ความแตกต่างของการบ่นกับการระบาย

By | 2013/11/27

หลายคนอาจสงสัยว่า การบ่นกับการระบายต่างกันอย่างไร??

การบ่น มักเป็นการพูดแง่ลบ เพื่อพ่นหรือระบายเอาสิ่งไม่ดีออกมา สิ่งที่ไม่ได้ดั่งใจ สิ่งที่ไม่พึงพอใจออกมา ซึ่งคนที่บ่นมักไม่ได้ต้องการอะไร นอกจากการได้พูดออกไป ใครก็ได้ที่พอจะบ่นออกไปได้ ไม่ต้องการความช่วยเหลือ ไม่ต้องการการแก้ไขหรือพัฒนา ไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น นอกเสียจากขอให้ได้บ่นๆๆๆๆ ไม่คิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเอง มองไม่เห็นจุดที่ตัวเองยืน มองไม่เห็นสภาพแวดล้อมความเป็นจริง มีแต่สิ่งที่ตัวเองต้องการเท่านั้นเป็นหลัก ดังนั้น อะไรก็ตามขัดใจ ขัดจากความต้องการก็จะบ่นๆๆๆๆ และมักพานไปถึงคนอื่นและในที่สุดก็ต่อว่าพระเจ้า เช่น อิสราเอลบ่นที่ไม่มีน้ำกิน ต่อว่าโมเสส ต่อว่าพระเจ้าว่าพาออกมาจากอียิปต์ทำไม … คนขี้บ่นมักขุดเรื่องทุกเรื่องมาโยงใยกันให้มั่วไปหมด ที่เคยขอบคุณพระเจ้าไปแล้ว เมื่อถึงเวลาบ่นกลับต่อว่าพระจ้าเฉยเลย ที่เคยเห็นการช่วยกู้ของพระเจ้าไปแล้ว พอถึงจุดไม่ได้ดั่งใจก็ไม่มีอะไรดีนอกจากตัวเอง

#‪#‎ข้อสังเกต‬‬‬ คนขี้บ่นมักต่อว่าสิ่งรอบตัว โดยละเว้นตัวเอง หรือเลือกไม่พูดถึงตนเองหากรู้ว่าสิ่งที่ตนบ่นนั้นมีสาเหตุมาจากการรับผลของตนเอง คนขี้บ่นไม่ต้องการความยากลำบากเลย และอยู่ร่วมกับมันไม่ได้เลย ซึ่งสะท้อนถึงระดับความอดทนที่ต่ำ

แต่การระบาย….
นั้นแตกต่าง แม้ดูภายนอกจะละม้ายคล้ายๆกันบ้าง

การระบาย …. เป็นการแสดงความเป็นตนเอง และบ่งบอกตัวตนของตนเองออกมา ว่าในขณะนั้นเราเป็นอย่างไร สิ่งที่เราเผชิญอยู่เป็นอย่างไร เรารู้สึกอย่างไร ไม่ชอบ ไม่ไหว อย่างไร เช่น อ่อนแอก็ร้องไห้ เหนื่อยก็อยากพัก ป่วยก็หมดแรง…เป็นต้น การระบายมักต้องการทางออก ต้องการทางแก้ไข ความช่วยเหลือ หากจะหาคนระบาย มักเลือกคนที่ไว้ใจและช่วยเหลือได้ ในขณะที่คนขี้บ่นไม่ได้ต้องการคนที่ช่วยเหลือได้ แค่บ่นไปก็พอ ซึ่งการระบายไม่ใช่ว่าจะเป็นแง่ลบในทุกครั้งไป แต่การบ่นจะลบในทุกครั้ง

## ข้อสังเกต การระบาย มักพูดถึงสิ่งที่ตนเองรู้สึก ไม่ใช่การชี้ให้เห็นว่ารอบตัวไม่มีอะไรดีเลย ทำให้คนที่ระบายปรารถนาหนทางในการอยู่ท่ามกลางความยากลำบากให้ผ่านพ้นไปได้

พระเจ้าพอพระทัยกับบรรดาผู้เข้ามาหาพระองค์ด้วยการระบาย เพราะนั่นหมายถึงเราเลือกที่จะให้พระองค์เป็นผู้ช่วยเหลือเรา แต่ไม่พอพระทัยกับพวกขี้บ่นเพราะพวกนี้ต้องการชี้ผิดไปที่คนอื่น นั่นแสดงว่าความหยิ่งผยองมากล้นในขณะที่ไม่มีอะไรจะอวดได้เลย

** การบ่นกับการระบายก็ต่างกันอีก ศึกษาได้ คือ บ่น ให้อ่านอิสราเอลที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร ระบายให้อ่านสดุดีที่ดาวิดระบายกับพระเจ้า

ดังนัันเราต้องระมัดระวังในการรักษาชีวิตไม่ให้บ่น แต่เราควรระบายความในของเรากับผู้ที่กู้เราได้ เช่นพระเจ้า หรือผู้นำ หรือเพื่อน ที่สามารถช่วยชี้แนะเราได้ หากเราระบายกับคนช่างพูด เรื่องของเราก็จะเป็นที่โจษจันและโด่งดังด้วยการบอกต่อโดยไม่รู้ตัว

หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าตนเองกำลังระบายกับพระเจ้า แต่แท้จริงคือบ่นแล้วบ่นอีก คำอธิษฐานที่เฝ้ารอคอยการอวยพรก็มาไม่ถึงเสียที เพราะเหตุนี้เราจึงต้องขอพระเจ้าเปลี่ยนใจใหม่ วิถีใหม่ให้แก่เรา เพราะเรามีเนื้อหนัง พระเจ้าจึงมีทางให้เราระบาย แต่เนื้อหนังบาปทำให้เราบ่น เข้าหาพระเจ้าถูกทาง เข้าใจน้ำพระทัยพระเจ้า … มีหรือ??? บิดาจะไม่ให้สิ่งดีต่อบุตร พระเจ้าจะไม่ให้สิ่งดีต่อเราได้หรือ ????

190713

0Shares