โลทใช้ชีวิตของตนท่ามกลางคนบาปชั่ว นับถือรูปเคารพ ทำผิดศีลธรรมทางเพศ
ชีวิตของโลทฝักใฝ่และปรารถนาสิ่งของบนโลกมากกว่าอาณาจักรพระเจ้า แม้พื้นฐานชีวิตของโลทจะได้รับประสบการณ์ ได้รู้ ได้เห็นสิ่งที่พระเจ้าทรงทำและทรงเป็นอย่างมากมาย ผ่านอับราฮัมชายผู้รักและเชื่อฟังพระเจ้าอย่างสุดซึ้ง… แต่ถึงกระนั้นโลทก็มีความปรารถนาด้านเนื้อหนังอย่างแรงกล้า ปรารถนาและชื่นชอบสิ่งยั่วเย้าของโลก
ปฐก.13:8-13
8 อับรามจึงพูดกับโลทว่า “ขออย่าให้เราและคนเลี้ยงสัตว์ของเราทะเลาะกันเลย เพราะเราเป็นญาติสนิท
9 ที่ดินทั้งหมดอยู่ตรงหน้าเจ้าไม่ใช่หรือ? ขอให้เจ้าแยกไปจากเราเถิด ถ้าเจ้าไปทางซ้ายเราก็จะไปทางขวา หรือเจ้าจะไปทางขวา เราก็จะไปทางซ้าย”
10 โลทเงยหน้าแลดูที่ลุ่มของแม่น้ำจอร์แดนทั้งหมด เห็นว่ามีน้ำบริบูรณ์อยู่ทุกแห่ง (นี่เป็นสภาพก่อนพระยาห์เวห์ทรงทำลายเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์) เหมือนพระอุทยานของพระยาห์เวห์ เหมือนแผ่นดินอียิปต์ ในทิศที่จะไปทางเมืองโศอาร์
11 โลทจึงเลือกที่ลุ่มทั้งหมดของแม่น้ำจอร์แดน โลทออกเดินทางไปทิศตะวันออก ญาติสนิททั้งสองจึงแยกกันไป
12 อับรามอาศัยอยู่ในแผ่นดินคานาอัน ส่วนโลทอาศัยอยู่ท่ามกลางเมืองต่างๆ ในที่ราบ และย้ายเต็นท์ไปตั้งถึงเมืองโสโดม
13 ผู้ชายเมืองโสโดมเป็นคนชั่วร้าย ทำผิดบาปต่อพระยาห์เวห์มาก
ในขณะที่โลทมีโอกาสและสิทธิในการเลือกดินแดนก่อน …เขาเลือกดินแดนที่มองดูว่าอุดมดี แม้จะเต็มไปด้วยบาป เขาก็สามารถปิดตาของตนให้มองข้ามมันไป เพื่อจะได้ครอบครองแผ่นดินนั้น … เป็นที่แน่นอนว่าเขาย่อมรู้จักเมืองนั้นเป็นข้อมูลเบื้องต้นเป็นแน่ เพราะการอยู่บริเวณนั้นย่อมมีการสื่อสารที่ถึงกัน เมืองใกล้เคียงย่อมรับรู้ถึงกันเป็นแน่ ไม่มากก็น้อย
เป็นการยากมากๆ ที่คนเราจะอยู่ท่ามกลางและแวดล้อมคนทำบาปชั่ว แล้วสามารถดำเนินชีวิตอย่างดี ไม่คล้อยตาม ไม่พลาดพลั้ง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อใจปรารถนาภายในฝักใฝ่ในสิ่งที่คนชั่วทำกันอย่างดาษดื่น (13)
แรกเดิมทีเดียวโลทไม่มีความตั้งใจที่จะเป็นเช่นเดียวกับคนโสโดม แต่เขาก็ไม่ได้ต่อต้าน ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองอยู่คนละพวกกับคนชั่วเหล่านั้น … โลทมองหาผลประโยชน์ที่ตนเองจะได้รับหรือเก็บกินจากคนเหล่านั้น โดยละเลยผลแห่งความบาป ไม่สนใจที่จะรักษาทางชีวิตของตนให้ดี ให้บริสุทธิ์และชอบธรรม หย่อนยานในวิถีทางชีวิตเพื่อให้คล้อยตามกับคนเหล่านั้น
.
.
.
