การชำระของพระเจ้าบนแผ่นดินโลกด้วยการให้น้ำท่วมโลก เป็นการชำระความบาปและมลทินให้ทุกส่วน ทุกชีวิต ทุกพื้นที่ บนแผ่นดินนี้ ถูกชำระให้บริสุทธิ์เป็นการล้างอย่างหมดจด ไม่เหลือส่วนที่เป็นมลทิน
แต่เนื่องจากพระเจ้าทรงสัญญากับโนอาห์ด้วยรุ้งว่า จะไม่ทำลายล้างเช่นนี้อีก
ปฐก.9:8-17
8 พระเจ้าจึงตรัสแก่โนอาห์และบุตรทั้งหลายว่า
9 “นี่แน่ะ เราเองเป็นผู้ตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้า และกับพงศ์พันธุ์ที่มาภายหลังเจ้า
10 และกับบรรดาสัตว์มีชีวิตที่อยู่กับพวกเจ้าด้วย ทั้งนกและสัตว์ใช้งานและสัตว์ป่าทั้งหมดที่อยู่กับพวกเจ้า จากสัตว์ทั้งปวงที่ออกจากเรือ คือสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในโลก
11 เราจะตั้งพันธสัญญาของเราไว้กับพวกเจ้าว่าจะไม่ทำลายมนุษย์และสัตว์ทั้งปวงโดยให้น้ำท่วมอีก และจะไม่ให้มีน้ำมาท่วมทำลายโลกอีกต่อไป”
12 พระเจ้าตรัสว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญา ซึ่งเราให้ไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้า และกับสัตว์มีชีวิตทั้งปวงที่อยู่กับพวกเจ้าสืบไปทุกชั่วอายุ
13 คือเราตั้งรุ้งของเราไว้ที่เมฆ และรุ้งนั้นจะเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาระหว่างเรากับโลก
14 เมื่อเราให้มีเมฆเหนือแผ่นดิน และมีรุ้งปรากฏขึ้นที่เมฆนั้น
15 เราจะระลึกถึงพันธสัญญาของเราที่ทำไว้ระหว่างเรากับพวกเจ้าและกับสิ่งที่มีชีวิต และสัตว์ทั้งปวง แล้วน้ำจะไม่ท่วมทำลายสัตว์ทั้งปวงอีกเลย
16 เมื่อมีรุ้งที่เมฆ เราจะดูรุ้งนั้น เพื่อระลึกถึงพันธสัญญานิรันดร์ระหว่างพระเจ้ากับสิ่งมีชีวิตและสัตว์ทั้งปวงซึ่งอยู่บนแผ่นดิน”
17 พระเจ้าตรัสแก่โนอาห์ว่า “นี่แหละเป็นเครื่องหมายแห่งพันธสัญญาที่เราได้ตั้งไว้ระหว่างเรากับสัตว์ทั้งปวงซึ่งอยู่บนแผ่นดิน”
วิธีการของพระเจ้าถูกเปลี่ยนไป เป็นการแยกออก จากเดิมพระองค์ชำระทั้งหมด ทำลายล้างทั้งสิ้นในสิ่งที่เป็นมลทินและเป็นความบาป แต่หลังจากเหตุการณ์ครั้งนั้น การชำระของพระเจ้า คือ การแยกออก เป็นการแยกส่วน เพื่อรับการชำระ ส่วนใดที่ถูกชำระแล้วจะถูกแยกออกจากส่วนเก่า
เช่น
- ชีวิตที่ถูกชำระจะต้องแยกตัวออกจากชีวิตเก่า
- คนที่ได้รับการชำระแล้ว จะต้องแยกตัวออกจากคนที่ไม่ได้รับการชำระ
- ส่วนที่ถูกชำระแล้ว จะถูกแยกออกจากส่วนที่ยังไม่ถูกชำระ
เหตุนี้เองพระเจ้าจึงเรียกร้องให้เราแยกตัวออก เพื่อเป็นของพระเจ้า
การชำระของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
การแยกตัวออก แบ่งออกเป็น 2 ประเภท
