เลิกกักขังตนเอง ด้วยเหตุผลจอมปลอม

By | 2015/01/24

ในโลกนี้ไม่มีชีวิตใครที่โรยด้วยกลีบกุหลาบตลอดไป เหมือนในนิยาย ที่หลายๆ คนใฝ่ฝัน ต่างก็ย่อมมีช่วงเวลาที่ยากลำบาก , ช่วงเวลาที่ไม่ชอบ , ช่วงเวลาที่เจ็บปวด , ช่วงเวลาที่ทนทุกข์ กันทั้งนั้น แม้ว่าเราแต่ละคนจะมีโอกาสและพื้นฐานชีวิตที่แตกต่างกันก็ตาม เพียงแต่แง่มุม และลักษณะของเหตุการณ์ , สถานการณ์ชีวิตของแต่ละคนแตกต่างกัน
   เรื่องบางเรื่องอาจมีผลกระทบกับคนบางคนอย่างมาก… แต่กับบางคนกลับไม่รู้สึกอะไรเลย
    เรื่องบางเรื่องบางคนใช้เวลานานมาก กว่าจะผ่านไปได้ … แต่บางคนใช้เวลาเพียงเล็กน้อย
    เรื่องบางเรื่องสำหรับบางคนแค่ตัดใจก็ผ่านได้ … แต่บางคนต้องปล้ำสู้ ล้มลุกคลุกคลาน ครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ละคนอาจจะมีเรื่องที่มีผลกระทบต่อชีวิตแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับจุดอ่อนไหวของแต่ละคน
    บางคนอ่อนไหวง่ายกับการเงิน
    บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องเพศตรงข้าม
♣      บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องคำพูด
      บางคนอ่อนไหวง่ายเรื่องการให้เกียรติ , การถูกยอมรับ
♣      บางคนอ่อนไหวง่ายกับเรื่องครอบครัว , คนใกล้ตัว
♣     บางคนอ่อนไหวง่ายกับทุกๆ เรื่อง

*** ซึ่งสิ่งเหล่านี้ ไม่ได้เป็นตัววัดความอ่อนแอเลย

ความอ่อนไหว คือ การมีอารมณ์ความรู้สึกร่วมกับสิ่งนั้นง่าย เร็ว และไวกว่าปกติ เมื่อเทียบกับคนทั่วๆ ไป หรือเรื่องอื่นๆ ในชีวิตของเรา
แต่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็ตามเมื่อเวลาผ่านพ้นไป … เหตุการณ์ , สถานการณ์ , สภาวการณ์เหล่านั้นได้จบลง หลงเหลือไว้แต่เพียงอดีต …

ชีวิตจริง คือ การเดินอยู่ในปัจจุบัน เพื่อก้าวออกไปสู่อนาคต , การดำเนินชีวิตอยู่กับวันนี้ เพื่อพรุ่งนี้จะเข้ามา

แต่คนที่กักขังตนเอง มัก ไม่ยอมให้อดีตผ่านเลยไป มันยังคงย้อนมาวนเวียนอยู่รอบๆ ผุดขึ้นมาในใจและความคิดเป็นระรอกๆ จนกระทั่งไม่มีอิสระและเสรีภาพในการใช้ชีวิตอยู่กับวันนี้เลย
นั่นอาจเกิดได้ 2 กรณี คือ… ยังไม่หาย กับ ไม่ยอมหาย

1.    ยังไม่หาย = ค่อยๆ ดีขึ้น , มีโอกาสและวันเวลาแห่งการหาย , ไม่อยากจมปลัก , หาทุกทาง ยินดีทำทุกสิ่งเพื่อให้หาย

2.    ไม่ยอมหาย = เป็นความสุขเล็กๆ ที่ได้เก็บความเจ็บปวดนั้นไว้  , ไม่ยินดีลุกขึ้น , ชอบที่จะยืนอยู่ในอดีตมากกว่า แม้จะผ่านมาแล้วเนิ่นนานแค่ไหน ก็พร้อมจะย้อนกลับไปเสมอๆ … ในขณะเดียวกันก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างมาก เป็นการยื้อแย่งกันในจินตนาการของตนเองโดยมีความรู้สึกเป็นตัวกำหนด
หลายครั้งมักคิดว่า…

♠    คนทั้งโลกดีกว่าตน

   ไม่มีใครเข้าใจ
    ไม่มีใครเจอแบบตนเองหรอก
♠    ไม่มีใครเจ็บปวดเท่ากับที่ตนเองได้รับอีกแล้ว
แน่นอนว่าแม้จะสามารถใช้ชีวิตต่อไปได้ แต่ก็รู้สึกสุขไม่ได้  , สุขไม่เต็มที่ หรือรู้สึกมีหนามทิ่มแทงอยู่ตลอดเวลา

เป็นปกติที่คนเราเมื่อเผชิญสิ่งที่ยากลำบาก , ทนทุกข์ , เจ็บปวด … อาจต้องการเวลา , ต้องการใครสักคน หรือวิธีการเยียวยารักษา … แต่การที่จมปลักและสร้างเกราะกำบังไว้เป็นการกักขังตนเองอย่างที่สุด

