การมากที่ปรึกษาโดยที่ตนเองปราศจากรากฐานของพระคำ ย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้อวดรู้ และฟาริสี
มากที่ปรึกษา คือ การเสริมสร้างส่วนที่ขาดความรู้ ความเข้าใจ ไม่ใช่การว่างเปล่าแบบไม่มีอะไรเลย แม้แต่กรอบล้อมรั้วชีวิตตน
หากเป็นเช่นนั้น… จงนำความไปปรึกษาพระเจ้า พระองค์มีวิธีการสอนเราแต่ละคนอย่างแน่นอน เพราะทรงเป็นพระเจ้าที่ทรงพระชนม์อยู่และประทับอยู่ด้วย
ตัวอย่างเช่น … ขันทีที่อ่านพระคำอิสยาห์ไม่เข้าใจ พระเจ้าจึงส่งฟีลิปมา เพื่อเสริมสร้างเขา = พระเจ้าไม่ละทิ้งและปล่อยให้ผู้ที่แสวงหาพระเจ้าด้วยความถ่อมใจ ต้องขาดสิ่งใดๆ โดยเฉพาะความเข้าใจในพระคำ
กจ.8:26-40
26 แต่ทูตองค์หนึ่งขององค์พระผู้เป็นเจ้าสั่งฟีลิปว่า “จงลุกขึ้น ไปยังทิศใต้ตามทางที่ลงไปจากกรุงเยรูซาเล็มถึงกาซา” (ซึ่งเป็นทางเปลี่ยว)
27 ฟีลิปก็ลุกไป และนี่แน่ะ มีขันทีชาวเอธิโอปคนหนึ่ง เป็นข้าราชการของพระนางคานดาสีพระราชินีของชาวเอธิโอป และเป็นนายคลังทรัพย์ทั้งหมดของพระราชินีองค์นั้น ท่านมานมัสการที่กรุงเยรูซาเล็ม
28 ขณะนั่งรถม้ากลับไปนั้น ท่านกำลังอ่านหนังสืออิสยาห์ผู้เผยพระวจนะอยู่
29 พระวิญญาณตรัสสั่งฟีลิปว่า “จงเข้าไปชิดรถม้าคันนั้นเถิด”
30 ฟีลิปจึงวิ่งเข้าไปใกล้ และได้ยินท่านอ่านหนังสืออิสยาห์ผู้เผยพระวจนะ จึงถามว่า “ท่านเข้าใจสิ่งที่อ่านหรือไม่?”
31 ขันทีจึงตอบว่า “ถ้าไม่มีใครอธิบาย จะเข้าใจได้อย่างไร?” ท่านจึงเชิญฟีลิปขึ้นไปนั่งบนรถม้ากับท่าน
32 พระคัมภีร์ตอนที่ท่านอ่านอยู่นั้นคือข้อเหล่านี้
“ท่านถูกนำไปฆ่าเหมือนอย่างแกะ
ลูกแกะนิ่งอยู่ต่อหน้าผู้ตัดขนของมันอย่างไร
ท่านก็ไม่ปริปากของท่านอย่างนั้น
33 ในเวลาที่ท่านถูกเหยียดหยาม ท่านไม่ได้รับความยุติธรรม
ใครจะเล่าถึงเชื้อสายของท่าน?
