นี่อาจเป็นคำถามที่คนหลายคนก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นจริงกับเรา เราต่างเคยมีประสบการณ์เคยล้มเหลวอยู่บ่อยครั้ง ทั้งที่พระคัมภีร์สัญญากับเราแล้วว่าแผนการณ์ของพระองค์เพื่อสวัสดิภาพไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ
แต่เหตุที่พระองค์ทรงยอมปล่อยให้เราได้ล้มลงบ้าง เพื่อจะได้มีช่วงเวลาที่เราได้คิดใคร่ครวญและตระหนักถึงจุดอ่อนของตัวเอง และกลับมาพึ่งพระคุณพระเจ้า..บางครั้งการได้ค้นพบจุดอ่อนหรือบางอย่างที่เป็นเส้นบางๆที่ซ่อนอยู่ในตัวเรา แม้ดูเหมือนไม่ได้มีผลอะไรมากกับการดำเนินชีวิตเลย แต่เมื่อเราได้ค้นพบและมองเห็นมันด้วยตัวเราเองโดยพระเจ้าเปิดเผยไม่ว่าจะทางใดก็ตาม มันก็ทำให้เราได้หยุดนิ่งและคิดสักนิดว่าเหตุใด? เราจึงเป็นเช่นนั้น …
แน่นอนไม่มีใครอยากมีจุดบกพร่อง แต่การยอมรับว่าเรามีจุดบกพร่องนั้นๆ อยู่จริง ทำให้เรามองเห็นพระคุณของพระเจ้าอย่างมากที่ทรงรักและยอมรับเรา แม้เรามีจุดด่างพร้อยเหล่านั้น ในขณะที่เรามองไม่เห็นแต่พระเจ้าทรงเห็น ในขณะที่เรามีและใช้อิสรภาพของเราอย่างถูกบ้างผิดบ้าง แต่พระองค์ทรงมองหาโอกาสเหมาะๆ ที่เราจะรับรู้และเข้าใจมัน อาจใช้ระยะเวลาช้านาน หรือเพียงเสี้ยวนาที อยู่ที่เราเองที่ยอมเปิดใจให้พระองค์ทำเพียงใด และยังเห็นถึงความรักที่ไม่ทรงปล่อยเลยแม้สิ่งเล็กน้อยให้ผ่านเลยไป เพราะทรงสนใจทุกรายละเอียดในการสร้างเราแต่ละวัน แต่ละเรื่อง แต่ละย่างก้าว เป็นความรักที่อดทนนาน… ♥ ♥ ในขณะที่เราไม่รู้ตัวในจุดบกพร่องนั้นของเรามาก่อนเลยหรือในขณะที่เราเองก็ไม่แคร์ในจุดนั้นด้วยซ้ำ..
การได้มองเห็นสิ่งบางๆ ที่ดูเหมือนไม่ได้มีผลอะไรมากมายในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า และในการดำเนินชีวิตปกติของเรา แต่มันเป็นสิ่งที่สะท้อนความรักของพระเจ้าในมุมของการให้เกียรติเรา
☺ พระเจ้าไม่ได้เร่งเร้าที่จะเอาเสี้ยนหนามทุกอันออกจากเราในคราวเดียวกัน
☺ พระองค์ไม่ได้ตอกย้ำให้เรารู้สึกถึงความย่ำแย่แห่งความไม่สมบูรณ์ในตัวตนของเรา
☺ พระองค์ไม่ได้พร่ำบ่นให้เราเบื่อหน่ายและโดนกดดัน
☺ แต่ทรงให้อิสระและเสรีภาพในการใช้ชีวิตไปพร้อมๆกับเส้นบางๆนั้น แต่เมื่อถึงเวลาหนึ่งที่เราเองก็ตระหนักได้ว่า มันเป็นความผิดปกติ ที่ความคลุมเครือเกิดขึ้นในสิ่งที่เรียกว่าเส้นบางๆนั้น
อะไรคือ เส้นบางๆนั้น?
เส้นบางๆที่ว่านั้นอาจดูไม่ใช่ความบาปหนักหนาอะไรที่เห็นได้ชัด วัดได้จริง แต่มันจะสัมผัสได้แบบรู้อยู่แก่ใจว่าไม่เคียร์ 100% การที่สามารถตรวจสอบและหยั่งรู้ถึงความคิดภายในจิตใจของตนเองได้นั้น แสดงว่าเรามาถึงจุดที่วางความอับอายของตัวเองลง แต่เลือกและพร้อมจะเข้าสู่การกลับใจใหม่มากกว่า…ในเมื่อมันไม่ใช่อะไรที่บาปหนักหนา ทำไมเราต้องกลับใจด้วยหรือ?? ก็เพราะการกลับใจนำมาซึ่งการชำระล้างให้สะอาดและบริสุทธิ์ยิ่งๆ ขึ้น ส่วนที่ขาดจาก 100% นั่นแหละคือส่วนที่เราต้องการการชำระจากพระเจ้า ส่วนที่หายไปนั่นแหละคือส่วนที่เราต้องการพระคุณของพระองค์มากู้เรา ไม่ใช่เพื่อจะบอกใครต่อใครได้ว่าเราสมบูรณ์แล้ว แต่เพื่อเราจะใกล้พระองค์มากขึ้นต่างหาก
ดังนั้นเมื่อเราต้องตกอยู่ในสภาวะที่ต้องตรวจสอบตัวเอง !!!อย่ากลัวว่าทำไมเราเป็นแบบนี้!!! เพราะพระเจ้าไม่ได้จะเอาเรื่องเรา แต่ทรงแค่ต้องการให้เรารู้เพื่อวัดใจเราว่า… เราจะมอบมันให้พระองค์หรือเก็บมันไว้กับตัวต่อไป ,,, หากเรามอบให้พระองค์เราอาจหน้าแตกหรือรู้ตัวว่าความภูมิใจถูกพังลง แต่มันก็แค่เรากับพระเจ้าเท่านั้น พระองค์ไม่บอกใครต่อใครให้เราเสียหน้าและเสียหาย แต่หากเราเลือกที่จะเมินมันไปซะก็คือการเก็บมันไว้อยู่กับตัวนั่นเอง การล้มเหลวครั้งนั้นจะเป็นการพ่ายแพ้ในทันที ที่เราแพ้คือตัวเอง…แต่หากเรามอบถวายให้พระเจ้าความล้มเหลวนั้นมาถึงจุดจบแล้ว เพราะต่อแต่นี้ไปฉันจะชนะ
221212