มีหญิงสาว 2 คนที่เป็นที่โดดเด่นในพระคัมภีร์
เธอทั้ง 2 เป็นพี่น้องกัน คนพี่ชื่อมารธา คนน้องชื่อมารีย์ ทั้ง 2 ต่างก็เป็นคนที่รักพระเยซูเช่นกัน ไม่ต่างกัน แต่มีบางสิ่งที่ต่างกันเล็กน้อย
# มารธา >> ผู้เป็นพี่เลือกที่จะปรนนิบัติและแสดงออกซึ่งความรักต่อพระเยซูด้วยการจัดหาและจัดเตรียมอาหารชั้นเลิศเพื่อต้อนรับบุคคลสำคัญที่สุดในชีวิตของเขา แต่เธอกลับยุ่งเกินไป จนกระทั่งเธอไม่มีแม้แต่เวลาสักเสี้ยวนึงในการพูดคุยหรือสนทนากับพระองค์ ในขณะที่พระองค์ได้เข้ามาในบ้านของเธอเป็นที่เรียบร้อยเสียแล้ว เวลาล่วงเลยไปจนกระทั่งเธอรู้สึกได้ว่าเธอเหนื่อยเหลือเกิน จึงได้กล่าวกับพระเยซูว่า ….”พระองค์โปรดบอกให้น้องสาวมาช่วยข้าพระองค์หน่อย”
# มารีย์ >> ส่วนหญิงคนนี้กลับเลือกตรงข้ามเธอทำทุกสิ่งก่อนที่พระเยซูเสด็จเข้ามาเพื่อเตรียมการต้อนรับ แต่ทันทีที่พระองค์ก้าวเข้ามาในบ้าน เธอหยุดทุกสิ่งที่กำลังทำอยู่และนั่งอยู่แทบพระบาทของพระเยซู เพื่อปรนนิบัติและสนทนากับพระองค์
2 สาว ที่รักพระเยซูเสียเหลือเกินไม่ต่างกัน แต่กลับเลือกที่ต่างกัน แล้วเหตุใดพระเยซูจึงโปรดสิ่งที่มารีย์ทำมากกว่ากัน??
ข้อคิดสะกิดใจ
# เป็นการดีที่เราแต่ละคนเลือกที่จะทำสิ่งต่างๆ เพื่อคนที่เรารักแต่หากการกระทำนั้นๆ ปราศจากซึ่งความสัมพันธ์ที่แนบสนิทแล้วหละก็ การกระทำนั้นก็เหนื่อยเปล่า เพราะมันถูกบั่นทอนด้วยปริมาณงาน และไม่ได้รับการเติมเต็มให้ชื่นใจ ถ้าเช่นนนั้นเราแต่ละคนจะทำได้นานสักแค่ไหนกันเชียว หรือมากแค่ไหนเชียว…คำตอบคือ มากเท่าที่แรเราจะทำได้ ดังที่มารธาเป็น ….
# หากแต่สิ่งที่มารีย์เลือกคือ รู้จักจัดสรรเวลาเป็นอย่างดี เขารู้จักที่จะเลือกว่าเขาจะทำสิ่งใดก่อนสิ่งใดหลัง และในเวลานั้นๆ เขาจะต้องทำสิ่งใดจึงเกิดผลดีมากที่สุด
# ทั้ง 2 สาวต่างไม่มีใครรักพระเยซูน้อยแต่ทั้ง 2 เลือกที่จะแสดงความรักในมุมที่แตกต่างกันและทั้ง 2 ก็ได้รับในมุมที่ต่างกันด้วย
เราให้สิ่งใดเราก็ย่อมได้รับสิ่งนั้น
เราเห็นคุณค่าสิ่งใด เราก็ย่อมลงทุนกับสิ่งนั้น
และผลที่ได้รับจะเป็นที่น่าชื่นใจเพียงใดก็อยู่ที่เราเลือก
……
แล้วเราแต่ละคนควรเลือกที่จะแสดงออกความรักต่อบุคคลที่สำคัญต่อเราแบบใดจากบทเรียนของเธอทั้ง 2
291013