วันเวลาเคลื่อนผ่านเลยไป…
ทั้งโลทและอับราฮัมต่างใช้ชีวิตของตน ตามวิถีทางที่เลือก
อยู่มาวันหนึ่งเสียงร้องทุกข์ กล่าวโทษเมืองโสโดมมาถึงพระเจ้า และถึงเวลาแล้วที่พระเจ้าจะลุกขึ้นตัดสินโทษนั้น
ปฐก.18:20-21
20 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงร้องกล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก
21 เราจะลงไปดูว่าพวกเขาทำผิดจริงตามคำร้องที่มาถึงเรานั้นหรือไม่ ถ้าไม่ เราก็จะรู้”
ด้วยพระลักษณะแห่งความยุติธรรมและให้โอกาสของพระเจ้า ทำให้ทรงควาญหาเหตุแห่งการปกป้องและรักษาโลทไว้ เพราะเขาเป็นคนของพระเจ้าท่ามกลางคนชั่วร้าย และความชั่วช้าต่ำทราม… ทรงมองเห็นอับราฮัมชายผู้รักษาชีวิตอย่างชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้า ทรงพบว่าพระสัญญาในการรักษาลูกหลานของผู้ชอบธรรมนั้นมีต่ออับราฮัมผู้นี้
ปฐก.18:19
19 เพราะเราเลือกเขาแล้ว เพื่อเขาจะได้กำชับลูกหลาน และครอบครัวที่สืบต่อมาของเขา ให้รักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ ให้ทำความชอบธรรมและความยุติธรรม เพื่อพระยาห์เวห์จะประทานแก่อับราฮัม ตามที่พระองค์ตรัสไว้แก่เขา”
พระเจ้าไม่ทรงรอช้า เสด็จไปพบอับราฮัม ก่อนจะตัดสินโทษเมืองโสโดมแสนต่ำทรามที่มีคนของพระเจ้าอยู่ด้วย…
ปฐก.18:16-33
16 แล้วบุรุษเหล่านั้นก็ลุกออกจากที่นั่น มองไปทางเมืองโสโดม และอับราฮัมก็เดินไปส่งพวกเขา
17 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เราจะซ่อนสิ่งซึ่งเราจะทำนั้นไม่ให้อับราฮัมรู้หรือ?
18 แน่ทีเดียวอับราฮัมจะเป็นประชาชาติใหญ่โตและมีกำลังมาก และประชาชาติทั้งหมดในโลกจะได้รับพรก็เพราะเขา
19 เพราะเราเลือกเขาแล้ว เพื่อเขาจะได้กำชับลูกหลาน และครอบครัวที่สืบต่อมาของเขา ให้รักษาพระมรรคาของพระยาห์เวห์ ให้ทำความชอบธรรมและความยุติธรรม เพื่อพระยาห์เวห์จะประทานแก่อับราฮัม ตามที่พระองค์ตรัสไว้แก่เขา”
20 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “เสียงร้องกล่าวโทษเมืองโสโดมและเมืองโกโมราห์นั้นดังเหลือเกิน และบาปของเขาก็หนักมาก
21 เราจะลงไปดูว่าพวกเขาทำผิดจริงตามคำร้องที่มาถึงเรานั้นหรือไม่ ถ้าไม่ เราก็จะรู้”
22 บุรุษเหล่านั้นจึงหันไปจากที่นั่นเดินไปยังเมืองโสโดม แต่อับราฮัมยังยืนเฝ้าเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์
23 อับราฮัมเข้ามาใกล้ ทูลว่า “พระองค์จะทรงทำลายผู้ชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรมหรือ?
24 สมมุติว่ามีคนชอบธรรมห้าสิบคนอยู่ในเมืองนั้น พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้น ไม่ทรงละเว้นเพราะเห็นแก่คนชอบธรรมห้าสิบคนที่อยู่ในเมืองนั้นหรือ?
25 ขอพระองค์อย่าทรงคิดทำเช่นนี้เลย อย่าทรงคิดที่จะฆ่าคนชอบธรรมพร้อมกับคนอธรรม ทำกับคนชอบธรรมอย่างเดียวกับคนอธรรม ขอพระองค์อย่าทรงทำเช่นนั้นเลย พระองค์ผู้พิพากษาสากลโลกจะไม่ทรงทำสิ่งที่ยุติธรรมหรือ?”
