♥ “ในบรรดาคนที่ล้มลงก็มีคนที่รักเรามาก และติดตามเราเป็นอย่างดีด้วย แต่เมื่อถึงวันหนึ่งเขาก็หันหนีไปจากเรา แล้วเจ้าหละ” พระเยซูตรัสถามข้าพเจ้า
ในขณะนั้นเองนกพิราบสีขาวนวลเหลือเกินแบบไร้ที่ติ ก็ปรากฏตรงหน้า พระเยซูตรัสว่า “ลูกเอ๋ยจงเรียนรู้จากพระวิญญาณบริสุทธิ์ของเรา เราจะสอนถึงวิถีแห่งชัยชนะแก่เจ้า”
ข้าพเจ้าลืมตามองและจ้องไปที่นกพิราบสีขาวนวลที่กระพือปีกเบาๆ อย่างนุ่มนวลนิ่งอยู่ในระดับสายตา เผชิญหน้ากันระหว่างข้าพเจ้ากับนกพิราบขาว ดวงตาประสานกัน ข้าพเจ้าจ้องมองเข้าไปในดวงตาสีแดงก่ำของนกพิราบเหมือนถูกสะกดไว้ให้หยุดนิ่งอยู่ที่นกพิราบตัวนี้
พระเยซู : “เจ้ารู้หรือไม่ว่าเหตุใดนกพิราบ(พระวิญญาณบริสุทธิ์) จึงมีชัยชนะเหนืองู(มารซาตาน)?”
ข้าพเจ้าพยายามครุ่นคิด แต่ก็คิดไม่ออกเลย นกพิราบจะชนะงูได้อย่างไร ที่ผ่านมาข้าพเจ้าเชื่อเช่นนั้นมาตลอดด้วยความรู้ที่เคยได้ยินมาและเพราะว่าพระคัมภีร์กล่าวเช่นนั้น
มธ.10:16 ดูเถิด เราใช้พวกท่านไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางฝูงสุนัขป่า เหตุฉะนั้นท่านจงฉลาดเหมือนงู และไม่มีภัยเหมือนนกเขา
พระเยซู : “เพราะงูอยู่ติดดินต่ำสุด แต่นกพิราบบินสูงสู่ท้องฟ้า มันจะไม่เอาตัวเองลงไป”
ในขณะนั้นเองภาพของงูจำนวนมากที่ชูคอขึ้นสูงสู่อากาศทำให้มันตายเหมือนถูกแขวน
พระเยซู : “เราจะแบ่งชั้นของความชั่วกับความบริสุทธิ์ ระหว่างความบาปกับความบริสุทธิ์ เราจะแบ่งชั้นออก แยกมันออกอย่างชัดเจน … ความบริสุทธิ์ไม่มีวันพ่ายแพ้ เพราะพระบิดาได้ตั้งไว้แล้ว *** นี่แหนะ!!!ทรงตั้งไว้แล้ว…ใครหรือจะเปลี่ยนได้”
ในขณะนั้นเองข้าพเจ้าเห็นทูตสวรรค์ 2 ตนที่คุ้นเคยเป็นอย่างดียืนขนาบซ้ายขวา คือ เครูบ และเสราฟิม เมื่อข้าพเจ้าลุกขึ้นก้าวเท้าออกไป สิ่งที่เห็นคือ มีทูตสวรรค์อีกจำนวนมากเหลือเกินที่ยืนเรียงรายต่อจากทูตทั้ง 2 ตนนี้เป็นแถวตอนลึกยาว ขนาบซ้ายขวา ข้าพเจ้าก้าวต่อไปเรื่อยๆ ตามทางกลางระหว่างเหล่าทูตสวรรค์ ระหว่างนั้นใจภายในกลับได้รับการรื้อฟื้นกำลังมากมายจากพระเยซู ผู้ทรงกำลังเดินนำหน้าข้าพเจ้าถัดไปสักก้าวหนึ่ง ส่วนด้านหลังทูตสวรรค์เครูบและเสราฟิมเดินปิดท้าย บางเวลาก็บินขึ้นไปมา วนรอบๆ เสมือนคอยตรวจตรารอบๆด้าน เป็นความรู้สึกปลอดภัยเสมือนว่ามีบอดี้การ์ดตามตัว ระหว่างที่เดินตามพระเยซูไปอย่างติดๆ เสียงของทูตสวรรค์ที่ขนาบซ้ายขวาต่างออกเสียงร้อง “บริสุทธิ์ พระองค์ผู้บริสุทธิ์ บริสุทธิ์แด่พระองค์ผู้ทรงเสด็จมา บริสุทธิ์ บริสุทธิ์ บริสุทธิ์” เสียงนี้สลับกันจนไม่เหลือช่องว่างของความเงียบเลยสักนิด
บัดนี้ข้าพเจ้ายิ่งเข้าใจความบริสุทธิ์ของพระองค์มากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก เข้าใจการแยกชั้นของความบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้นอีก พร้อมๆ กับความมั่นใจและความชื่นบานได้แทรกแซงเข้ามาแทนที่ใจที่สลดหดหู่เมื่อครั้นไปนรกหลายๆ รอบติดกัน เมื่อข้าพเจ้าเดินตามพระเยซูมาเรื่อยๆ ถึงปลายทาง… อัศจรรย์กับสิ่งที่อยู่เบื้องหน้า พาให้หัวเราะออกมาอย่างที่สุด นั่นคือภาพของคนจำนวนหนึ่งกำลังเต้นรำกันอย่างสนุกสนาน แลดูอบอุ่นและเปรมปรีดิ์ ปลอดภัย ในที่บริสุทธิ์นี้
พระเยซู : “อย่าลืมว่ายังมีอีกที่หนึ่งที่เป็นนิรันดร์แห่งความเปรมปรีดิ์ นั่นคือ เบื้องหน้าเจ้านี่เอง สวรรค์แห่งนี้” มันทำให้ข้าพเจ้ารู้สึกดีและชื่นบานไปด้วย เนื่องจากไปนรกมาติดๆ กันหลายครั้ง ความหดหู่ เศร้าใจกลับเป็นความยินดีอย่างที่สุด
24/01/2014 20:42