ลก.9:1-6
9:1 พระองค์ทรงเรียกสาวกสิบสองคนของพระองค์มาพร้อมกัน แล้วทรงประทานให้เขามีอำนาจและสิทธิอำนาจเหนือผีทั้งปวงและรักษาโรคต่าง ๆ ให้หาย
9:2 แล้วพระองค์ทรงใช้เขาไปประกาศอาณาจักรของพระเจ้า และรักษาคนเจ็บป่วยให้หาย
9:3 พระองค์จึงตรัสสั่งเขาว่า “อย่าเอาอะไรไปใช้ตามทาง เช่น ไม้ตะบอง หรือย่าม หรืออาหาร หรือเงิน หรือเสื้อคลุมสองตัว
9:4 และถ้าเข้าไปในเรือนไหน จงอาศัยอยู่ในเรือนนั้นจนกว่าจะไป
9:5 ผู้ใดไม่ต้อนรับพวกท่าน เมื่อท่านจะไปจากเมืองนั้น จงสะบัดผงคลีดินจากเท้าของท่านออกส่อให้เห็นความผิดของเขา”
9:6 เหล่าสาวกจึงออกไปตามเมืองต่าง ๆ ประกาศข่าวประเสริฐ และรักษาคนเจ็บป่วยทุกแห่งให้หาย
ถ้าทรงใช้ จะเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราเอง
เมื่อพระเจ้าใช้เราออกไปย่อมเจิมด้วยสิทธิอำนาจที่ให้ออกไป เทียบเท่ากับพระเยซูทรงทำเอง อันเนื่องมาจากพระเยซูทรงทำเองผ่านตัวเรา แท้จริงมนุษย์ไม่ได้มีสิทธิอำนาจนั้น เว้นเสียแต่พระเยซูที่ทรงทำในตัวเราต่างหาก เหตุนี้พระองค์จึงตรัสสั่งห้ามเราจัดเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อตนเอง เนื่องจากเราจำเป็นต้องพึ่งพาพระเจ้า จำเป็นต้องให้พระเจ้าเป็นที่พึ่งเดียวของเรา
~ ไม่ใช่สิ่งที่เรามี = เสื้อผ้า อาหาร
~ ไม่ใช่สิ่งที่โลกนี้ให้ = เงินทอง
~ ไม่ใช่ความสามารถ = ไม้เท้า
แต่จะทรงจัดเตรียมทุกสิ่งไว้ให้กับเราเบื้องหน้า
~ คนที่จะสนับสนุนเรา ทั้งอาหาร ที่พัก >> ห้ามเข้าบ้านนู้นออกบ้านนี้ = ให้อยู่กับคนที่พระเจ้าจัดเตรียมเท่านั้น อย่าโลภด้วยความต้องการทางกายภาพ เห็นว่าคนอื่นดีกว่าจึงพึ่งพา อย่าเอาความปรารถนาของตนเองไปวางพึ่งที่ผู้อื่นด้วยการไปอาศัยขอความช่วยเหลือด้วยสายตาที่คิดว่าเขาจะช่วยได้ … แต่พระเจ้าได้จัดเตรียมแล้ว และเพียงพอต่อเราเป็นแน่ …
*** จงอยู่กับสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมเท่านั้น ห้ามโลภมากอยากได้ด้วยการเปรียบเทียบ เปลี่ยนไปมาตามความต้องการของตนเอง เพราะเมื่อเราจากมาการอวยพรจะตกอยู่กับผู้ที่พระเจ้าใช้เขาให้มาสนับสนุนเรา เพราะเขาก็ทำตามพระเจ้าตรัสกับเขาด้วยเช่นกัน แต่หากเขาไม่ต้อนรับ = เขาไม่ตอบสนองพระเจ้าก็จงสะบัดผงคลี = อย่าไปเสียดาย อย่าแช่งสาป อย่าเสียใจ เพราะพระเจ้าจะจัดเตรียมสิ่งใหม่ให้เอง