26 พระยาห์เวห์ตรัสว่า “ที่โสโดมถ้าเราพบคนชอบธรรมในเมืองห้าสิบคน เราจะละเว้นเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะเห็นแก่พวกเขา”
27 อับราฮัมทูลตอบว่า “ขอทรงอภัยโทษที่ข้าพระองค์บังอาจทูลต่อองค์เจ้านาย ข้าพระองค์ผู้เป็นเพียงผงคลีและขี้เถ้า
28 สมมุติว่าในห้าสิบคนนั้นขาดไปห้าคน พระองค์จะยังทรงทำลายเมืองนั้นทั้งเมืองเพราะขาดห้าคนหรือ?” และพระองค์ตรัสว่า “เราจะไม่ทำลาย ถ้าเราพบคนชอบธรรมสี่สิบห้าคนที่นั่น”
29 ท่านก็ทูลพระองค์อีกว่า “สมมุติว่าพระองค์ทรงพบสี่สิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำเพราะเห็นแก่สี่สิบคนนั้น”
30 ท่านจึงทูลว่า “ขอองค์เจ้านายอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์จะขอทูล สมมุติพระองค์ทรงพบเพียงสามสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำ ถ้าเราพบสามสิบคนที่นั่น”
31 ท่านทูลว่า “ขอทรงอภัยโทษที่ข้าพระองค์บังอาจทูลต่อองค์เจ้านาย สมมุติว่าทรงพบยี่สิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเพราะเห็นแก่ยี่สิบคนนั้น”
32 ท่านทูลว่า “ขอองค์เจ้านายอย่าทรงพระพิโรธเลย ข้าพระองค์ขอทูลอีกครั้งนี้ครั้งเดียว สมมุติว่า ทรงพบเพียงสิบคนที่นั่น” พระองค์ตรัสตอบว่า “เราจะไม่ทำลายเพราะเห็นแก่สิบคนนั้น”
33 เมื่อพระยาห์เวห์ตรัสกับอับราฮัมจบลงแล้ว พระองค์ก็เสด็จไป ส่วนอับราฮัมก็กลับไปที่ของเขา
และนี่คือ จุดเริ่มต้นของคนๆ หนึ่งที่รักษาชีวิตของตนต่อพระพักตร์พระเจ้าไปวันๆ อย่างสัตย์ซื่อ… ผลของการรักษาชีวิตนั้น สามารถทำอะไรได้มากมายในวันที่พระเจ้าลุกขึ้น
ผลของการรักษาชีวิตอย่างสัตย์ซื่อ
1. เป็นที่ระลึกถึงของพระเจ้า
- พระเจ้าระลึกถึงอับราฮัม เพื่อช่วยโลทผู้เป็นหลาน… โลทผู้หลงลืมพระเจ้าและมิได้รักษามรรคาของพระองค์อย่างดี กลับได้รับการวิงวอนเพื่อเขาจากปากของอับราฮัมผู้อยู่ห่างไกลด้วยระยะทางและกาลเวลา
- อับราฮัมทูลต่อรองและร้องขอเพื่อโสโดม เพราะโลทผู้เป็นหลานชายของเขาอยู่ที่นั่น… พระเจ้าทรงให้ตามคำขอของอับราฮัมทุกประการ เนื่องจาก
>> เพราะ… พระองค์มองหาหนทางช่วยและให้โอกาสคนของพระองค์อยู่แล้ว แม้เขาจะหลงลืมพระเจ้าไปก็ตาม
>> เพราะ… พระเจ้ารักษาพระสัญญาของพระองค์ต่ออับราฮัมผู้ชอบธรรม
>> เพราะ… ชีวิตของอับราฮัมสมควร ได้รับการอวยพร ทรงฟัง ทรงชันสูตรมองดูที่อับราฮัม จึงช่วยโลทเพื่อเห็นแก่ความชอบธรรมของอับราฮัม เพื่อเห็นแก่ชีวิตที่สัตย์ซื่อมาตลอดของอับราฮัม เพราะ ทรงฟังคำร้องทูลของอับราฮัม… หาใช่ความดีสักนิดของโลทไม่ แม้โลทจะไม่มีความสัตย์ซื่อและชอบธรรมนั้นเลยก็ตาม แม้โลทจะไม่สมควรได้รับก็ตาม แต่ทรงเห็นแก่อับราฮัม
2. ขอบเขตชีวิตส่งผลต่อครอบครัวและคนใกล้ชิดด้วย
