คริสเตียนแทบทุกคนเคยได้ยินคำว่า “การภาวนา” อยู่แล้ว แต่มีสักกี่คนที่สามารถทำได้จริง
ในสภาวะที่ไม่เอื้ออำนวยให้เรานั่งลงอธิษฐาน
ในเวลาที่ภารกิจต่างๆ รัดตัว จนไม่สามารถปลีกตัวเองออกมาได้
ในยามคับขันที่ไม่สามารถร้องทูลได้อย่างเป็นทางการ
ในระหว่างการดำเนินชีวิตประจำวัน
ในสถานที่ๆ ไม่คุ้นเคยหรือคล่องตัว
ในท่ามกลางผู้คนที่ดูเหมือนจะอยู่ฝ่ายตรงข้ามกลับเราอย่างสิ้นเชิง
.
.
.
เราทุกคนต่างต้องเผชิญหน้า กับวันเวลา สถานการณ์ รวมถึงผู้คน ที่ไม่อาจควบคุมทุกสิ่งให้สะดวกสบายดั่งใจนึกได้ จึงเป็นเรื่องปกติธรรมดาที่เราไม่อาจทำในสิ่งที่เราวาดไว้อย่างสมบูรณ์แบบได้
บางคนตีกรอบความคิดว่า … “พระเจ้าจะฟังคำร้องทูลของเราต่อเมื่อเรานั่งลงอธิษฐานในท่าสวยงามอย่างเพียบพร้อมเท่านั้น”
บ้างก็จำกัดพระเจ้าว่า … “ไม่ทรงเข้าใจในสิ่งที่เราเป็นและเผชิญอยู่” แต่ในขณะเดียวกัน ก็ต้องการการช่วยกู้จากพระเจ้า
*สิ่งเหล่านี้ล้วนแต่เป็นข้ออ้างในการไม่ได้เริ่มต้นอธิษฐานด้วยการภาวนาภายในเลยด้วยซ้ำ!!!
แท้จริงพระเจ้าทรงทอดพระเนตรเห็นและรู้ว่าเรากำลังเผชิญหน้ากับสิ่งใดอยู่ พระองค์ทรงยอมรับได้ และทรงรับรู้ถึงภายในด้วยการหยั่งลึกและชันสูตร ทรงมอบหนทางแก่เราด้วยการไม่จำกัดรูปแบบ หรือยึดติดรูปแบบ หรือกำหนดสิ่งต่างๆ ให้กับเราชนิดที่ยากเกินจะทำได้ แต่ทรงให้เราสามารถภาวนาและร้องทูลต่อพระองค์ได้ทุกเมื่อทุกเวลา ทุกสภาพการณ์ ทุกสถานที่
แต่คนจำนวนมากกลับละเลยและไม่ทำสิ่งที่แสนง่ายเหล่านี้ พยายามหาเหตุผลข้ออ้างว่า “ไม่มีเวลานั่งลงอธิษฐาน”“ไม่สามารถทำกิจกรรมที่เป็นรูปแบบเพื่อพระเจ้าได้เลย”
ดูเหมือนใจจะแสวงหาพระเจ้า แต่กลับละเลยและทอดทิ้งพระองค์โดยสิ้นเชิง และป้อนเหตุผลนาๆ ประการให้ตนเองดูดีด้วยความปรารถนาอยากจะเข้าหาพระเจ้าแต่สิ่งอื่นๆที่ควบคุมไม่ได้บีบคั้น
ในความเป็นจริงอีกด้านหนึ่ง หากเราตระหนักได้ว่า พระเจ้าทรงอยู่กับเรา พระองค์ไม่ได้เรียกร้องการไปที่แท่นบูชาพร้อมกับสัตว์เพื่อมาถวายที่วิหาร แต่ทรงประทานองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ภายในเรา แล้วเช่นนี้…
จะมีที่ใดหรือ? ที่เราไม่สามารถร้องทูล หรือภาวนาต่อพระองค์
จะมีเวลาใดหรือ? ที่เราไม่สามารถสนทนากับพระเจ้าได้
จะมีเหตุผลใดหรือ? ที่ยกขึ้นมาอย่างมีน้ำหนักได้ว่า “ไม่สามารถ”
พระเจ้าทรงรู้ตั้งแต่ก่อนที่เราจะร้องทูลนั้นเป็นเรื่องจริง แต่ก็ทรงปรารถนาให้เราเข้ามาร้องทูลความปรารถนาต่อพระองค์ด้วย
*** มีเพียงฟาริสีเท่านั้นที่มักจำกัดกรอบและขอบเขตต่างๆ ในการเข้าหาพระเจ้า จงอย่าจำกัดความสัมพันธ์ด้วยรูปแบบที่ตนเองคุ้นชิน ***
เพราะแม้งานยุ่ง เราก็สามารถภาวนาพระคำได้
แม้ภารกิจมาก เราก็สามารถสนทนากับองค์พระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่กับเราได้
แม้ไม่มีเรี่ยวแรง เราก็สามารถ เรียกนามพระคริสต์ได้
แม้เหน็ดเหนื่อยจนกระดิกตัวไม่ไหว เราก็สามารถพักสงบในพระเจ้าได้
แม้ไม่มีสถานที่สวยหรู หรือเพียบพร้อมอย่างที่บ้าน ที่คริสตจักร เราก็สามารถร้องทูลต่อพระองค์ได้
การภาวนาทำอย่างไร
ในขณะที่เปาโลภารกิจมากมาย เขาทำอย่างไร?
ในขณะที่โยเซฟถูกขังคุกเขาทำเช่นไร?
ในขณะที่พระเยซูถูกไต่สวน ทรงทำอย่างไร?
การภาวนา
วันนี้เราได้เริ่มต้นภาวนาแล้วหรือยัง??? ก่อนที่จะอ้างสารพัดเหตุผล!!!
บางทีอาจพบว่า … ก็แค่ยังไม่ได้เข้ามาหาพระเจ้าสักทีเท่านั้นเอง อย่าทำให้เรื่องง่ายๆ ที่องค์พระเยซูปลดปล่อยแล้ว เพื่อมอบแก่เราให้เป็นไท กลับกลายเป็นเรื่องยาก เพราะความไม่เอาหรือการไม่เริ่มต้นของตนเอง เพราะหนทางที่พระเจ้าประทานให้นั้นแสนง่ายดาย
2016-02-12