การสะบัดผงคลีแสดงถึงการไม่มีส่วนรับผิดชอบใดๆ ในสิ่งที่เขาไม่ตอบสนองพระเจ้าของเขาเอง จำเป็นต้องไปถึงบ้านคนนี้ก่อน แม้เขาจะไม่ต้อนรับ = เป็นการเปิดโอกาสให้เขาตอบสนองพระเจ้าของเขาเอง เราไม่มีสิทธิตัดสิทธิของคนอื่นในการตอบสนองพระเจ้าของเขา เมื่อเราก้าวตามพระเจ้า ในขณะที่อีกฝ่ายก้าวตามพระเจ้าของเขาด้วย = การอวยพระพรย่อมไปถึงที่ผ่านสิ่งที่ทำ
ถ้าทรงใช้ จะเตรียมสิ่งต่างๆ เพื่อเราเอง
1. เมื่อพระเจ้าใช้เราออกไปนั่นแสดงว่าเรามีสิทธิอำนาจเต็มเปี่ยมด้วยพระองค์ทรงทำด้วยพระองค์เองผ่านเรา … เราหาใช่มีส่วนในการทำสิ่งนั้นๆไม่ แต่พระเจ้าจะทำได้มากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่ที่เราให้ทรงทำผ่านได้ขนาดไหนต่างหาก
2. จงพึ่งพาพระเจ้าแต่นามเดียว อย่าได้คิดหาที่ยึดเหนี่ยว หรือพึ่งพากำลังใดๆ ของตนเองหรือโลกนี้เลย เพราะมันจะทำให้เราไม่สามารถถวายเกียรติแด่พระเจ้าได้อย่างแท้จริง … โดยปกติธรรมชาติของมนุษย์มักอยากปันส่วนผลงานที่ดีที่ชอบไว้กับตนเอง เหตุนี้พระเจ้าจึงไม่ให้เรามีเหตุอันใด ในการยึดเกียรติไว้ เพื่อปกป้องเราไม่ให้พลาดเพราะความหยิ่งตามธรรมดาโลก เพื่อการถวายเกียรติแด่พระเจ้าจะเป็นไปอย่างง่ายๆ และหมดใจ ไม่เหลือข้อกังขา หรือติดค้างใดๆ
3. เป็นดั่งวัฏจักรการดำเนินชีวิตของเราแต่ละคนกับพระเจ้าเอง… เมื่อพระเจ้าใช้ให้เราทำสิ่งใด หรือมอบสิ่งใดให้กับเรา แล้วเราตอบสนองในส่วนตัวเองแต่ละคน เมื่อนำมาประกอบรวมกัน มันจะครบวงจรเป็นอย่างดีสมบูรณ์แบบ เพราะต่างก็เดินตามพระเจ้าของตนเอง เป็นความล้ำลึกในแผนการณ์และระบบของพระเจ้าที่เราไม่รู้ว่าความสัพพัญญูนั้น แต่เราจะได้รู้ ได้เข้าใจ เมื่อนำมาประกอบรวมกันเท่านั้น และเมื่อนั้นเราจะได้เห็นถึงความอัศจรรย์ของพระเจ้าถูกเปิดออกเอง
4. ใครก็ตามที่ตอบสนองพระเจ้าของตนเอง ไม่ว่าจะส่วนใดก็ตามเบื้องหน้าเบื้องหลัง ส่วนใดของแผนการณ์พระเจ้าก็ตาม ย่อมได้รับพระพรอย่างเต็มล้นเป็นแน่ ประเด็นอยู่ที่เราตอบสนองพระเจ้าในสิ่งที่ทรงใช้และให้กับเราต่างหาก
~ ไม่ขึ้นอยู่กับว่าอยู่ตรงไหน
~ ไม่ขึ้นอยู่กับว่าเบื้องหน้าหรือเบื้องหลัง
~ ไม่ขึ้นอยู่กับว่าจะมีใครรู้หรือไม่
~ ไม่ขึ้นอยู่กับว่าเล็กหรือใหญ่
แต่เพียงแค่ตอบสนองพระเจ้าตามส่วนของตนเอง ย่อมได้รับอย่างไม่ขาดเลยแม้แต่น้อย
03/04/2014 11:50