ระหว่างเส้นทางเดินสู่จุดหมายที่แสนยาวไกลกับชัยชนะในการปล้ำสู้ บางครั้งเราเห็นพระพรเทลงมาเพียงน้อยนิด อาจทำให้เข้าใจว่าผ่านแล้ว…
แต่……………….
? ทำไมยังวนเวียนอยู่ (ที่เดิมๆ) หรือ
? เป็นแบบแว่บๆ แทนความมั่นคงที่เกิดขึ้น
แท้จริงยังไม่ผ่าน >>> เพราะหากเราชนะจริง มันจะผ่านแบบมั่นคง ไม่ใช่แค่ชั่วครั้งชั่วคราวแต่จะกลายเป็นธรรมชาติชีวิตใหม่ เป็นสิทธิอำนาจ และลักษณะชีวิตให้จนกลายเป็นพื้นฐานสู่ก้าวต่อไปของชีวิตเรา
แสนเนิ่นนานเหลือเกิน
เนื่องจากพระลักษณะพระเจ้ามีพระคุณและรักเรา พร้อมที่จะให้กำลังแก่เราในการก้าวไปแต่ละก้าว การอวยพรของพระเจ้าจึงมีแก่เราเป็นระยะๆ เพื่อให้เรามีกำลังและรู้ว่าพระองค์ทรงอยู่ด้วยตลอดเส้นทาง ไม่เพียงแค่ปลายทางเท่านั้น แต่ระหว่างทาง พระพรยิบย่อยก็ส่งมาให้เราอย่างไม่ขาดสาย อีกทั้งยังเป็นตัวชี้แนวทางเสมือนป้ายบอกทางให้กับเราว่ามาถูกทางหรือเปล่าด้วย… และแน่นอนว่าหากระหว่างทางพระพรยังมากมายไม่ขาดสายแล้ว ปลายทางยิ่งมากกว่าเป็นร้อยเท่า หากใครไปถึงย่อมได้รับเป็นแน่ และเส้นทางนั้นเป็นเส้นทางเฉพาะเจาะจงถึงเราแต่ละคนด้วย
*** ระวังอย่าหลงไปเดินเส้นทางของผู้อื่น เพราะปลายทางนั้นก็มีไว้สำหรับเจาะจงแต่ละคนด้วยเช่นกัน หากเดินในเส้นทางของผู้อื่น แม้เดินไปจนสุดปลายทางก็ไม่มีของๆ เราเตรียมไว้ที่นั่น
ด้วยสายตาอันแสนสั้นของเรา อาจคิดว่า…
? ทำไมแสนเนิ่นนานเหลือเกิน
? เมื่อไรหนอจะจบเสียที
แต่พระเจ้าทรงล่วงรู้ในอนาคตของเรา ทรงสัพพัญญู จึงทำการเพาะบ่มชีวิตเราในช่วงเวลานี้เพื่ออนาคต
เมื่อถึงวันนั้นเราจะสามารถรับพระพรอย่างเต็มขนาด หากเราผ่านไปด้วยกระบุงอันน้อยนิดที่ถือติดมือไปแบบรั่วๆ เมื่อถึงเวลาแห่งการตักตวงพระพร เราอาจอยากกลับมาที่จุดแห่งการเพาะบ่มอีกครั้งก็เป็นได้…
แต่คนที่อดทนจนถึงที่สุดย่อมอิ่มปริ เมื่อถึงเวลาแห่งการตักตวงพระพรด้วยภาชนะที่อยู่ในมือนั้นใหญ่มากพอและทนทานพอที่จะเก็บพระพรนั้นไว้กับตัวนานแสนนาน
09/12/2013 12:03