำนาญ ความเข้าใจ และอาจขาดใจในการร่วมด้วย สำหรับบางกรณี ใจฝ่อง่าย ล้มเลิกง่าย ฝึกฝนได้ทางด้านทักษะเท่านั้น แต่หากใจไม่ไป ก็จะหยุดการพัฒนาไว้เท่าที่ถูกผลักดัน ไม่มีส่วนของการแสวงหาเองเพิ่มเติม เนื่องจากเริ่มต้นด้วยการไม่มีใจ
3. ทหารประจำการ
= ไม่ว่าเขาจะเริ่มต้นด้วยเหตุประการใดก็ตาม คนกลุ่มนี้ถูกฝึกฝนจนชำนาญเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ทั้งถูกสร้างใจให้ร่วมไปพร้อมๆ กับแม่ทัพและเพื่อนร่วมทัพ จะมีความชำนาญอย่างมากในการใช้อาวุธ ทักษะต่างๆ เข้าใจภาษาเดียวกับ แม่ทัพและเพื่อนร่วมทัพ มองภาพเดียวกันออก และอยู่ในทีมเดียวกัน สามารถใช้อาวุธของตนเองได้อย่างคล่องแคล่วในสนามรบ ไม่ว่าจะเพื่อฟาดฟันศัตรู ปกป้องตนเอง ปกป้องภาระกิจ ไม่ว่าจะแนวรุกหรือแนวรับ เขาสามารถทำได้เป็นอย่างดีด้วยการ ฝึกฝนในสภาวะปกติของเขา จึงไม่หวั่นต่อสงครามใดๆ มีประสิทธิภาพทั้งกาย ใจ ทักษะและสภาพจิตใจ ไม่หวั่นกลัวต่อสิ่งเบื้องหน้า ไม่ล้มเลิกง่ายๆ มีแนวโน้มพัฒนาทักษะมากขึ้นเรื่อยๆ ในแต่ละสงคราม
*** ในสนามรบที่ใช้ทหารต่างกัน ปริมาณทหารแต่ละประเภทที่ต่างกัน ย่อมส่งผลกำหนดชัยชนะอย่างเด่นชัด
ทหารหาญของพระเจ้า
1. การใช้คนที่มีความสามารถเฉพาะทาง หรือการทรงเรียกเจาะจงให้ถูกตำแหน่ง ย่อมมีการเจิมสูงกว่า ประสิทธิภาพและประสิทธิผลย่อมสูงกว่า เนื่องจากเขาได้ปล้ำสู้จนกระทั่งสิทธิอำนาจเป็นของเขาแล้ว อีกทั้ง หากเป็นการทรงเรียกจากพระเจ้าจริง ย่อมมีการเจิมเป็นการรับรองอย่างแน่นอน … ในทางตรงกันข้าม หากการทำงานหรือภาระกิจนั้นๆ ไม่ให้คุณค่าหรือความสำคัญที่การเลือกใช้คนให้เหมาะสมตามการทรงเรียก แม้จะไปได้ ด้วยเหตุที่ทำเพื่อเห็นแก่พระเจ้า พระองค์ก็ย่อมอวยพร แต่ผลลัพธ์ การเจิมย่อมแตกต่างกัน เนื่องจาก
– ไม่ใช่ใครก็ได้จะเข้าสู่สนามรบ
– ไม่ใช่ทุกสนามรบจะเหมาะกับใครก็ได้
– แต่ละสนามรบย่อมมีความแตกต่างกันออกไป
2. ในบางสนามรบ อาจมีการคละปนของทหารก็เป็นไปได้ แต่ปริมาณของทหารแต่ละประเภท ก็มีผลต่อชัยชนะด้วยเช่นกัน งานบางงานอาจไม่จำเป็นต้องใช้คนที่มีความชำนาญเจาะจง แต่งานบางด้านจำเป็นอย่างมากที่จะต้องใช้คนที่มีความชำนาญเจาะจง โดยเฉพาะงานฝ่ายวิญญาณ เช่น งานนมัสการ งานอธิษฐานวิงวอน …. แน่นอนว่าคริสเตียนทุกคนนมัสการเป็น แต่ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ และนอกเหนือจากการฟังเสียงพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ ยังจำเป็นต้องเคลื่อนตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ด้วยอีกต่างหาก ซึ่งเป็นสิ่งที่จำเป็นอย่างมาก , งานอธิษฐานวิงวอนก็เช่นกัน ที่คริสเตียนทุกคนต้องอธิษฐานเป็น และอธิษฐานเป็นการส่วนตัวด้วย แต่หากไม่สามารถฟังเสียงหรือเคลื่อนตามพระวิญญาณบริสุทธิ์ได้ .. จากการอธิษฐานวิงวอนแบบเคลื่อนตามพระวิญญาณบริสุทธิ์จะกลายเป็นแบบรายการ (list) ในทันที ซึ่งเปลี่ยนน้ำพระทัยพระเจ้าและสนามรบไปในทันที
3. ทหารแต่ละประเภทมีการฝึกฝนและใช้ชีวิตประจำวันที่แตกต่างกัน ในความเข้มข้นแต่ละด้าน ตามแต่ขนาดที่ตนเองต้องใช้และตามแต่จุดยืนของตนเอง
4. สามารถพัฒนาจาก … ทหารเกณฑ์ >> ทหารอาสา >> ทหารประจำการ ได้ … หากเป็นการทรงเรียกที่แท้จริง คนเราสามารถเริ่มต้นด้วยเหตุแตกต่างกันได้ แล้วแต่ประสบการณ์ส่วนตัวที่พระเจ้าทำในแต่ละคน แต่เมื่อค้นพบการทรงเรียกแล้วว่า ตนเองอยู่สนามรบใด ย่อมต้องพัฒนาเจาะจงลงไปในงานนั้นๆ สนามรบนั้นๆ
14/03/2014 10:20