เพราะชีวิตของท่านถูกตัดขาดจากแผ่นดินโลก”
34 ขันทีจึงถามฟีลิปว่า “สิ่งที่ผู้เผยพระวจนะกล่าวนี้เล็งถึงใคร เล็งถึงตัวท่านเอง หรือเล็งถึงคนอื่น? ขอบอกข้าพเจ้าเถิด”
35 ฟีลิปจึงเริ่มเล่าโดยตั้งต้นจากพระคัมภีร์ตอนนั้น ท่านประกาศข่าวประเสริฐเรื่องพระเยซูกับขันทีผู้นั้น
36 ขณะกำลังเดินทางไปก็มาถึงที่ที่มีน้ำแห่งหนึ่ง ขันทีจึงบอกว่า “นี่แน่ะ ที่นี่มีน้ำ มีอะไรขัดข้องไม่ให้ข้าพเจ้ารับบัพติศมา”
37 ฟีลิปจึงตอบว่า “ถ้าท่านเต็มใจเชื่อท่านก็รับได้” ขันทีจึงตอบว่า “ข้าพเจ้าเชื่อว่าพระเยซูคริสต์เป็นพระบุตรของพระเจ้า”
38 แล้วท่านจึงสั่งให้หยุดรถ คนทั้งสองก็ลงไปในน้ำทั้งฟีลิปกับขันที ฟีลิปให้ท่านรับบัพติศมา
39 เมื่อท่านทั้งสองขึ้นจากน้ำแล้ว พระวิญญาณบริสุทธิ์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงรับฟีลิปไป และขันทีคนนั้นไม่ได้เห็นท่านอีก จึงเดินทางต่อไปด้วยความยินดี
40 แต่มีคนพบฟีลิปที่เมืองอาโซทัส และเมื่อท่านเดินทางไป ท่านก็ประกาศข่าวประเสริฐทั่วทุกเมืองจนกระทั่งท่านไปถึงเมืองซีซารียา
มากที่ปรึกษา
1. หน้าที่ของเราแต่ละคน คือ ต้องรับผิดชอบตนเองในการแสวงหาพระเจ้า และศึกษาพระคำ อย่าผลักภาระนี้ไปฝากไว้ที่การรอให้คนมาสอน หรือ รอคำเทศนา เท่านั้น เพราะมันไม่เพียงพอต่อการดำรงชีวิตจริงบนโลกนี้
2. ในส่วนที่ยังขาดความเข้าใจ จงร้องขอและแสวงหาจากพระเจ้าในการสำแดง และฝึกฝนตนเองจนเกิดความเข้าใจมากขึ้น
3. ส่วนของความรู้เป็นเรื่องของการค่อยๆ สะสมมากยิ่งขึ้น จนเข้าใจรอบด้านมากขึ้น ปีนี้เข้าใจเท่านี้ ปีหน้าจะเข้าใจมากขึ้น เพราะโตขึ้น ขอบเขตชีวิตถูกขยายมากขึ้น ความเข้าใจจึงมากขึ้นตามประสบการณ์ตรงด้วย
4. อย่าฉวยโอกาสชักจูงผู้ที่อ่อนกำลัง หรืออ่อนแอให้โอนอ่อนตามความคิด หรือ ทัศนคติของตนเอง เพราะผู้สอนก็ต้องรับผิดชอบกับพระเจ้าด้วยเช่นกัน
5. การมีที่ปรึกษามากๆ ยิ่งดี เพราะจะเพิ่มพูนความรู้ความเข้าใจที่ตนเองไม่มี อีกทั้งยังเสริมสร้างส่วนที่ตนเองขาด หรืออ่อน แต่หากปราศจากซึ่งรากฐานพระคำในชีวิตตน ย่อมตกเป็นเหยื่อของผู้ที่อาจไม่โตจริงก็เป็นไปได้ แท้จริงเราแต่ละคนต่างพิสูจน์กันและกันได้อยู่แล้ว ทั้งนี้ที่ปรึกษาสูงสุด และผู้ที่เราควรแสวงหาคำตอบ ควรเป็นองค์พระผู้เป็นเจ้าของตน เป็นที่ 1
6. อย่าเปิดช่องหรือใช้เล่ห์เหลี่ยมมากที่ปรึกษา เพื่อควานหาคำตอบที่โดนใจตน หรือเข้าข้างตนเอง เพราะนอกจากจะผิดวัตถุประสงค์ที่แท้จริงแล้ว ยังเป็นการทำร้ายตนเองทั้งที่รู้อยู่แล้ว แท้จริงไม่มีที่ปรึกษาคนใดรับผลร่วมกับเราได้ ดังนั้น ผลเหล่านั้นตกแก่ตนอย่างเต็มที่เพียงลำพังเท่านั้น