ในนาทีที่โลทต้องเผชิญหน้ากับการช่วยเหลือของพระเจ้าที่มาถึงชีวิตและครัวเรือนของเขา ผ่านคำอธิษฐานของอับราฮัม …
การแยกตัวออกจากถิ่นฐานที่ตั้งมั่นของเขา เพราะเป็นที่ที่เต็มไปด้วยบาปที่ถึงเวลาและวาระแห่งการพิพากษาของพระเจ้ามาถึงแล้ว มากกว่าทรัพย์สินความมั่นคงที่เป็นของเขาและแหล่งทำกินแล้ว เขาจำต้องละสารพัดสิ่งที่พันผูก ไม่ว่าจะเพื่อนบ้าน หรือแม้แต่ญาติพี่น้องในครัวเรือนของเขาเองด้วยซ้ำ
แท้จริงครอบครัวของเขามีกัน 10 คน แต่ที่ออกจากโสโดมโกมาราได้จริงๆ มีแค่เพียง 4 คนเท่านั้น… คือ … ตัวโลทเอง ภรรยา และลูกสาวอีก 2 คน ส่วนคนที่เหลือเขาจำต้องทิ้งไว้กับการพิพากษาของพระเจ้า แม้ความเจ็บปวดจะมาถึงจิตใจภายในของเขาและเห็นตำตา รู้เต็มอก ก็ตามที …
*** แต่เมื่อถึงเวลาของพระเจ้า หากโลทไม่ก้าวออกมาพระเจ้าก็จะนำเขาออกมา เหตุที่โลทไม่กล้าก้าวเพราะรักและเป็นห่วงญาติที่เหลือไม่ยอมไปด้วย ทำให้การตัดสินใจของโลทลดระดับลงจากที่ควร… เหตุนี้เองพระเจ้าจึงเข้าแทรกแซงดึงเขาออกมาจากโสโดม แต่สาเหตุที่ญาติๆ และคนในครัวเรือนที่เหลือของโลทไม่ได้รับการช่วยเหลือนี้จากพระเจ้า เพราะพวกเขาตัดสินใจเองที่จะอยู่กับบาป ปฏิเสธโอกาสและพระหัตถ์แห่งการช่วยกู้ที่มาถึง ผ่านชีวิตของโลทและการวิงวอนของอับราฮัม
โลทกับการตัดออกจากบาป
1. แม้พระเจ้าจะให้โอกาสเพียงใด แต่หากคนนั้นเลือกที่จะอยู่กับบาปและจมอยู่เช่นนั้น ก็ไม่มีใครหรือสิ่งใดจะช่วยได้ เพราะพระลักษณะของพระเจ้าอีกด้านคือ ทรงเข้มงวดกับความบริสุทธิ์
2. เมื่อถึงเวลาแห่งการพิพากษาของพระเจ้ามาถึง *** สิ่งที่ต้องเกิดขึ้นคือ … ออกจากจุดที่เป็นอยู่และห่วงหน้าพะวงหลังอยู่ ด้วยการช่วยเหลือของพระเจ้าเราจะสามารถผ่านจุดนั้นมาได้แน่นอน ขอเพียงแค่เรายอมออกจากบาปนั้นก็พอ
3. บางครั้งเราจำเป็นต้องตัดซึ่งความสัมพันธ์ลง หากสิ่งนั้นเป็นบาป แม้หัวใจเราจะเจ็บปวด เพราะเห็นแก่ผู้ที่เรารักเหลือเกิน แต่ถึงกระนั้นเราก็ไม่สามารถทิ้งชีวิตของเราด้วยการไม่ไปต่อกับพระเจ้าได้ การตัดสายสัมพันธ์กับบาปก็เช่นกัน เราต้องตัดแบบไม่หันหลังกลับไปดู เพราะไม่เพียงเราจะเจ็บปวดมาก ยิ่งเห็นผู้ที่เรารักต้องรับผลนั้น ดังเช่น ภรรยาโลท ก็ไปต่อไม่ได้ เขากลายเป็นเสาเกลืออยู่ตรงนั้นที่ๆ เขาหันกลับไปมองดู เพราะอาจถูกแช่แข็งในที่ๆ เราหันกลับไปมองดูก็เป็นไปได้ สายตาของเราจำเป็นต้องมุ่งหน้าตรงไปยังเป้าหมายที่พระเจ้าสั่งไว้เท่านั้น เราจึงจะสามารถผ่านเหตุการณ์เหล่านี้ไปได้
4. หลายครั้งโอกาสที่เราได้รับ ไม่ใช่เพราะทำเอง แต่เพราะพระเมตตาของพระเจ้าที่มีมาถึง ผ่านบุคคลคนหนึ่งที่คอยคร่ำครวญวิงวอนขอต่อพระเจ้าแทน และการเห็นแก่เขาเพื่อเรา เฉกเช่นเดียวกัน หากเราดำเนินชีวิตแบบรักษาทางของตนจนกระทั่งพระเจ้าเห็นแก่เราได้ เมื่อเราร้องขอ แต่พระเจ้า เพื่อใครสักคนที่เรารัก ก็จะเป็นเหตุให้พระเจ้าช่วยกู้เขาได้เช่นกัน