แท้จริงโลหิตของพระเยซูสามารถทลายทุกกำแพงที่ไม่ว่าจะหนาเพียงใด , จะกี่ชั้น , จะสูงแค่ไหน , จะแข็งแรงเพียงใดก็ตาม ,… โลหิตของพระองค์สามารถทำลายกำแพงเหล่านั้นพังทลายอย่างราบคาบ เพื่อปลดปล่อยผู้เชื่อให้มีอิสระและเสรีภาพได้ในทันที >> การเยียวยา , การรักษา , การโอบกอด , การรื้อฟื้น , การสร้างใหม่ และการคืนให้ จะเกิดขึ้นเป็นกระบวนการอย่างทันทีทันใด

แต่หลายต่อหลายครั้ง ทำไมมันดูเหมือนใช้ไม่ได้ผลกับบางคน , บางกรณี  … *** แท้จริงโลหิตพระคริสต์ไม่ได้มีความจำกัด เพราะทรงเป็นพระเจ้าเที่ยงแท้ แต่ที่ไม่ยอมคือใจเราเอง ***

การปิดกั้นและกักขังตนเอง ทำให้พระวิญญาณบริสุทธิ์ไม่สามารถทำงานในส่วนของพระองค์ในเราได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อสิ่งเหล่านั้นคือความเจ็บปวด การทนทุกข์ ที่ตนเองไม่สามารถช่วยเหลือตนเองได้ แต่กลับปิดประตูสำหรับพระวิญญาณบริสุทธิ์พระผู้ช่วยอีกต่างหาก การจมปลักจึงดูเหมือนจะเป็นเหตุผลที่บางครั้งก็ยอมรับได้ ด้วยเหตุผลต่างๆ นาๆ ที่สร้างขึ้นเองในจินตนาการที่ไร้สัจจะ (เพราะสัจจะทำให้เป็นไท)
เราสามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมีเสรีภาพ แม้ชีวิตเคยผ่านสิ่งเลวร้ายใดๆ มาก็ตาม หากแต่รักที่จะดำเนินชีวิตแบบมีเสรีภาพหรือไม่?? ก็เท่านั้น

คนที่สามารถผ่านสิ่งต่างๆ ได้ด้วยรอยยิ้ม คือ คนที่แข็งแกร่งแล้วพร้อมจะเติบโตขึ้น
คนที่คร่ำครวญอยู่กับอดีตที่ผ่านมา ด้วยการโอดครวญ โวยวาย ตีอกชกตัว คือ คนที่ยังก้าวออกมาจากจุดนั้นไม่ได้ แม้เวลาจะผ่านไปแล้วเนิ่นนาน

ใช่ว่าคนเขายิ้มได้ … เพราะไม่เจ็บปวด
ใช่ว่าคนเขาผ่านได้ … เพราะไม่เจอเรื่องแย่ๆ
ใช่ว่าคนเขาทนได้ … เพราะไม่หนักหนา

แต่ที่เขายิ้มได้ ผ่านได้ ทนได้
เพราะเขาเรียนรู้ที่จะให้มันผ่านไป แล้วก้าวไปสู่สิ่งใหม่ คือ… >> ผ่านได้
เพราะคาดหวัง วาดฝัน สิ่งที่รออยู่ข้างหน้า แม้จะใหม่ ไม่เคยเจอ แต่ก็น่าตื่นเต้น คือ… >> ยิ้มได้
เพราะไม่ว่าอะไรจะเข้ามาก็ไม่น่าจะแย่ไปกว่าที่เคยเจอ ในเมื่อเคยเจอที่แย่ๆ มาแล้วยังผ่านได้ คือ… >> ทนได้

อย่ากักขังตนเองด้วยเหตุผลจอมปลอม…
แต่จงก้าวออกมาเพื่อรับเสรีภาพอย่างที่คนอื่นเขาได้รับเถิด

คำอธิษฐานเพื่อปลดปล่อยตนเองจากความเจ็บปวดในอดีต
“ข้าแต่พระเจ้า…
ขอโปรดทรงเยียวยารักษาบาดแผลภายในจิตใจลึก อันเกิดจากการถูกทำร้ายอย่างไม่ยุติธรรม
ลูกเจ็บปวดกับอารมณ์ความรู้สึกและความคิดเช่นนี้อย่างเหลือเกิน
ขอปลดปล่อยลูกจากความเจ็บปวดนี้ จากการกักขังนี้ โดยโลหิตบนกางเขนของพระองค์ข้าพเจ้าเชื่อว่าทรงไถ่ให้เป็นไท
ขออิสระภาพ ขอเสรีภาพ ขอการเยียวยารักษา มาถึงข้าพระองค์ ณ บัดนี้
(หากเจ็บปวดมาก สามารถระบาย เพื่อให้กางเขนรับความเจ็บปวดนี้ได้)
ขอโปรดนำการรื้อฟื้นมาถึง เพื่อการเริ่มต้นใหม่
ขอโปรดสร้างใจใหม่แก่ข้าพระองค์
ขอทรงปกป้องข้าพระองค์จากการทำร้ายทั้งมวล
ขอตัดความสัมพันธ์ทั้งสิ้นกับความเจ็บปวดในอดีต ความคิดเหตุผลจอมปลอม ขอนำบาดแผลเหล่านี้ไปที่กางเขน
ขอโปรดอวยพรลูก และขอให้ลูกได้พักพิงในพระเจ้า พักสงบในพระองค์
ขอความรักของพระเจ้าท่วมท้น จนกระทั่งลูกสัมผัสได้
ขอชัยชนะ เพื่อนับตั้งแต่บัดนี้ข้าพระองค์จะมีเสรีภาพในการดำเนินชีวิต
อธิษฐานในพระนามพระเยซูคริสต์เจ้า เอเมน”

 


22/01/2015 12:20

0Shares