เป็นที่รู้กันอยู่แก่ใจของบรรดาผู้เชื่อว่า เราทุกคนต่างรอคอยวันเวลาที่จะได้กลับสู่สวรรค์สถาน สถานที่นิจนิรันดร ที่เต็มไปด้วยความสุขแท้ชนิดที่ความเศร้าโศกใดๆ ไม่สามารถปรากฏได้ และที่สำคัญที่นั่นเราจะได้อยู่ต่อหน้าบัลลังก์ขององค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา และในบางเวลาพระเจ้ามักส่งสถานการณ์ต่างๆ ให้เราได้ฝึกฝนวิถีแห่งการรอคอยการเสด็จกลับมาของพระองค์
การรอคอย
1. เฝ้ารอคอยด้วยใจจดใจจ่อ
- การที่คนเราจะใจจดจ่อได้นั้น นั่นหมายถึง สิ่งนั้นต้องมีความสำคัญต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง มีความปรารถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้มาหรือครอบครองซึ่งสิ่งที่รอคอย
- การรอคอยนั้นไม่ได้หมดไปวันๆ แต่เป็นการเฝ้ารอคอยด้วยความหวังใจและเชื่อเสมอว่า วันนั้นจะมาถึงโดยเร็ว วันนั้นจะมาถึงในไม่ช้า เป็นความสดชื่นที่หวนระลึกถึงอย่างไม่สั่นคลอน
2. ไม่รู้วันเวลา
- การเฝ้ารอคอยบางอย่างเราก็ไม่รู้วันเวลาเอาเสียเลย ว่ามันจะมาถึงวันไหน? เวลาใด? กันแน่…. แต่เราแน่ใจ มั่นใจในพระองค์ที่เราเชื่อว่า จะทรงมอบให้ ประทานให้เราเป็นอย่างแน่นอน
- ซึ่งการเฝ้ารอคอยอย่างไม่รู้วันเวลานี้เป็นการกระตุ้นให้ความเชื่อยิ่งมั่นคงและหนักแน่นมากยิ่งขึ้น เพราะมันเป็นบทพิสูจน์ความวางใจ ความเชื่อใจที่เรามีต่อองค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
- แน่นอน!! ที่พระองค์ไม่เคยเปลี่ยนแปลง พระองค์ไม่ผิดพลาด ดังนั้นสิ่งที่ทรงสัญญาย่อมจะมาถึงอย่างแน่นอน เพียงแค่เราไม่รู้ว่าวันไหนเวลาใด แต่มันจะมาอย่างกระทันหัน ดังนั้นเรา จึงต้องรอคอยแบบเฝ้าระวัง แบบพร้อมจะรับเสมอ ไม่ว่าจะเวลาใดก็ตาม เมื่อเวลานั้นมาถึง จะไม่มีเวลาสำหรับการจัดแจง การเตรียม หรือยืดเยื้ออีกต่อไป
3. เฝ้าระวังและรักษาชีวิตเป็นอย่างดี
- ในระหว่างการเฝ้ารอคอยนั้น เราจำเป็นต้องเฝ้าระวังและรักษาชีวิตเป็นอย่างดี เพื่อไม่ให้เปลี่ยนทิศหรือเป้าหมายในระหว่างรอคอย เนื่องจากการรอคอยเป็นการรอ ในสิ่งที่จะเกิดขึ้นจริงในอนาคต (ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้รับ หรืออาจยังมองไม่เห็นแม้แต่วี่แวว)
- นอกจากความเชื่อแล้ว ความมั่นคงก็เป็นสิ่งที่เราต้องยึดไว้ บางครั้งความอดทนที่ไม่เพียงพอทำให้เรายอมละทิ้งเป้าหมายและรับเอาสิ่งที่อยู่ตรงหน้าที่สามารถฉวยได้เลยในทันที ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นการรอคอยนั้นก็นับว่าล้มเหลว เพราะแทนที่เราจะได้รับสิ่งที่พระเจ้าจัดเตรียมไว้สำหรับเรา ก็กลับจะได้รับสิ่งที่ผ่านเข้ามาเพื่อล่อให้หลงไป
- ดังนั้นการรักษาชีวิตและเฝ้าระวังชีวิตอยู่สม่ำเสมอ จะทำให้เราลดอัตราความเสี่ยงในการหลงไป เมื่อพระเจ้ามอบพระสัญญาให้กับเรา พระองค์จะให้อย่างชัดเจน แปลว่าเป้าหมายของเราย่อมชัดเจนตั้งแต่ก่อนเริ่มต้นการรอคอยนั้นแล้ว
- แต่หากระหว่างการรอคอยนั้นเราไม่ได้เฝ้าระวังอย่างดี ด้วยวิถีรอบข้างที่เต็มไปด้วยการล่อให้หลง เหตุผลจอมปลอม หรือแม้แต่คนอื่นที่มีให้เราเห็นและเปรียบเทียบ(ซึ่งมันผิดตั้งแต่เริ่มเปรียบเทียบแล้ว) มักจะบั่นทอนความอดทนด้านการรอคอยของเราเป็นแน่แท้ ดังนั้นการตั้งตาให้ตรงไปยังเป้าหมาย การรักษาชีวิตให้มั่น การเฝ้าระวังในทุกย่างก้าวจึงสำคัญอย่างยิ่ง
เมื่อพระเจ้าให้เรารอคอยในสิ่งใดๆ พระองค์ย่อมมอบให้เราอย่างแน่นอน หลายครั้งเรากลับลืมไปเสียด้วยซ้ำ แต่เมื่อถึงเวลานั้นพระองค์ผู้ทรงสัตย์ซื่อและสัตย์จริงจะมอบให้เราอย่างไม่บิดพลิ้ว และเราจะได้เห็นว่าพระเจ้าผู้ทรงรักษาพระสัญญาของพระองค์เป็นเช่นไร
ยก 5:7 เหตุฉะนั้นพี่น้องทั้งหลาย จงอดทนจนกว่าองค์พระผู้เป็นเจ้าจะเสด็จมา ดูเถิด ชาวนารอคอยผลอันล้ำค่าที่จะได้จากแผ่นดิน และเพียรคอยจนกระทั่งมีฝนต้นฤดูและฝนปลายฤดู
สดด 27:14 จงรอคอยพระเยโฮวาห์ จงเข้มแข็ง และพระองค์จะทำให้จิตใจของท่านกล้าหาญ เออ จงรอคอยพระเยโฮวาห์เถิด
สดด 33:20 จิตวิญญาณของเราทั้งหลายรอคอยพระเยโฮวาห์ พระองค์ทรงเป็นความอุปถัมภ์และเป็นโล่ของเรา
สดด 37:7 จงสงบอยู่ต่อพระเยโฮวาห์ และเพียรรอคอยพระองค์อยู่ อย่าให้ใจของท่านเดือดร้อนเพราะเหตุผู้ที่เจริญตามทางของเขา หรือเพราะเหตุผู้ที่กระทำตามอุบายชั่ว
24-04-2013