- แม้โลทจะมีชีวิตที่ไม่สมควรต่อการช่วยกู้ของพระเจ้า เพราะการหลงลืมพระคุณและใช้ชีวิตอย่างดาษดื่นกับความบาปชั่ว สิ่งที่พระเจ้ารังเกียจ…
- แต่เพราะทรงเห็นแก่อับราฮัม จึงเหลือทางนั้นสำหรับโลท
3. การเปิดเผยจะมาถึง
- เพราะพระเจ้าจะไม่ปิดซ่อนสิ่งต่างๆ จากผู้ที่รักษาชีวิตเป็นอย่างดี
พระเจ้ารักโลทเสียเหลือเกิน
1. การรักษาชีวิตให้บริสุทธิ์ชอบธรรมอย่างสัตย์ซื่อ จะเป็นเกราะป้องกันตัวเองและครัวเรือน ในวันยากลำบาก และวันที่พระเจ้าลุกขึ้นจะทางระลึกถึงเรา
2. ในกรณีของโลท หากไม่มีอับราฮัมแล้ว เขาคงรับผลไม่ต่างจากคนโสโดมเลยสักนิด… ในชีวิตของเรา จะมีใครสักคนหรือไม่? ที่เป็นเหมือนอับราฮัม ร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อเรา ด้วยคุณสมบัติชีวิตของเขาเป็นที่พระเจ้าเห็นแก่เขาเพื่อเรา… ดังนั้นจงเห็นคุณค่าของคนที่ร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อเรา เพราะคำร้องทูลของเขาส่งผลให้พระเจ้าฟัง และช่วยกู้เรา
3. ในขณะที่โลทใช้ชีวิตอย่างหละหลวม เพลิดเพลินกับบาป รักษาชีวิตแค่เพียงให้ขึ้นชื่อว่า “เป็นคนของพระเจ้า” แต่กลับมีชีวิตที่ไม่ต่างจากคนโสโดมเลยสักนิด… ดูเหมือนหย่อนยานได้ ผ่อนคลายอย่างหละหลวม ไม่เห็นต้องใส่ใจกับอะไรเล็กๆ น้อยๆ หรือใหญ่โตกับบาปในแต่ละวันเลย… แน่นอน ณ เวลานั้น ณ ตอนนั้น สบายเหลือเกิน
ในขณะที่อับราฮัม บางครั้งดูเหมือนจะถูกหมิ่นจากบรรดาคนที่ดำเนินชีวิตตรงข้ามกับเขา แต่อับราฮัมยังคงรักษาไว้ซึ่งความชอบธรรมต่อพระพักตร์พระเจ้าเป็นอย่างดี อย่างสัตย์ซื่อ … บางครั้งเขาต้องละสิทธิที่โลกให้ บางเวลาอาจต้องอดทนมากกว่าปกติ ยอมสวนกระแสโลกแห่งบาป เพื่อรักษาทางชอบธรรมไว้ให้ได้…แต่ผลได้ปรากฏให้เห็นอย่างเด่นชัดและแตกต่างโดยสิ้นเชิงในวันที่พระเจ้าทรงลุกขึ้นเป็นแน่นอน
4. พระเจ้าช่างรักโลทเสียเหลือเกิน … ทรงควาญหาทุกช่องทางในการให้โอกาสและช่วยกู้โลท
แม้หลายครั้งชีวิตเราไม่ได้เข้มแข็งและเข้มงวดในการรักษาชีวิตของตนเป็นอย่างดี แต่เชื่อเถิดว่า… พระเจ้ารักเราเสียเหลือเกิน จะทรงควาญหาทุกช่องทางในการให้โอกาสแก่เรา เว้นเสียแต่ทรงควาญหาแล้ว…แต่ไม่พบทางใดเลย เหตุนี้เองจงอย่าทำร้ายอับราฮัม ผู้ที่ร้องทูลต่อพระเจ้าเพื่อเรา เพราะใครจะรู้ ว่า… วันที่พระเจ้าลุกขึ้น หากเราไม่ใช่อับราฮัม แต่เป็นโลท …ไม่ว่าอย่างไรก็ต้องการความช่วยเหลือจากคำพูดร้องทูลเล็กๆ ของอับราฮัมอยู่ดี
5. การรักษาชีวิตเป็นอย่างดี เป็นเรื่องที่ส่งผลต่อตนเอง ครัวเรือน คนที่รักของเรา และทุกสิ่งที่เกี่ยวข้องกับเราเป็นอย่างแน่นอน มันจะไม่สูญเปล่าบนโลกนี้ และในแผ่นดินสวรรค์เป็นแน่
6. ความอดทนที่สูงส่งและพระเมตตาของพระเจ้ามักนำเราสู่โอกาสแห่งการกลับใจใหม่และการช่วยกู้เสมอ แม้จะไม่สมควรก็ตาม
11/06/2015 12:00