1. ตัดขาดจากสภาพเก่า เช่น หันหลังให้กับความบาปที่เคยกระทำ หันหลังให้กับสังคมที่อาจนำพาสู่ความบาปเดิมๆ
2. ยังคงอยู่ในสังคมนั้นๆ แต่ไม่สามารถมีส่วนร่วมหรือเกี่ยวข้องกับสิ่งที่พระเจ้ายังไม่ชำระ เช่น เมื่อพระเจ้าชำระเราแล้ว จากความบาปของโลกนี้ แม้ยังคงมีชีวิตและดำเนินอยู่บนโลกนี้ แต่ไม่สามารถมีส่วนร่วมในความบาปผิดที่พระเจ้าได้นำเราออกมาแล้ว ไม่ว่าจะทางตรงหรือทางอ้อม ต้องตัดสินใจแยกตนเองออกมาอย่างชัดเจนบนจุดยืนที่พระเจ้าชำระเราและแยกตนเองออก เพื่อเป็นของพระเจ้า
*** เป็นที่น่าเสียใจอย่างยิ่งที่คริสเตียนจำนวนมาก ไม่เข้าใจกันแยกตนเองออกเพื่อพระเจ้า ไม่ได้ตระหนักถึงการชำระให้บริสุทธิ์เพื่อพระเจ้าอย่างแท้จริง ซึ่งส่งผลให้ไม่สามารถดำเนินชีวิตอยู่บนโลกนี้ตามพระประสงค์แห่งการครอบครองและการประกาศนามพระคริสต์ได้อย่างเต็มที่
- บ้างก็อ่อนแอ
- บ้างก็ขาดกำลัง
- บ้างก็ขาดความเข้าใจ
- บ้างก็ไม่ตระหนัก
- บ้างก็หย่อนยาน
- บ้างก็ไม่เห็นคุณค่าและให้ความสำคัญอย่างแท้จริง
การชำระของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
ผลกระทบของการดำเนินชีวิตแบบไม่แยกตนเองเพื่อพระคริสต์ คือ…
1. ทำให้ไม่ได้รับพระพรที่ควรเป็นของตน หรือ พระพรมาอย่างกระปริบกระปรอยไม่เต็มขนาด หรือ พระพรมาไม่ถึงเสียที
2. ไม่เห็นถึงพระสัญญา ที่ทรงตั้งไว้เป็นจริงในชีวิตของตนเองเสียที … ในขณะที่กลับมองเห็นแต่พระพรของคนอื่น
3. ไม่สามารถประกาศนามพระคริสต์ด้วยชีวิต อันเนื่องจากชีวิตไม่รองรับ เพราะยังคงข้องเกี่ยวและมีส่วนร่วมกับความบาปผิดอย่างไม่มีความแตกต่างจากอดีต หรือยังมีส่วนเกี่ยวร่วมที่ยังไม่ได้รับการชำรจากคนที่ไม่เชื่อ
4. เมื่อการแยกตัวออกของตนเองไม่เด่นชัด จะส่งผลให้มีความลำบากใจ มีความคลาดเคลื่อน และบิดเบี้ยวในการตัดสินใจเดินติดตามพระเจ้า ซึ่งอาจพัฒนาจนกระทั่งพยายามหาหลักการมาสนับสนุนในสิ่งที่ตนเองเลือก แม้รู้ทั้งรู้ว่าผิดและไม่ถูกต้อง เพราะเมื่อเทียบกับพระองค์ผู้ทรงบริสุทธิ์และพระวิญญาณบริสุทธิ์ภายในตนย่อมทำงานให้รู้ในส่วนนี้เป็นแน่
5. จุดยืนในชีวิตก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา ตามสถานการณ์และสภาวการณ์ที่เข้ามา ไม่มีความมั่นคง บ้างก็ให้น้ำหนัก ตามอารมณ์ความรู้สึก หรือสิ่งที่ตนเองกังวลและกลัวอยู่
การชำระของพระเจ้าบนแผ่นดินโลก
การแยกตนเองออกเพื่อพระคริสต์ คือ….
1. ไม่มีส่วนร่วมไม่ว่าจะทางหนึ่งทางใดก็ตาม เช่น ไม่วิพากษ์วิจารณ์ แม้ว่าจะขัดกับความรู้สึกของตนเอง
2. ไม่นำตนเองเข้าไปมีส่วนร่วมในความบาปผิดนั้นๆ แต่แยกตนเองออกมา เพราะรู้ว่าพระเจ้าทรงชำระเราแล้ว
2016-06-03